[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] ทำเลก็ยังเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ในการเลือกที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะทำเลของคอนโดมิเนียม ถือว่ามีความสำคัญมาก ต้องเลือกที่เหมาะกับการใช้ชีวิต และสอดคล้องกับงบประมาณที่เรามีด้วย ซึ่งการที่ภาครัฐมีแผนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ อย่างชัดเจน ทำให้คนที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมมีทางเลือกมากขึ้น ในราคาที่จับต้องได้
เพราะหากวิเคราะห์คอนโดมิเนียมบนทำเลที่มีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว เช่น โซนใจกลางเมือง โซนรอบนอกเมืองที่มีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ระดับราคาคอนโดมิเนียมปรับขึ้นไปสูงมาก สูงแรง และสูงเร็วเกินกว่า ราคาต่อตารางเมตรไม่น้อยกว่า 100,000 บาทแล้ว ราคารวมต่อยูนิตเฉลี่ยทะลุ 2.5 ล้านบาท ด้วยปัจจัยดังกล่าวโครงการบนทำเลที่กำลังจะมีรถไฟฟ้าเกิดขึ้นในอนาคต ก็จะเป็นอีกทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค
แต่ทำเลที่จะมีโครงการรถไฟฟ้าเกิดใหม่ในอนาคต ก็ไม่ใช่ทุกทำเล ทุกสถานี จะมีศักยภาพ และพร้อมเป็น “ทางเลือกในการอยู่อาศัย” ดังนั้น จึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลอนาคตที่มีศักยภาพจริง ซึ่งการเลือกทำเลที่ดีจะส่งผลอย่างไรบ้างนั้น ขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดๆ เช่น เดินทางสะดวกสบาย ยกระดับคุณภาพชีวิต ไม่ต้องทนรถติดใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนนาน มีเวลาในการพักผ่อนที่มากขึ้น, ปลอดภัยในการอยู่อาศัย, มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ เสริมความเป็นอยู่ครบทุกด้าน, ราคามีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น จากปัจจัยที่กล่าวมา โดยหากเราต้องการขยับขยายครัวเรือนคอนโดมิเนียมบนทำเลที่ดี ก็มีโอกาสที่จะปล่อยขายได้เร็ว และได้ราคาที่ดีกว่า และมีโอกาสลงทุนด้วยการปล่อยเช่าได้
สำหรับทำเลที่จะได้รับอานิสงส์จากโครงการรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ๆ 4 ทำเลศักยภาพที่ไม่ควรมองข้าม ได้แก่ ทำเลพหลโยธิน ทำเลเกษตร-รัชโยธิน ทำเลรามคำแหง และทำเลอ่อนนุช ซึ่งเป็นที่หากไม่ได้มีรถไฟฟ้า ก็ถือว่ามีศักยภาพด้วยตัวเองอยู่แล้ว ด้วยแต่ละทำเลมีแหล่งงาน มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีโรงเรียน มหาวิทยาลัย ชุมชนที่อยู่อาศัย
แต่เมื่อถูกเสริมด้วยการมีรถไฟฟ้าสายใหม่เข้ามา ก็ยิ่งทำให้ 4 ทำเลดังกล่าวมีความน่าสนใจมากขึ้น โดยรถไฟฟ้า 3 เส้นทางหลักที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และเป็นตัวหนุนให้ทั้ง 4 ทำเลดังกล่าว ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ และหมอชิต-สะพานใหม่) รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี /บึงกุ่ม) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีแดง
BTS Green Line
รถไฟฟ้าสายสีเขียว ฝั่งหมอชิต-สะพานใหม่ มีระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร รวมสถานียกระดับ 16 สถานี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีหมอชิตที่เปิดให้บริการปัจจุบัน ผ่านบริเวณห้าแยก ลาดพร้าว ผ่านแยกรัชโยธิน แยกมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิ่งยาวไปจนถึงบริเวณสะพานใหม่หน้าตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่พลิกโฉมให้บริเวณพหลโยธิน เกษตรเปลี่ยนไปมาก จะกลายเป็นฮับสำคัญของกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางที่วิ่งตรงเข้าใจกลางเมือง
รถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ ) ก็เจริญเติบโตจากฝั่งสุขุมวิทตอนต้นและตอนกลางมาอย่างต่อเนื่องแล้ว วันนี้ทำเลเกาะแนวแบริ่ง-สมุทรปราการจะยิ่งเห็นความไพร์มที่มากขึ้น จากการที่รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมีความคืบหน้ามากแล้ว และเป็นเส้นทางที่วิ่งตรงเข้าใจกลางเมือง เอกมัย ทองหล่อ อโศก สยาม ได้ทันที
รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี)
ตามรายงานของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะมีด้วยกัน 2 ช่วง คือ ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี และช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมฯ ระยะทางรวม 39.6 กม. เป็นสถานีใต้ดิน 23 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี ซึ่งปัจจุบันช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรีได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้เริ่มดำเนินการแล้ว จะส่งผลบวกกับโซนรามคำแหงอย่างมาก เป็นย่านที่มีมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีแหล่งการค้าทั้งแบบศูนย์การค้า และตลาดนัดขนาดใหญ่ มีผู้คนสัญจรไปมาตลอดทั้งวัน
เส้นทางนี้จึงเป็นรถไฟฟ้าสายที่ถูกคาดการณ์ว่า จะกลายเป็นน้องๆ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นทางปัจจุบันที่มีผู้ใช้งานคึกคักตลอดทั้งวัน ไม่ใช่แค่เส้นทางฟีดเดอร์ขนคนเข้าเมืองในช่วงเช้าแล้วขนคนกลับไปยังพื้นที่อยู่อาศัยบริเวณชานเมือง คาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณปี 2023
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง)
เป็นระบบขนส่งมวลชนประเภทรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Straddle Monorail) มีลักษณะเป็นโครงสร้างยกระดับตลอดแนวเส้นทาง มีระยะทางทั้งสิ้น 30.4 กิโลเมตร รวม 23 สถานี เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสายสีน้ำเงินที่สถานีรัชดา (สถานีลาดพร้าวของสายสีน้ำเงิน) รถไฟเชื่อมต่อท่าอากาศยาน (Airport Rail Link) บริเวณทางแยกต่างระดับพระราม 9และเชื่อมต่อกับสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง ซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะผ่านชุมชน แหล่งงาน และศูนย์การค้าสำคัญหลายแห่ง ส่งผลบวกให้กับทั้งกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก โซนอ่อนนุช บางนา สำโรง และโซนเหนือ พหลโยธิน
BTS Green Line
รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี /บึงกุ่ม)
โดยแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) เริ่มต้นจากแยกแคราย เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) และสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ไปตามแนวถนนงามวงศ์วาน เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) บริเวณสถานีบางเขน ผ่านแยกเกษตร เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-คูคต) บริเวณสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไปตามแนวถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนนวมินทร์ และไปสิ้นสุดบริเวณถนนรามคำแหง เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี) บริเวณแยกลำสาลี รวมระยะทางประมาณ ๒๑.๕ กิโลเมตร
ทั้ง 4 ทำเลที่กำลังจะมีรถไฟฟ้าในอนาคต มีข้อดีสำคัญ คือ เป็นพื้นที่ที่เติบโตด้วยตัวเองมาก่อนแล้ว มีองค์ประกอบในการอยู่อาศัยที่สมบูรณ์มาก รถไฟฟ้าเป็นตัวเสริมในเรื่องการเดินทางให้ดีขึ้น แต่ความเป็นอยู่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์ครบอยู่แล้ว และด้วยศักยภาพของ 4 ทำเลที่กล่าวถึงทั้ง ทำเลพหลโยธิน ทำเลเกษตร-รัชโยธิน ทำเลรามคำแหง และทำเลอ่อนนุช ทำให้ค่ายออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ซุ่มหาซื้อที่ดินย่านนี้เพื่อพัฒนา 4 คอนโดมิเนียมใหม่ ภายใต้แบรนด์ ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge) และพร้อมเปิดตัวเร็วๆ นี้
เริ่มด้วย โครงการไนท์บริดจ์ คอนลาจ รามคำแหง (Knightsbridge Ramkhamhaeng)
ที่มีจุดเด่น 100 เมตร ถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีหัวหมาก ใกล้ Interchange รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลำสาลี สายสีส้มและสายสีเหลืองที่วิ่งไปลาดพร้าวและถนนพัฒนาการ
ที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ปากซอยราม 42 บนที่ดินขนาด 4-0-11.9 ไร่ เป็นอาคารสูง 25 ชั้น 1 อาคารและ อาคารจอดรถ 6 ชั้นอีก 1 อาคาร จำนวน 682 ยูนิต
ภาพโครงการไนท์บริดจ์ รามคำแหง
ทำเล สามารถลัดไปออกศรีณครินทร์ -พระราม9 ได้ซึ่งสะดวกในการขับรถเข้าเมือง
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก : 370 เมตร โรงพยาบาลรามคำแหง 500 เมตร เดอะมอลล์ บางกะปิ 540 เมตร แมคโคร บางกะปิ 1 กม. เทสโก้ โลตัส บางกะปิ 2.2 กม. มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2.8 กม. มหาวิทยาลัยเอแบค
บริเวณพื้นที่ส่วนกลางถูกจัดออกมาได้อย่างคลาสสิค และครบครันโดยมี สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการคือ Visitor lobby, Greenery walkway, Co-working space, Co kitchen & Co-pantry space, Swimming pool in the park, Fitness, Laundry room & Living space และ Sky jogging track
Visitor lobby
โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช (Knightsbridge Prime Onnut)
ทำเลจุดเด่น 30 เมตร บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า อ่อนนุช 600 เมตร บีทีเอส อ่อนนุช 700 เมตร เทสโก้ โลตัส อ่อนนุช 900 เมตร จากปากซอยอ่อนนุช 1.2 กม. โรงเรียนนานาชาติเวลล์ส สาขาอ่อนนุช 1.5 กม. ทางด่วน เจริญราษฎร์ 2.1 กม. เกตเวย์ เอกมัย
• ทำเลอ่อนนุช เป็นจุดขยายตัวของทำเลสุขุมวิทตอนกลาง (Mid-Sukhumvit) เปรียบเสมือน HUB ย่อยของการเดินทาง เช่นเข้าเมืองไปทาง เอกมัย-ทองหล่อ,พระราม4 หรือ จะออกไปทางสี่แยกบางนา อีกทั้งยังใกล้ทางขึ้นลงทางด่วนถึง 2 จุด และใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ
• การขยายตัวของทำเลสุขุมวิท ลูกค้าต่างชาติทั้งเอเซียและยุโรปมีความต้องการห้องพักอาศัยในเมืองใกล้แนวรถไฟฟ้าในทำเลเที่เดินทางสะดวกและอุดมสมบูรณ์ในราคาค่าเช่าที่ถูกลงพร้อมกับการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เชื่อมต่อจุด Interchange บางนา-สุวรรณภูมิ ทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น
• มีการเจริญเติบโตในด้านการลงทุนต่างๆ ทั้งที่พักอาศัย,Community Mall,โรงแรม และ โรงเรียนนานาชาติ
• ทำเลอ่อนนุชมีสัญญาณการขยายตัว มีการปรับราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10% ทุกปี
ภาพบรรยากาศ Rooftop โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช
โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน (Knightsbridge Prime Ratchayothin)
หมุนโลกสู่องศาใหม่ 3 องศา
