[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] ‘ลาดพร้าว’ นับเป็นอีกหนึ่งทำเลสุดฮอตสำหรับที่อยู่อาศัยเลยก็ว่าได้ เพราะตลอดระยะทางร่วม 10 กิโลเมตรของ ถ.ลาดพร้าว ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวไปจนถึงบางกะปิ มีซอยย่อยทั้งหมด 150 ซอย ถือว่าเป็นถนนที่มีซอยย่อยมากที่สุดในกรุงเทพฯ และมีการใช้ประโยชน์ที่ดินหนาแน่นแทบทุกซอย อีกทั้งยังมีที่อยู่อาศัยครบทุกประเภท ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ให้เช่า รวมถึงคอนโดมิเนียมที่นับว่าเป็นที่อยู่อาศัยที่มาแรงและได้รับความสนใจกว่าใครเพื่อน หลังจากที่มีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่มีแนวเส้นทางหลักอยู่บน ถ.ลาดพร้าว เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทำเลลาดพร้าวฮอตอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้กำลังมองหาที่อยู่อาศัย เพื่อขยับขยาย ลงหลักปักฐาน หรือสร้างครอบครัว ตัดสินใจเลือกทำเลลาดพร้าวโดยไม่ลังเล
โดยเฉพาะทำเลลาดพร้าวตอนปลาย ถ้าจะบอกว่ามีทุกอย่างครบไม่แพ้ลาดพร้าวตอนต้นก็คงจะไม่ผิด เพราะรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แนวไลฟ์สไตล์ อย่างเดอะมอลล์ บางกะปิ เทสโก้ โลตัส บางกะปิ ตะวันนา ตลาดแฮปปี้แลนด์ ไล่ยาวไปจนถึงตลาดบางกะปิ ตลอดจนสถานศึกษา สถานพยาบาล รวมถึงการเดินทางสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญต่าง ๆ กระตุ้นให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทยอยเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าที่จะเห็นว่ามีเปิดตัวมาอย่างต่อเนื่อง และมากขึ้นหลังจากแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีความชัดเจน ดึงดูดผู้ที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อลงทุนเข้ามาจับจองกันมากมาย ด้วยราคาขายที่ไม่แพงอยู่ที่ระดับล้านต้น ๆ ยังคงมีให้เห็น การซื้อเพื่ออยู่อาศัยจึงคุ้มกว่าการเช่าอยู่ หรือถ้าจะลงทุนปล่อยเช่าหรือขายต่อ ก็มีโอกาสได้ Capital Gain สูง เฉลี่ยอยู่ที่ 6% ต่อปี
จากข้อมูลของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ระบุว่า คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าได้รับความนิยมจากนักลงทุนเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เริ่มลดน้อยลง ทำให้โครงการที่เปิดขายในทำเลใกล้รถไฟฟ้ามี Value มากขึ้นในอนาคต โดยปัจจัยหลักที่สำคัญหากคิดจะลงทุนคอนโดมิเนียมคือทำเลที่ตั้ง ต้องเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ หรือถ้าอยู่ในถนนรองก็ต้องเดินทางง่าย ที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน ทำเลต้องใกล้รถไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ทั้งสถานศึกษา โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารต่าง ๆ ซึ่งถ้ามีครบทั้งหมดที่ว่ามานี้ การลงทุนคอนโดมิเนียมมีแต่กำไรแน่นอน จะปล่อยเช่าก็ง่าย จะขายต่อก็ได้ราคาดี
โฟกัสตลาดคอนโดมิเนียม ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง)
ดังที่กล่าวไปตอนต้น ไม่ว่าจะซื้อคอนโดมิเนียมเพื่ออยู่เองหรือเพื่อลงทุน เรื่องของทำเลเป็นปัจจัยหลักที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งในปัจจุบันไม่ใช่แค่ทำเลลาดพร้าวตอนต้นเท่านั้นที่ได้รับความนิยม เพราะจากอานิสงส์ของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ที่คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการได้ประมาณปี 2564 ก็จะยิ่งเพิ่มศักยภาพให้ทำเลลาดพร้าวตลอดเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน ตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนปลาย
จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า อุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สะสมรายไตรมาสแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ตั้งแต่ปี 2557-ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 13,052 ยูนิต ขายไปแล้วประมาณ 10,572 ยูนิต คิดเป็นประมาณ 81% เหลือขายประมาณ 2,480 ยูนิตหรือประมาณ 19% เท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่าอุปทานเปิดขายใหม่สะสมจะน้อยกว่าคอนโดมิเนียมแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค) แต่คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่สะสมรายไตรมาสแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากได้เริ่มก่อสร้างแนวรถไฟฟ้าแล้วในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และอัตราการขายของคอนโดนิเนียมย่านนี้ก็ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่น
เมื่อโฟกัสทำเลช่วงโชคชัย 4 ไปยังถนนถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วน) จนถึงลาดพร้าวตอนปลาย จะพบว่าเป็นทำเลของบ้านเดี่ยวราคาแพง 20-50 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ 4-8 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 1 ล้านกว่าบาท โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลลาดพร้าว-บางกะปิ รวมไปถึงพื้นที่ต่อเนื่องแถวสุขาภิบาล 1, 2, 3 ศรีนครินทร์ และรามคำแหงที่มีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) ปัจจุบันมีการเปิดขายคอนโดมิเนียมราคาล้านกว่าบาท หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 50,000-80,000 บาท/ตารางเมตรหลายโครงการ
เสน่ห์ของลาดพร้าวที่ดึงดูดใจให้มาอยู่อาศัยและลงทุน
เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ลาดพร้าวเป็นทำเลน่าอยู่อาศัยก็คือความเจริญของเมืองที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง เริ่มจากลาดพร้าวตอนต้น แน่นอนว่าศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนย่านนี้คือเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ข้ามมาอีกฝั่งก็จะเป็นยูเนี่ยน มอลล์ ศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นราคาไม่แพง ถัดเข้าไปอีกหน่อยก็มีบิ๊กซี เอ็กซ์ตรากับโฮมโปรเอาไว้จับจ่ายซื้อหาของใช้ในบ้าน ส่วนยามค่ำคืนร้านกินดื่มแถวปากทางลาดพร้าวก็มีไม่น้อย ตามมาด้วยลาดพร้าวช่วงกลาง ที่ถึงแม้ว่าศูนย์กลางไลฟ์สไตล์จะอยู่ในย่านเลียบทางด่วนเป็นหลัก แต่ในพื้นที่โชคชัย 4 ลาดพร้าววังหิน ลาดพร้าว 71 ก็เป็นย่านที่มีของกินหลากหลาย ให้ตระเวนกิน ชิม ดื่ม วนไปได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำโดยไม่ซ้ำร้าน ปิดท้ายที่ลาดพร้าวตอนปลายซึ่งเป็นศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งเดอะมอลล์ บางกะปิ ตะวันนา ตลาดแฮปปี้แลนด์ ไปจนถึงตลาดบางกะปิ
ด้วยความเจริญของเมือง ทำให้ทำเลลาดพร้าวกลายเป็นย่านที่อยู่อาศัย มีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ให้เช่า และคอนโดมิเนียม ซึ่งสองอย่างหลังถือว่ามีการแข่งขันกันสูง ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นช่วงปลายของลาดพร้าวที่ต้นทุนที่ดินยังไม่สูงมาก คอนโดมิเนียมเปิดขายจึงมีราคาไม่แพง เปรียบเทียบดูแล้วซื้อคุ้มกว่าเช่า แม้ค่าผ่อนต่อเดือนจะแพงกว่าการเช่าอยู่บ้าง แต่ในระยะยาวจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ ก็ถือว่าคุ้มค่า
หากพิจารณาตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่งมีระยะทางรวมทั้งหมด 30 กิโลเมตร จำนวน 23 สถานี เส้นทางที่ผ่าน ถ.ลาดพร้าว มีด้วยกัน 7 สถานี เริ่มตั้งแต่สถานีภาวนายาวไปจนถึงสถานีบางกะปิ (ไม่นับสถานีรัชดา เพราะเปิดให้บริการแล้ว) ซึ่งด้วยศักยภาพของทำเลและเสน่ห์ที่น่าดึงดูดของทำเลลาดพร้าว จึงน่าสนใจทั้งการซื้ออยู่เองหรือซื้อไว้เพื่อลงทุนปล่อยเช่าต่อเดือน โดยปัจจุบันราคาค่าเช่าคอนโดฯ ต่อเดือนจะอยู่ที่ราว 8,000-12,000 บาท ได้รับผลตอบแทนอยู่ที่ 5 % ต่อปี
