ลาดพร้าวถือเป็นหนึ่งในทำเลที่มีศักยภาพเป็นอันดับต้นๆ ในกรุงเทพฯ ถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่า CBD แต่ก็มีดีมานด์ของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยหนาแน่นมากที่สุดแห่งหนึ่ง หากใครที่มีที่อยู่อาศัยบริเวณลาดพร้าว และต้องทำงานอยู่บริเวณจุดเชื่อมต่ออย่าง อโศก – สุขุมวิท หรือ สีลม – สาทร ในแง่ของคนที่เดินทางกลับบ้านหรือคอนโดฯ ด้วยรถไฟฟ้ามหานครหรือ MRT ย่อมรู้ดีว่า การมุ่งหน้ามาทางฝั่งลาดพร้าว – หมอชิต นั้นจำเป็นต้องยืนเบียดผู้คนมากมายแค่ไหน เรียกได้ว่าดีมานด์ที่อยู่อาศัยฝั่งนี้ช่างต่างกับทางฝั่งสามย่าน – หัวลำโพงลิบลับ หลายคนถึงกลับนั่งย้อนสถานีไปขึ้น MRT ฝั่งหัวลำโพงเพื่อที่จะได้นั่งสบายๆ กลับมาทางฝั่งลาดพร้าว
ดังนั้นนี่คือจุดหนึ่งที่แสดงถึงศักยภาพของทำเลลาดพร้าวว่าปัจจุบันยังมีดีมานด์ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูงมาก เนื่องจากที่ดินบริเวณนี้ยังมีราคาที่คนธรรมดาอย่างเราๆ สามารถต่อกรสู้ราคาที่อยู่อาศัยแนวคอนโดฯ ไหว ในราคาที่ไม่เกิน 3 ล้านบาทยังพอหาโครงการที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าได้อยู่ แถมยังได้ที่อยู่อาศัยที่สะดวกในการเดินทางสามารถเชื่อมต่อไปสู่แหล่งงานและตัวเมืองชั้นในได้แบบสบายๆ ในเวลาไม่กี่นาที และนี่คือหนึ่งเหตุผลว่าทำไม ลาดพร้าวถึงเป็นหนึ่งในทำเลที่น่าอยู่อาศัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในปัจจุบัน

ภาพ via f.ptcdn.info
นอกจากด้านที่อยู่อาศัยแล้ว ด้านพาณิชยกรรมบนทำเลนี้ก็ไม่เป็นสองรองใครมีทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และตึกสูงเกิดใหม่เพิ่มเติมบนย่านนี้หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น อาคาร ปตท.สำนักงานใหญ่, อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารทหารไทย, ศูนย์การค้า Union Mall & Central Plaza ลาดพร้าว ที่ปรับปรุงใหม่, ตลาดนัดสวนจตุจักร ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ รวมไปจนถึงบิ๊กโปรเจ็กต์ที่กำลังสร้าง อย่างเช่นสถานีกลางบางซื่อ รวมไปถึงแผนพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายใต้ชื่อโครงการ ASEAN Linkage & Business Hub บนพื้นที่ทั้งหมด 218 ไร่ ซึ่งจะมีทั้งสํานักงาน ห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย และพื้นที่นันทนาการ โดยมุ่งเป้าว่าจะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนที่จะเกิดขึ้นกับสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนอยู่บนทำเลลาดพร้าว และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความเจริญและความอุดมสมบูรณ์ให้กับทำเลลาดพร้าว
จากที่กล่าวมาทำให้เห็นว่าลาดพร้าวยังคงเดินหน้าไปหาความเจริญยิ่งขึ้น ถึงแม้ในปัจจุบันที่ดินบริเวณนี้จะเหลือน้อยมากก็ตามแต่ในแง่ของที่อยู่อาศัยบริเวณห้าแยกลาดพร้าวใกล้กับ MRT พหลโยธิน และถนนลาดพร้าวใกล้กับ BTS ลาดพร้าวก็ยังมี 2 ดีเวลลอปเปอร์ที่เฟ้นหาที่ดินทำเลสวยมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์คนเมืองที่ต้องการหาคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่อาศัยเองอยู่ในราคาเฉลี่ยที่ประมาณไม่เกิน 150,000 ตารางเมตร และพัฒนาออกมาในรูปแบบของที่อยู่อาศัยแนวสูงที่มีราคาประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งยังตอบโจทย์พนักงานเงินเดือนที่ต้องการอยู่อาศัยในเมืองอยู่ ซึ่งประกอบไปด้วย
