หลังจากศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ให้กรุงเทพมหานคร, ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ปลัดกรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการเขตพญาไท และผู้อำนวยการเขตดินแดง พิจารณาดำเนินการในเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อถนนและซอยบริเวณถนนสุทธิสารวินิจฉัย และซอยอินทามระ ทั้ง 59 ซอย ให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและหลักเกณฑ์ของกฎหมายต่อไป ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด หลังนายกฤษฎา อินทามระ ในฐานะทายาทสกุลอินทามระ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องข้อหาละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด และศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้อง โดยศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า การดำเนินการเปลี่ยนชื่อถนนของกรุงเทพมหานครไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงตามประวัติทะเบียนถนน พ.ศ. 2503 อีกทั้งไม่เคยปรากฏว่า กรุงเทพมหานครเคยรวบรวมข้อมูลเรื่องนี้เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน จึงมีคำพิพากษากลับ
คำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว ส่งผลทำให้กรุงเทพมหานครต้องเปลี่ยนชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัย ตั้งแต่แยกสะพานควายถึงแยกสุทธิสาร ให้กลายเป็นถนนอินทามระทั้งหมดภายใน 180 วัน หรือภายในวันที่ 16 มกราคม 2561
ประวัติความเป็นมาของชื่อถนนทั้ง 2 เส้น
เมื่อปี 2503 กรมตำรวจในขณะนั้นมีมติให้ตั้งชื่อถนนตัดใหม่ คือ ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ช่วงแยกสะพานควาย ในที่ดินจัดสรรข้างสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ โดยให้แบ่งเป็น 2 ตอน คือ ที่ดินตอนหน้าของนายมารุต บุนนาค บุตรของพระสุทธิสารวินิจฉัย ให้ตั้งชื่อว่า “ถนนสุทธิสารวินิจฉัย” มีระยะจากถนนพหลโยธิน (สะพานควาย) เข้าไป 500 เมตร ส่วนที่ดินตอนหลังของ พล.ต.ท.โต๊ะ อินทามระ อดีตหัวหน้ากองคลัง กรมตำรวจ เป็นผู้บุกเบิกพัฒนาที่ดินบริเวณสุทธิสารและสะพานควายให้เป็นที่อยู่อาศัยของข้าราชการตำรวจ ย่านสุทธิสารและสะพานควาย จึงให้ตั้งชื่อว่า “ถนนอินทามระ” มีระยะต่อจากถนนสุทธิสารวินิจฉัยเป็นต้นไป
ต่อมาในปี 2547 กรุงเทพมหานครทำการปรับปรุงระบบเรียกชื่อถนน ตรอก ซอย ตามมาตรฐานสากลให้เหมือนกันทั้ง 50 เขต พบว่า มีป้ายชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัยแต่ไม่มีป้ายชื่อถนนอินทามระ มีเพียงซอยอินทามระ 1 ถึงซอยอินทามระ 59 กรุงเทพมหานครเห็นว่าประชาชนรู้จักแต่ชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัยมายาวนาน จึงให้ชื่อถนนทั้งสายตั้งแต่แยกสะพานควายถึงซอยลาดพร้าว 64 เป็นชื่อถนนสุทธิสารวินิจฉัยทั้งหมด โดยคงไว้แต่ชื่อซอยอินทามระเท่านั้น ทำให้ลูกหลานของตระกูลอินทามระไม่ยอม นายกฤษฎาได้ฟ้องศาลปกครองกลาง โดยเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2555 พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากมองว่า เป็นเพียงแค่ผู้พัฒนาที่ดินให้เป็นโครงการจัดสรรของกรมตำรวจในยุคนั้น ไม่ใช่เจ้าของที่ดินเหมือนบุตรพระสุทธิสารวินิจฉัย แค่มีชื่อห้อยท้ายชื่อซอยก็เพียงพอให้ระลึกถึงคุณงามความดีแล้ว ทางทายาทตระกูลอินทามระ จึงยื่นฟ้องศาลปกครองสูงสุดและชนะคดีในที่สุด
กทม. เตรียมเปลี่ยนชื่อ “ถนนสุทธิสารวินิจฉัย”
พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้ สำนักงานเขตพญาไท ดินแดง และห้วยขวาง เร่งสำรวจป้ายชื่อถนนและป้ายจราจร เพื่อเร่งดำเนินการปรับเปลี่ยนเป็น “ถนนอินทามระ” ตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด
เบื้องต้นพื้นที่เขตพญาไทมีบ้านที่มีที่อยู่บริเวณถนนสุทธิสารวินิจฉัยประมาณ 8,000 กว่าหลังคาเรือน และมีป้ายชื่อถนน 3 ป้าย ซึ่งต้องประสานสำนักการจราจรและขนส่งแก้ไขข้อมูลป้ายชื่อต่อไป ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงชื่อถนนไม่กระทบต่อเลขที่บ้าน และเมื่อเปลี่ยนชื่อถนนอย่างเป็นทางการแล้ว จะต้องมีการแก้ไขข้อมูลบนบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านด้วย ซึ่งตั้งแต่บริเวณแยกสะพานควายถึงแยกห้วยขวาง เมื่อเปลี่ยนเป็นชื่อถนนอินทามระแล้วอาจจะต้องเรียงบ้านเลขที่ใหม่
ระหว่างนี้ สำนักงานเขตจะลงพื้นที่สำรวจ พร้อมเก็บข้อมูลว่ามีบ้านเลขที่ใดบ้างต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูล จากนั้นจะมาหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะทำหนังสือแจ้งไปยังประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเพื่อเดินทางมาเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเฉพาะตรงชื่อถนนที่ระบุในบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามหากมีการปรับเปลี่ยนชื่อถนนข้อมูลต้นฉบับของประชาชนก็จะมีการเปลี่ยนชื่อถนนให้โดยอัตโนมัติ จึงไม่ต้องรีบมาเปลี่ยนบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้าน
ส่วนชื่อสถานีรถไฟฟ้า ไม่ได้อยู่ในอำนาจที่ของกรุงเทพมหานครสามารถเปลี่ยนได้ การเปลี่ยนชื่อสถานีรถไฟฟ้าซึ่งเป็นสถานที่เชิงพาณิชย์จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานหรือบริษัทเจ้าของกิจการมากกว่า
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน