ประกันสังคม ยุค 4.0 ไม่ต้องพกบัตร ก็ใช้บริการได้

26 ก.ย. 2560

สำนักงานประกันสังคม เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ดำเนินตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยเตรียมก้าวเข้าสู่การเป็น Digital SSO ด้วยการยกเลิกการพิมพ์บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ผู้ประกันตนไม่จำเป็นต้องพกบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล รองรับบริการ e-self Service สอดรับกับการใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ของกระทรวงมหาดไทย เริ่มตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

ตรวจสอบสิทธิผ่านเว็บไซต์-สายด่วน แทนการใช้บัตร
สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ทำการปรับปรุงระบบฐานข้อมูลผู้ประกันตนให้เชื่อมโยงสอดคล้องกับหน่วยงานอื่นและให้บริการ Web Service โดยการปฏิรูปประกันสังคมเข้าสู่ Digital SSO ให้รองรับบริการ e-self Service อย่างครบวงจร สามารถตอบสนองต่อนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้สามารถเข้าถึงบริการและได้รับความพึงพอใจมากยิ่งขึ้น

สำนักงานประกันสังคมจึงได้ยกเลิกการพิมพ์บัตรรับรองสิทธิรักษาพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลผ่านช่องทาง เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 ทดแทนการพกบัตรรับรองสิทธิรักษาพยาบาล ซึ่งสอดคล้องกับการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและบริการภาครัฐที่ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ให้บริการประชาชน ปรับปรุงระบบการบริการประชาชนเพื่อรองรับการใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) โดยเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักทะเบียนกลางกรมการปกครองทดแทนการใช้สำเนาเอกสาร และเพื่อความสะดวกจึงขอแนะนำให้ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ใช้บัตรประจำตัวประชาชนแสดงเมื่อไปรับบริการที่สถานพยาบาล ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์ได้ตลอดอายุความเป็นผู้ประกันตน

อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนสถานพยาบาลสำนักงานประกันสังคมจะแจ้งผลผ่านนายจ้างและ SMS ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 39 และสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลได้ที่ www.sso.go.th Application (SSO Connect) หรือโทรสายด่วน 1506

ค่าบริการทางการแพทย์ ของประกันสังคมยุค 4.0

ค่าบริการทางการแพทย์ ของประกันสังคมยุค 4.0

แจงเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ ไม่น้อยกว่ากองทุนอื่น
นอกจากนี้ทางสำนักงานประกันสังคม ยังได้เผยมติของคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษาปรับขึ้นค่าบริการทางการแพทย์ เน้นความเท่าเทียมในการดูแลผู้ประกันตนใช้สิทธิโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยได้กำหนดให้สถานพยาบาลคู่สัญญาทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชนดูแลผู้ประกันตนที่เลือกสถานพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์ ตั้งแต่การให้การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ดูแลรักษาพยาบาลในระยะเริ่มแรกของการเจ็บป่วยจนสิ้นสุดการรักษา ตลอดจนต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยได้ปรับเพิ่มอัตราค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญา ดังนี้

1. ค่าเหมาจ่ายรายหัว 1,500 บาท/คน/ปี
2. ค่าภาระเสี่ยงสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังเป็น 447 บาท/คน/ปี
3. ค่ารักษาผู้ป่วยในสำหรับโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง 640 บาท/คน/ปี
4. ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยในที่มีค่าใช้จ่ายสูงเกิน 1 ล้านบาท ได้เพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ให้สถานพยาบาลในอัตรา 80% ของค่าใช้จ่ายที่เกิน 1 ล้านบาท คิดเป็น 15 บาท/คน/ปี
5. ค่าบริการทางการแพทย์อื่นๆ อาทิ ค่ารักษาพยาบาลที่เป็นค่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ค่าอุปกรณ์สำหรับ

การบำบัดรักษาโรค ค่าปลูกถ่ายอวัยวะ ค่าบำบัดทดแทนไต ค่ายาสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ค่ายาราคาสูงสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นเฉพาะ ค่าส่งเสริมสุขภาพเป็นการตรวจร่างกายประจำปี กรณีประสบอันตราย/ฉุกเฉิน ค่าบริการทันตกรรม ซึ่งคิดเป็นอัตราค่าบริการทางการแพทย์ทั้งสิ้น 797.69 บาท/คน

เมื่อรวมกันแล้วค่าบริการทางการแพทย์ที่สำนักงานประกันสังคม จ่ายให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิ และสถานพยาบาลอื่น ๆ สำหรับการบริการแก่ผู้ประกันตนมียอดรวมทั้งสิ้น 3,399.69 บาท/คน/ปี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงและเมื่อเทียบกันแล้วไม่น้อยกว่ากองทุนประกันสุขภาพอื่นๆ

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