กว่าจะมาเป็นโครงการอสังหาฯ ที่สวยงาม ใครเลยจะรู้ว่าหลังรั้วก่อสร้างมีเรื่องราวอย่างไร มีทั้งคนหลายสัญชาติ และมีชีวิตมากมายเกิดขึ้น หลายบริษัทจึงให้ความสำคัญกับซีเอสอาร์ตั้งแต่ในรั้วก่อสร้าง
โดยในช่วงหลายปีมานี้ แรงงานหลักในการก่อสร้างเป็นคนงานต่างถิ่นเกือบ 100% ทั้งจากเมียนมาร์ กัมพูชา และลาว ซึ่งคนทำงานเหล่านี้ อยู่อาศัย ใช้ชีวิตในรั้วก่อสร้าง ในแคมป์ก่อสร้างเกือบตลอด 24 ชั่วโมง เลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะเกิดเป็นครอบครัวใหม่ ที่มีลูกเล็กเกิดในไซต์งานของโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
จากปัญหาใกล้ตัวสู่จุดเริ่มต้นการทำ CSR
ด้วยความเป็นแรงงานต่างถิ่น ทำให้เขาเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับสวัสดิการจากภาครัฐ เด็กที่เกิดมาเป็นเด็กที่ไม่มีสัญชาติ ขาดโอกาสการเข้าถึงทั้งการศึกษา และการสาธารณสุข และจากรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็กหลายแห่ง พบว่า มีเด็กจำนวนมากที่เกิดในไซต์ก่อสร้าง และประสบปัญหาด้านคุณภาพชีวิต ขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับเด็ก ห้องน้ำ ห้องสุขที่ไม่ถูกสุขอนามัย การล่วงละเมิดทางเพศ
หลายบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เห็นปัญหาจึงเริ่มมองว่า การทำซีเอสอาร์ (CSR : Corporate Social Responsibility) หรือความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กรไม่ต้องไปทำโครงการที่ไหนไกลเลย ควรเริ่มต้นจากที่ไซต์ก่อสร้างของบริษัทก่อน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้หันมาให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของคนงานก่อสร้างและเด็กที่เกิดในรั้วก่อสร้างมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนเหล่านี้ให้ดีขึ้น
การทำ CSR เชิงรุกในไซต์งานก่อสร้าง
บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเริ่มทำซีเอสอาร์จากสังคมในรั้วก่อสร้างด้วยการจับมือกับองค์กรชั้นนำระดับโลกที่ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก กั้นไม่ให้มีเด็กในไซต์ก่อสร้าง มีการเข้าไปดูแลแคมป์ก่อสร้าง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนงานและครอบครัวให้มีสุขลักษณะอนามัยที่ดี มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำที่ได้มาตรฐาน ให้ความช่วยเหลือในเรื่องการแพทย์ การรักษาขั้นพื้นฐาน ให้คำแนะนำเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานด้านการศึกษา ฯลฯ
ขณะที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางแห่งเริ่มทำซีเอสอาร์เชิงรุกด้วยการสร้างศูนย์การเรียนรู้ให้กับเด็กในพื้นที่ก่อสร้างที่เป็นส่วนของพื้นที่ปลอดภัย อย่างบริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ก่อสร้าง” (Child Friendly Space) โดยจัดให้มีครูผู้สอนประจำศูนย์ฯ ดำเนินการตามแผนการเรียนการสอนที่มีมาตรฐานเรียนรู้ทักษะชีวิต เช่น วิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ศิลปะ และเสริมทักษะต่างๆ ตามช่วงอายุวัย ปลูกฝังความคิดที่ดีตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและสะอาดการจัดกิจกรรมสันทนาการให้เด็กๆ สนุกสนานและผ่อนคลายร่วมกับครอบครัว ตลอดจนจัดกิจกรรมในโอกาสพิเศษ เพื่อสร้างโอกาสในชีวิตให้กับเด็กเหล่านี้
ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น ซึ่งจากการใส่ใจสังคมตั้งแต่กระบวนการก่อสร้างและการทำซีเอสอาร์เชิงรุกดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล Special Recognition in CSR จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards 2018
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ เวทีพร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ปี 2019 (PropertyGuru Thailand Property Awards 2019) กลับมาอีกครั้งแบบยิ่งใหญ่กว่าเดิม ครอบคลุมโครงการทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุย หัวหิน เขาใหญ่ ชายฝั่งตะวันออก พังงา กระบี่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ของไทย
ประกอบด้วยรางวัลหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น ด้านการออกแบบ สถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน การออกแบบภูมิทัศน์ นอกจากนี้ ยังมีหมวดหมู่ที่เปิดกว้างสำหรับโรงแรม ภาคธุรกิจค้าปลีก และสำนักงานอีกด้วย รวมถึงรางวัลพิเศษเพื่อสังคม
โดยเตรียมจะมีงานกาลาดินเนอร์เพื่อแจกรางวัลในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เพลินจิต คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมกว่า 600 คน ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในงานอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดในเอเชีย
ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ทาง email: awards@propertyguru.com หรือ www.AsiaPropertyAwards.com
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