โครงการ ไลฟ์ ลาดพร้าว (Life Ladprao) สามารถคลิ๊กเพื่อติดตามชมรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่
‘ไลฟ์’ เดิมถือเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมที่มีราคาเริ่มต้นไม่แพงมากนัก เป็นแบรนด์ระดับกลางรองจากริธึ่ม โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 90,000-130,000 บาท/ตารางเมตร แต่เพื่อตอบรับการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม ทางเอพี (ไทยแลนด์) จึงได้ยกระดับแบรนด์ ‘ไลฟ์’ ภายใต้แนวคิด Platform of Success โดยการนำระบบดิจิตอล นวัตกรรม เทคโนโลยี และการจัดการพื้นที่ใช้สอยมาพัฒนาให้กลายเป็นคอนโดมิเนียมสำหรับปี 2017 อย่างแท้จริง โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 140,000 บาท/ตารางเมตร หรือพูดง่าย ๆ คือปรับแบรนด์ให้มีความพรีเมี่ยมแต่จับต้องได้มากขึ้น ตอบรับคนรุ่นใหม่ กลุ่มสตาร์ทอัพ Young Achiever ที่ต้องการความสำเร็จทั้งเรื่องการทำงานและชีวิตส่วนตัว พร้อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิต และกำลังมองหาที่พักอาศัยที่มอบให้ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย เชื่อมต่อกับผู้คนได้ตลอดเวลา สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ และมีพื้นที่ที่สามารถค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และพัฒนาตนเองได้อยู่เสมอ โดยนับจากนี้ไปทางเอพี (ไทยแลนด์) จะใช้แบรนด์ ‘ไลฟ์’ เป็นดีเอ็นเอใหม่ในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในอนาคต
รายละเอียดโครงการไลฟ์ ลาดพร้าว (Life Ladprao)
พื้นที่โครงการ: 7-0-71.4 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียม 2 อาคาร ประกอบด้วย อาคาร A สูง 45 ชั้น และอาคาร B สูง 46 ชั้น จำนวน 1,615 ยูนิต และ 1 ร้านค้า
กลุ่มเป้าหมาย: วัยทำงานอายุระหว่าง 30-45 ปี ระดับผู้จัดการขึ้นไป หรือเจ้าของกิจการ ผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษา
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างเดือนกรกฎาคม 2560 คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นปี 2563
ลิฟท์: อาคาร A ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ลิฟท์ส่งของ 1 ตัว อาคาร B ลิฟท์โดยสาร 5 ตัว ลิฟท์ส่งของ 1 ตัว
ที่จอดรถ: 716 คัน
สิ่งอำนวยความสะดวก: ล็อบบี้ สวน สระว่ายน้ำแบบไร้ขอบ ฟิตเนส ห้องสตีม ห้องซาวน่า Sky lounge, Private meeting Room, Sky Bar, Social Club ฯลฯ ติดตั้งระบบ Digital เต็มรูปแบบ
ระบบรักษาความปลอดภัย: เปิด-ปิดประตูทางเข้าโครงการ ล็อบบี้ ห้องพัก ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกล้องวงจรปิด และพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
สถานะการขาย: Pre-sale วันที่ 20–21 พฤษภาคม 2560
เงินกองทุนสะสม: 500 บาท/ตารางเมตร
ค่าส่วนกลาง: 50 บาท/ตารางเมตร/เดือน
ราคาเริ่มต้น: 111,000 บาท/ตร.ม.
ราคาเฉลี่ย: 140,000 บาท/ตร.ม.
รูปแบบห้อง
สตูดิโอ พื้นที่ใช้สอย 26-29 ตารางเมตร จำนวน 509 ยูนิต
1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35 ตารางเมตร จำนวน 832 ยูนิต
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 48-74 ตารางเมตร จำนวน 273 ยูนิต
ดูเพล็กซ์ พื้นที่ใช้สอย 342 ตารางเมตร จำนวน 1 ยูนิต
โครงการ มารุ ลาดพร้าว 15 (Maru Ladprao 15) สามารถคลิ๊กเพื่อติดตามชมรีวิวฉบับเต็มได้ที่นี่
www.ddproperty.com/รวมโครงการใหม่/รีวิวโครงการใหม่/พรีวิวโครงการใหม่-มารุ-ลาดพร้าว-15-maru-ladprao-15-175869
บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ตัดสินใจซื้อที่ดินที่เป็นปั้มน้ำมันเก่าใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว เพียง 70 ม. มาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่อย่าง มารุ ลาดพร้าว 15 (Maru Ladprao 15) บนที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้าย่านลาดพร้าวที่เรียกได้ว่าไม่ถูกเลยในปัจจุบัน โดยมีราคาซื้อขายที่ดินกันถึง 300,000 บาทขึ้นไปต่อตารางวา แต่ทั้งนี้เองเมเจอร์ก็สามารถนำที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการระดับกลางที่มีมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท โดยเน้นจุดเด่นตอบโจทย์คนเมืองด้วยพื้นที่ส่วนกลางในการเลี้ยงสัตว์ และโซนสำหรับคนรักสุขภาพ โดยโครงการ มารุ ลาดพร้าว 15 (Maru Ladprao 15) น่าจะมีราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท
รายละเอียดโครงการมารุ ลาดพร้าว 15 (Maru Ladprao 15)
พื้นที่โครงการ: 1-3-07 ไร่
ลักษณะโครงการ: คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 31 ชั้น 1 อาคาร ห้องชุดพักอาศัย 350 ยูนิต ร้านค้า 1 ยูนิต
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว, ลิฟท์ขนของ 1 ตัว
ที่จอดรถ: 157 คัน คิดเป็น 44% จอดรถที่ชั้น 2-6
สิ่งอำนวยความสะดวก: โถงต้องรับ, ห้องจดหมาย, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, สวนลอยฟ้า, Access Card Control, กล้องวงจรปิด, รปภ. 24 ชม.
ราคาเฉลี่ย: ประมาณ 150,000 บาทต่อตารางเมตร
รูปแบบห้อง
สตูดิโอ ขนาด 30 ตร.ม. (พื้นจรดเพดานมีความสูง 2.6 ตร.ม.)
1 Bedroom 32-35 ตร.ม. (พื้นจรดเพดานมีความสูง 2.6 ตร.ม.)
2 Bedroom 50-60 ตร.ม. (พื้นจรดเพดานมีความสูง 2.6 ตร.ม.)
Loft 28-32 ตร.ม. (พื้นจรดเพดานมีความสูง 4.6 ตร.ม.)
ทั้งนี้นอกจากดีมานด์ที่ต้องการอยู่อาศัยเองคอนโดมิเนียมบนย่านลาดพร้าวก็ยังมีศักยภาพที่ดีสำหรับนักลงทุน โดยในปัจจุบันมี Yield ค่าเช่าอยู่ที่ 5-8% เลยทีเดียว เนื่องจากบนย่านนี้ครบครันไปด้วยสถานีรถไฟฟ้าแบบ Sky Line และใต้ดิน อีกทั้งจะมีจุดตัดในอนาคตของสายสีเหลืองที่บริเวณสถานีลาดพร้าว และสถานีกลางบางซื่อพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับลาดพร้าวไม่กี่สถานีก็กำลังจะถูกพัฒนาให้กลายเป็น Hub คมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ อีกด้วย ซึ่งหากจะบอกว่าทำเลนี้ไม่มีความน่าอยู่เพราะรถติด แออัด ก็ต้องคิดใหม่จริงๆ เนื่องจากความหนาแน่นของผู้คนในย่านนี้สามารถบ่งบอกถึงความเจริญในแง่บวกได้มากกว่าแง่ลบบนย่านลาดพร้าว