– องศาแรก องศาใหม่ด้านการเดินทาง ที่มีจุดเด่น 50 เมตร บีทีเอส พหลโยธิน 180 เมตร อาคารสำนักงาน เอซีบี ปาร์ค350 เมตร เมเจอร์ รัชโยธิน1.3 กม. เซ็นทรัล ลาดพร้าว 1.7 กม. โรงพยาบาลเมโย 2 กม. มหาวิทยาลัยเกษตร และ 3 กม. ตลาดจตุจักร
– องศาสอง องศาใหม่แห่งการใช้ชีวิต เต็มเปี่ยมด้วยความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 33 ครอบครัวพร้อมที่จอดรถถึง 70%
– องศาสุดท้าย องศาใหม่ของการอยู่อาศัย ห้องเพดานสูงถึง 3 เมตร พร้อมเฟอร์นิเจอร์รูปแบบใหม่ที่ออกแบบได้อย่างลงตัว
Lobby ของโครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน
โครงการไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ (Knightsbridge Kaset Society)
ภาพโครงการไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้
คอนโดสูงแห่ง Iconic Of Living แห่งใหม่ ที่มีอินสไปเรชั่น มาจาก Marina Bay Sand สิงคโปร์
ส่วนตัว Private เพียง 6 ยูนิตต่อชั้น พร้อมอาคารที่จอดรถอัตโนมัติ Automatic Parking กว่า 60%
ด้านการเดินทาง ทำเล มีจุดเด่นคือใกล้ รถไฟฟ้าถึง 4 สาย และเพียง 40 เมตร ถึงบีทีเอสเสนานิคม
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ อาทิ 200 เมตร โรงพยาบาลเปาโล เกษตร, 400 เมตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ละปีมีนักศึกษาเข้าใหม่ กว่า 10,000 คน มีนักศึกษาและเจ้าหน้าที่รวมกว่ารวม 46,000 คน , 700 เมตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส ,1 กม. ดิ อเวนิว รัชโยธิน และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ , 1.5 กม. อาคารเอสซีบี ปาร์ค ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ , 2.5 กม. เซ็นทรัล ลาดพร้าว และ 2.7 กม. Court Zone Area
ทั้งทำเลนี้ยังกลายเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งนี้เนื่องจาก มี อภิมหาโปรเจกต์ โครงการนวมินทร์ ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี อสังหาริมทรัพย์แนวหน้า กำลังล้อมรั้วเตรียมก่อสร้างโครงการแบบมิกซ์ยูส บนที่ดินกว่า 300 ไร่ ทำเลตรงข้ามโครงการนวมินทร์ซิตี้ อเวนิว ด้านหน้าติดถนนประเสริฐมนูกิจ และด้านข้างชนกับถนนเสนานิคม มีแผนจะพัฒนาเป็นอาคารศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม ใช้งบฯ ลงทุนรวม 7,000-8,000 ล้านบาท เฟสแรกจะก่อสร้างอาคารศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า
► Limitless Facility พื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า เชื่อม 3 อาคารที่ชั้น 16
► พร้อมที่จอดรถ Automatic Parking กว่า 60%
►สุดเอ็กคลูซีฟ Private ด้วย 6 ยูนิตต่อชั้น
►Surrounding รอบๆโครงการไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้
จะเห็นว่าทำเล มีความน่าสนใจอยู่ที่สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ ไม่ว่าจะเป็น สถานศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยเกษตร, มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, โรงเรียนหอวัง สถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง เช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.), อาคารสำนักงานของภาคเอกชน เช่น เอสซีบี ปาร์ค, ตึกช้าง แหล่งช้อปปิ้ง เช่น เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์, ดิ อเวนิว รัชโยธิน และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, ตลาดจตุจักร รวมถึง โรงพยาบาลเมโย, โรงพยาบาลวิภาวดี
Central Ladprao