คอนโดมิเนียมราคาล้านต้น ๆ บนทำเลศักยภาพ
ใน ซ.ลาดพร้าว 107 ทำเลศักยภาพช่วงลาดพร้าวตอนปลาย-บางกะปิ มีโครงการคอนโดมิเนียมที่อยากแนะนำ คือ The Cube Loft ลาดพร้าว 107 ที่พัฒนาโดยบริษัท คิวบ์ เรียล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ลักษณะโครงการเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 207 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้าน ออกแบบในสไตล์ Loft ที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความโมเดิร์น คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2563
ห้องมาพร้อมการตกแต่งเป็นแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน-ลอยตัว มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่
– 1 Bedroom Type A พื้นที่ใช้สอย 25.5 ตารางเมตร
– 1 Bedroom Type B พื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร
– 1 Bedroom Type B-1 พื้นที่ใช้สอย 34.5 ตารางเมตร
– 1 Bedroom Plus Type C พื้นที่ใช้สอย 34.5 ตารางเมตร
พลิกโฉมด้วยการยก Facility ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ส่วนกลาง CO-WORKING SPACE FREE WIFI, ROOFTOP LOUNGE, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ SKY POOL, FITNESS ไปอยู่บนดาดฟ้าชั้น 8 ซึ่งมีข้อดีก็คือผู้อยู่อาศัยจะได้ใช้งานและสัมผัสกับวิวไปได้พร้อม ๆ กัน และยังให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้โครงการได้มากขึ้น
CO-WORKING SPACE
FITNESS
ROOFTOP LOUNGE
SKY POOL
ทำเลที่ตั้งของโครงการ นอกจากใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีลาดพร้าว 101 แล้ว ยังสามารถเดินทางไปยังถนนเส้นหลักต่าง ๆ ได้โดยง่าย ทั้ง ถ.แฮปปี้แลนด์ ถ.พ่วงศิริ ถ.นวมินทร์ ถ.รามคำแหง ถ.ศรีนครินทร์ ถ.ศรีบูรพา ถ.เสรีไทย ถ.รัชดาภิเษก ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ถ.โชคชัย 4 และ ถ.ลาดพร้าววังหิน หรือจะใช้เส้นทางลัดจาก ซ.ลาดพร้าว 107 ที่เป็นที่ตั้งของโครงการ ลัดออกไปยัง ซ.ลาดพร้าว 111 และ ซ.ลาดพร้าว 101 ก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นโครงการยังใกล้กับทางด่วน ทั้งทางพิเศษศรีรัช เชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี และทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) ใช้เดินทางเข้าเมือง และหลีกเลี่ยงรถติดได้ หรือจะใช้เดินทางออกนอกเมืองไปจังหวัดใกล้เคียงอย่างฉะเชิงเทรา พัทยา ชลบุรี ก็สะดวก
ด้วยศักยภาพของทำเลและสิ่งที่โครงการมอบให้ เมื่อเทียบกับราคาต่อตารางเมตรแล้ว ถือว่าคุ้มค่าน่าสนใจทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน ในระดับราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท คิดเป็นราคาขาย 62,000 บาทต่อตารางเมตร หากเปรียบเทียบนับว่าถูกและคุ้มค่ากว่าโครงการอื่นในละแวกเดียวกัน สนใจอยากเป็นส่วนหนึ่งของทำเลสุดฮอตอย่างลาดพร้าว ลงทะเบียนเยี่ยมชมและรับสิทธิพิเศษได้ที่ www.thecube-condo.com/product/detail/the-cube-loft-ลาดพร้าว
ดาวน์โหลดรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์และรายงานภาพรวมตลาดอสังหาฯ จากเรา รวมถึงเช็ก AreaInsider เพื่อช่วยเพิ่มมุมมองในทุกมิติของการซื้อ – ขาย – เช่า และหากคุณสนใจอยากที่จะมีอสังหาฯ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ไม่ว่าจะบ้านหรือคอนโดมิเนียม สามารถปรึกษาตัวแทนอสังหาฯ ผู้เชี่ยวชาญได้