ทำประกันสุขภาพวันนี้ ช่วยปกป้องเงินออมในอนาคต

27 ก.ค. 2560

“ทำประกันสุขภาพช่วยปกป้องเงินออมที่อาจต้องจ่ายเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลในอนาคต”

มีใครเคยเป็นแบบนี้บ้าง เวลาเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมา ก็ไม่กล้าไปหาหมอ คิดว่าเดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ไม่ใช่เพราะกลัวเข็มฉีดยา หรือกลัวการกินยาแต่อย่างใด แต่เพราะกลัวค่ารักษาพยาบาลที่จะเกิดขึ้น

เชื่อว่าหลายคนกังวลเรื่องนี้ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าค่าหมอ ค่ายาเดี๋ยวนี้ไม่ใช่ถูกๆ เจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องมีหลักพัน เผลอๆ บางโรคมีค่ารักษาสูงถึงหลักหมื่นหลักแสน เรียกว่า เจ็บป่วยทีหนึ่งสะเทือนถึงเงินในกระเป๋ากันเลยทีเดียว

ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว จะทำอย่างไรให้เราไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาล ซึ่งแนวทางหนึ่ง ก็คือ “การทำประกันสุขภาพ” นั่นเอง ทั้งนี้ ประกันสุขภาพก็มีหลายรูปแบบ แล้วเราควรเลือกซื้อแบบไหนดี K-Expert มีคำแนะนำในการพิจารณาทำประกันสุขภาพมาฝาก

ซื้อแบบแยกค่าใช้จ่าย vs ซื้อแบบเหมาจ่าย
ประกันสุขภาพสามารถแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักๆ ด้วยกัน คือ แบบแยกค่าใช้จ่าย และแบบเหมาจ่าย

โดยถ้ามองว่าแต่ละครั้งที่เราเจ็บป่วย ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูงมากนัก ก็เลือกทำประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย ซึ่งแนะนำให้ดูว่าโรงพยาบาลที่คาดว่าจะเข้ารับบริการเมื่อเจ็บป่วยนั้น มีค่าห้องเท่าไร เพื่อเลือกซื้อวงเงินค่าห้องของแบบประกันให้สอดคล้องกัน ยิ่งค่าห้องสูง วงเงินค่ารักษา เช่น ค่าอาหาร ค่าหมอ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่ารักษา
พยาบาลอื่นๆ ก็ยิ่งสูงตาม แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายรายการใดที่เกินวงเงิน ก็ต้องออกค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นเพิ่มเติมเอง สำหรับค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายจะขึ้นอยู่กับค่าห้อง

แต่ถ้าอยากให้ความคุ้มครองจากประกันครอบคลุมค่ารักษามากที่สุด เพราะแต่ละครั้งที่เข้ารับการรักษาอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายก็จะเหมาะกว่า อย่างไรก็ตาม ประกันสุขภาพแบบนี้อาจมีค่าเบี้ยประกันที่สูง เนื่องจากไม่มีการจำกัดวงเงินค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการ อย่างไรก็ตาม บางกรมธรรม์อาจกำหนดวงเงินสำหรับค่ารักษาบางรายการ เช่น ค่าห้อง โดยถ้าเราพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่มีค่าห้องสูงกว่าที่กำหนดในกรมธรรม์ เราก็ต้องจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เองด้วย หรือซื้อประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อให้มีความคุ้มครองเพิ่มขึ้นก็ได้

ซื้อเฉพาะคุ้มครองผู้ป่วยใน vs ซื้อเพิ่มเติมผู้ป่วยนอก
ประกันสุขภาพโดยทั่วไปจะคุ้มครองค่ารักษากรณีที่เราเป็นผู้ป่วยใน คือ สามารถเบิกเคลมค่ารักษาจากประกันได้เมื่อมีการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง หรือป่วยด้วยโรคที่จัดอยู่ใน Day Case คือ เป็นโรคที่เมื่อรับการรักษาแล้ว ไม่ต้องแอดมิด สามารถกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้ และเพียงวันเดียวก็ทำงานหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ส่วนความคุ้มครองกรณีผู้ป่วยนอก แบบที่ไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล หรือการรักษาตามคลินิกทั่วไป มักต้องซื้อเพิ่มเติม แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อครั้งมักไม่สูงนัก แต่โดยส่วนใหญ่ คนเรามีโอกาสเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ ได้บ่อยกว่าการเจ็บป่วยแบบที่ต้องนอนโรงพยาบาล ทำให้ถ้ารวมค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งเข้าด้วยกันแล้ว ก็อาจเป็นจำนวนเงินที่สูงได้ ดังนั้น ถ้ามองว่า ตัวเองมีโอกาสเจ็บป่วยบ่อย ก็ควรซื้อความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอกไว้ด้วย แม้ว่าต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันสูงขึ้น แต่ก็ช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้กับตัวเราเอง

นอกจากการทำประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโดยทั่วไปแล้ว ยังมีประกันสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่งที่เราควรทำไว้เช่นกัน ก็คือ “การทำประกันโรคร้ายแรง” เพราะจากสถิติการเสียชีวิตของคนไทยพบว่า ทุกๆ 1 ชั่วโมงจะมีคนเสียชีวิตจาก 5 โรคหลัก ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และโรคความดันโลหิตสูง 

ยิ่งใครที่มีคนในครอบครัวหรือญาติพี่น้องมีประวัติการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง ก็ยิ่งควรทำ เพราะค่ารักษาครั้งหนึ่งอาจสูงถึงหลักแสนหรือหลักล้าน ถ้ามีเงินเก็บไม่เพียงพอ อาจส่งผลกระทบต่อการเงินได้ ซึ่งประกันโรคร้ายแรงก็มีหลายรูปแบบด้วยกัน บางแบบคุ้มครองเฉพาะโรคมะเร็ง บางแบบคุ้มครอง 4-5 โรคที่คนไทยเป็นกันมาก หรือบางแบบคุ้มครองถึง 40 หรือ 50 โรคร้ายแรง ซึ่งแบบที่ให้ความคุ้มครองหลายโรคจะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าแบบที่คุ้มครองเพียงไม่กี่โรคเท่านั้น

เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่า เราจะเจ็บป่วยเมื่อไร เป็นโรคอะไร หรือต้องใช้เงินค่ารักษามากน้อยแค่ไหน ซึ่งเราคงไม่อยากให้เงินที่เราเก็บหอมรอมริบไว้เพื่อเป้าหมายหรือความฝันในชีวิตของเราต้องหมดไปกับค่ารักษาพยาบาลเป็นแน่ จะดีกว่าไหม ถ้าในแต่ละปี เรากันเงินส่วนหนึ่งมาทำประกันสุขภาพเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เราอาจต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล โดยก่อนทำประกัน ควรศึกษารายละเอียดความคุ้มครองเพื่อเลือกแบบประกันที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด และที่สำคัญ ดูแลรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้สุขภาพที่ดีอยู่กับเราไปนานๆ

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ประกันสุขภาพ...ซื้ออย่างไรให้คุ้ม

“ศึกษาแบบประกันอย่างละเอียดว่าคุ้มครองอะไรบ้าง ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง แ

อ่านต่อ8 ก.ย. 2559