นอกจากนี้ ยังเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้าสายใหม่ทั้งสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่) สายสีแดงที่เชื่อมต่อกับสถานบินดอนเมือง และใกล้บางซื่อ สเตชั่น ศูนย์รวมการเปลี่ยนรถไฟฟ้าสายต่างๆ ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ โครงการของกลุ่มจีแลนด์ และบีทีเอส ที่ดินกว่า 48 ไร่ จะพัฒนาเป็นเมกะโปรเจกต์ ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก ที่อยู่อาศัย และโรงแรม หรือโครงการบางกอก เทอร์มินัล หรือ ซัน เอสเตท พัฒนาบนพื้นที่ 7.12 ตารางเมตร มีพื้นที่ค้าปลีกกว่า 6.62 ตารางเมตร และมีแนวโน้มว่า อาจจะสร้างอาคารลอยฟ้าเชื่อมเข้าสู่ถนนกำแพงเพชร ถนนวิภาวดี
ปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ย่านพหลโยธิน เกษตร กลายเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัย โดยภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม ย่านลาดพร้าว-จตุจักร-เกษตร-พหลโยธิน-วิภาวดี ช่วงปี 2009-2016 มีซัพพลายห้องชุดจากเพียง 3,429 ยูนิต เพิ่มเป็น 24,915 ยูนิต ความต้องการ เพิ่มจาก 2,033 เป็น 24,915 ยูนิต เฉลี่ยอัตราการขาย ปัจจุบันอยู่ที่ 91.5% โดยในช่วงปี 2016 ซัพพลายใหม่เริ่มน้อยลง ไม่ถึง 1,000 ยูนิต จากอดีต ประมาณ 3,000-4,000 ยูนิต เพราะที่ดินหายาก และราคาสูงขึ้นมาก เมื่อมีซัพพลายใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่จึงได้รับการตอบรับที่ดี
สำหรับทำเลเฉพาะ พหลโยธิน-จตุจักร มีประมาณ 5,569 ยูนิต
ระดับราคา 140,000-180,000 บาท/ตารางเมตร สัดส่วนประมาณ 52%
ระดับราคา 140,000-180,000 บาท/ตารางเมตร สัดส่วนประมาณ 36%
ระดับราคา 180,000 บาท/ตารางเมตร สัดส่วนประมาณ 16%
ระดับราคา 100,000-140,000 บาท/ตารางเมตร สัดส่วนประมาณ 21%
ระดับราคาน้อยกว่า 100,000 ประมาณ 27%
นอกจากเลือกคอนโดมิเนียมบนทำเลที่มีศักยภาพแล้ว การเลือกโครงการที่พัฒนาด้วยผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน โดยหลังจากที่ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้ามาจนถือว่ามีฐานความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องแบรนด์ และการบริหารจัดการ แต่เพื่อการเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุด จึงร่วมทุนบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากญี่ปุ่น ภายใต้ชื่อ บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด
การร่วมทุนกันในครั้งนี้ จะช่วยให้ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านโนว์ฮาว นวัตกรรม และดีไซน์ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญช่วยให้บริษัทฯสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น
ราคาแพคเกจ ที่ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คนเมือง
• ไนท์บริดจ์ คอลลาจ รามคำแหง พิเศษ เริ่ม 1.89 ล้าน*
• ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ พิเศษ เริ่ม 2.69 ล้าน*
• ไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช พิเศษ เริ่ม 2.69 ล้าน*
• ไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน พิเศษ เริ่ม 3.33 ล้าน*
หากกำลังมองหาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพทั้งปัจจุบันและมูลค่าเพิ่มในอนาคต
ห้ามพลาดเปิดจองครั้งแรก “KnightsBridge” Top Brand 4 โครงการ 4 ทำเล
เกษตร | อ่อนนุช | รามคำแหง | รัชโยธิน
16 – 17 ก.ย. 2560 นี้ ที่พารากอน ฮอลล์
ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท* https://goo.gl/VnqiTx
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
