จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ที่เห็นชอบให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติจัดทำที่อยู่อาศัยแนวรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภายใต้ยุทธศาสตร์พัฒนาที่อยู่อาศัยมีเป้าหมายหลักคือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ปัจจุบันมีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในหลายโครงการ โดยการเคหะฯ จะเริ่มประเดิมเปิดจองโครงการแรก เคหะชุมชนประชานิเวศน์ 3 จ.นนทบุรี สิ้นเดือนกันยายนนี้ และเตรียมพัฒนาอีก 5 โครงการ โดยวางแผนจะสร้างเป็นมิกซ์ยูส และสมาร์ทซิตี้
เคาะราคาประชานิเวศน์ 3 เริ่ม 8.2 แสนบาท
การเคหะฯ ได้จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเริ่มต้นโครงการแรกคือ เคหะชุมชนประชานิเวศน์ 3 จ.นนทบุรี จำนวน 556 หน่วย รูปแบบอาคารชุดพักอาศัย สูง 8 ชั้น 4 อาคาร ประกอบด้วย ห้องพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.5-30 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.2 แสนบาท ถึง 2 ล้านบาท ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี สถานีสามัคคี ประมาณ 2.5 กิโลเมตร
กลุ่มเป้าหมายคือผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางและรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มทำงาน หรือต้องการสร้างครอบครัวใหม่ ประกอบอาชีพรับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทเอกชน ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่สามารถรับภาระได้และใกล้เส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
โดยจะเปิดจองโครงการวันที่ 30 กันยายน-9 ตุลาคม 2560 ที่สำนักงาน กคช., ที่สำนักงานโครงการ, ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และเซ็นทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มประกวดราคาได้ภายใน 3 เดือนต่อจากนี้ และเริ่มก่อสร้างปลายปี 2560
ดึงเอกชนร่วมพัฒนาอีก 5 โครงการ
การเคหะฯ อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในการลงทุนในรูปแบบโครงการร่วมทุนกับภาคเอกชน (PPP) ภายใต้พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ปี 2556 พัฒนาที่อยู่อาศัย 5 โครงการ ประกอบด้วย
1. โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมภายในโครงการเคหะชุมชนร่มเกล้า เนื้อที่ 72 ไร่ และ 107 ไร่ ใกล้แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
2. โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 3 และระยะที่ 4
3. โครงการเชิงพาณิชย์ เนื้อที่ 52 ไร่ ในโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่ (หนองหอย)
4. โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการ และเชิงพาณิชย์ เนื้อที่ 136 ไร่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
5. โครงการที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการ และเชิงพาณิชย์ เนื้อที่ 118 ไร่ บริเวณลำลูกกา คลอง 10-11 จ.ปทุมธานี
เล็งพัฒนารูปแบบมิกซ์ยูสและสมาร์ทซิตี้
แนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยให้เอกชนร่วมทุน 5 โครงการดังกล่าว จะศึกษาความเป็นไปได้ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชยกรรมแบบผสมผสาน หรือมิกซ์ยูส และเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ทซิตี้ สอดคล้องกับรูปแบบการลงทุนพัฒนาเมืองที่มีความคุ้มค่าด้านการลงทุนโครงการและการสร้างรายได้จากการใช้ประโยชน์ที่ดิน เช่นเดียวกับการพัฒนาเมืองใหม่หลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนโครงการที่มีขนาดเนื้อที่ 100 ไร่ ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนโครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้ง 5 โครงการ จำนวน 1 แสนยูนิต
ต่างชาติสนใจร่วมลงทุน
จากการหารือร่วมกับเอกชน พบว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สนใจการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบมิกซ์ยูสของการเคหะฯ เช่น กลุ่มทุนจากจีน ที่สนใจลงทุนสนามบินแห่งที่ 2 ในเชียงใหม่ จึงต้องการลงทุนพัฒนาเมืองใหม่ ทั้งด้านที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ในทำเลหนองหอย จ.เชียงใหม่ รูปแบบที่พักอาศัยสำหรับกลุ่มสูงวัย นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจโครงการพัฒนาชุมชนดินแดงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การเคหะฯ ยังเตรียมมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่มีปัญหาถูกปฏิเสธสินเชื่อธนาคารในอัตราสูง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 50% โดยเตรียมเสนอรัฐบาลให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย มูลค่า 5,000 ล้านบาท สำหรับปล่อยกู้ให้กับลูกค้าบ้านของการเคหะฯ เพื่อแก้ปัญหาปฏิเสธสินเชื่อในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ คาดว่าจะจัดตั้งกองทุนดังกล่าวได้ในช่วงต้นปี 2561
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน