ด้วยปัญหาการขาดแคลนพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ที่หน่วยงานหลายฝ่ายได้ตระหนัก จึงทำให้ภาครัฐหรือแม้เอกชนต่างร่วมแรงร่วมใจจะผลักดันพื้นที่ดังกล่าวให้เพิ่มขึ้น เฉกเช่นเดียวกับคุณปุ้ย-วรรณพร (ล้ำซำ) พรประภา กรรมการผู้จัดการบริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด (P Landscape) นักภูมิสถาปัตย์มือหนึ่งของเมืองไทย ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์การออกแบบพื้นที่สีเขียวระดับบิ๊กโปรเจกต์มานับไม่ถ้วน อาทิ โรงแรมระดับโลก ไปจนถึงพระตำหนักสิริยาลัยตรงข้ามกับวัดไชยวัฒนาราม หรือการปรับปรุง Masterplan สวนลุมพินี อันชวนให้เธอเกิดความคิดต่อยอดอยากปรับเปลี่ยนพื้นที่สีเขียวในมุมมองใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพสังคมเมืองคนกรุงในปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของภูมิสถาปนิก
ย้อนเวลากลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ในวงการสถาปนิก ดูเหมือนการออกแบบภูมิทัศน์จะเป็นเรื่องใหม่ของใครหลายๆ คนอย่างมาก แต่ถึงกระนั้นก็ทำให้กลุ่มคนที่หลงใหลเสน่ห์ของทิวทัศน์ธรรมชาติ ต้องมนต์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น เฉกเช่นเดียวกับคุณปุ้ย-วรรณพร (ล่ำซำ) พรประภา สาวเก่งด้านภูมิสถาปัตย์ โดยเธอได้ค้นพบความเป็นตัวเองผ่านการออกแบบงาน Landscape

ผลงานของคุณปุ้ย กับนิทรรศการถาวรของสวนไทยร่วมสมัย Garden of the Mind ที่ ‘Garten de Welt’ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
“ปุ้ยจบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วหลังจากนั้นไปต่อด้านภูมิสถาปัตย์ในระดับปริญญาโท เหตุที่เลือกเรียนด้านนี้ เป็นเพราะตัวเองชอบอะไรที่เป็นภูมิทัศน์ ธรรมชาติ ความร่มรื่นอย่างต้นไม้ อีกอย่างงานด้านนี้มันมีความเป็นคอนเซปต์ ตั้งแต่สเกล เล็กๆ ไปจนถึงระดับใหญ่ ทำให้ตัวเองรู้สึกชอบและท้าทายกับการออกแบบด้านนี้ ซึ่งช่วงที่ตนเองเป็นนิสิต ได้มีโอกาสไปฝึกงานกับบริษัทชื่อดังด้าน Landscape อย่าง A49 และได้รับความรู้จากศาสตราจารย์เกียรติคุณ เดชา บุญค้ำ ศิลปินแห่งชาติด้วย พอเรียนจบก็มีโอกาสช่วยเพื่อนออกแบบพื้นที่สวนในบ้านคอนโด จนรู้สึกว่าทำเป็นงานอดิเรกไม่ได้และ จึงมาเปิดเป็นสตูดิโอ P Landscape รับงานออกแบบทั้งอสังหาฯ บ้าน คอนโด โรงแรม หรืองานระดับภาครัฐ ซึ่งก็ทำมา 20 ปีแล้ว”
พื้นที่สีเขียวในมุมมองใหม่
หลังจากคุณปุ้ยได้รับบทบาทหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท พี แลนด์สเคป จำกัด (P Landscape) เธอได้มีโอกาสออกแบบงานภูมิสถาปัตย์มากมาย ตั้งแต่พระตำหนักสิริยาลัยตรงข้ามกับวัดไชยวัฒนาราม การปรับปรุง Masterplan สวนลุมพินี จนถึงโรงแรมชั้นนำระดับโลก และเมื่อไม่นานมานี้ยังได้รับเลือกเป็นหนึ่งในแปดภูมิสภาปนิกจากทั่วโลก เพื่อออกแบบนิทรรศการถาวรของสวนไทยร่วมสมัย Garden of the Mind ที่ ‘Garten de Welt’ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีอีกด้วย ทั้งนี้ด้วยการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งหมดของเธอ จนทำให้มีชั่วโมงบินเรื่องพื้นที่สีเขียวค่อนข้างสูง จึงทำให้สาวเก่งด้านภูมิสถาปัตย์ผู้นี้จึงเกิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาพื้นที่สีเขียวในเมืองกรุง อันเข้าสู่ขั้นวิกฤตไปแล้วทุกที
“ทุกวันนี้กรุงเทพฯ บ้านเราต้องยอมรับว่าเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นค่อนข้างสูง เห็นได้ชัดเลยเรื่องปัญหารถติด เพราะฉะนั้นจะให้แก้ปัญหาด้วยวิธีเพิ่มสวนสาธารณะหรือต้นไม้บนถนน คงเป็นไปได้ยาก แม้ปุ้ยเองจะมีความหวังว่าวันนึง ถ้ารถไฟฟ้าสายต่างๆ เสร็จ เปิดให้ใช้บริการทั่วถึง คนจะใช้รถน้อยลง สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวไปได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าเรื่องเช่นนี้จำเป็นต้องพร้อมใจร่วมมือกันหลายฝ่าย ประกอบเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องปรับผังเมืองใหม่ ซึ่งมันค่อนข้างยุ่งยาก ทางที่ดีควรเพิ่มพื้นที่สีเขียวแนวตั้งหรือบนดาดฟ้า บนที่พักอาศัยของแต่ละคน น่าจะดีที่สุด เหมือนอย่างในประเทศอเมริกาหรือฮ่องกง ที่ได้สร้าง Community Garden ขึ้น เป็นการแชร์พื้นที่สวน พื้นที่สีเขียวร่วมกัน โดยส่วนตัวปุ้ยมองว่าเป็นมุมมองใหม่ที่ดีของพื้นที่สีเขียวเลยหละ”
อสังหาฯ กับพื้นที่สีเขียว
แนวคิดของพื้นที่สีเขียวมุมมองใหม่ของคุณปุ้ย ดูเหมือนจะสามารถนำมาต่อยอดกับเทรนด์การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในวงการอสังหาฯ อย่างบ้านและคอนโดได้ “จริงๆ แล้วทุกวันนี้ก็ออกแบบ Landscape ให้กับโครงการบ้านอยู่แล้ว โดยปกติตัวเองจะพยายามใส่เรื่องราววิถีชีวิตของคนสอดแทรกไปในพื้นที่สีเขียว อย่างสวนก็จะมีลู่วิ่ง กิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันในครอบครัว ส่วนคอนโดจะเพิ่มส่วนของพื้นที่สีเขียวมุมมองใหม่อย่างแนวตั้ง ที่เป็น Green Façade แบบถาวร และส่วนของดาดฟ้า ซึ่งทุกวันนี้ก็เริ่มเห็นหลายโครงการเขาทำกันเยอะแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้ผู้ประกอบการควรให้ความใส่ใจคือ ต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่เก่า มันมีอายุนานหลายสิบปี ควรอนุรักษ์เก็บไว้ หรือทำการโยกย้ายอย่างถูกวิธี ที่สำคัญอาจจะต้องศึกษาเรื่องกฎหมายสักนิด ว่าพื้นที่ส่วนของทางเดินรถดับเพลิงที่โครงการคอนโดต้องมีนั้น สามารถสร้างสรรค์ให้เป็นพื้นที่สีเขียวได้ไหม เพราะถ้าทำได้ และสามารถทำทุกโปรเจกต์ก็จะสามารถแก้ปัญหาการขาดแคลนพื้นที่สีเขียวในเมืองกรุงที่มีความหนาแน่นค่อนข้างมากไปได้เยอะ”
เรื่องของพื้นที่สีเขียวมุมมองใหม่ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้ง อย่าง Green Façade หรือบนดาดฟ้า เป็นสิ่งที่หลายครัวเรือนสามารถสร้างสรรค์คนละไม้ละมือได้ ทั้งนี้ช่วยสร้างความน่าอยู่ให้กับเมืองกรุง พร้อมเสกอากาศบริสุทธิ์ ภายใต้คำว่า “Microclimate” หรือพื้นที่หนึ่งสามารถทำให้อุณหภูมิลดลงได้ หากมีพื้นที่สีเขียวที่เพียงพอ
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน