ภายในปี 2563 ภาพของชุมชนแออัดคลองเตย หรือสลัมคลองเตยที่เคยได้เห็นและได้ยินชื่อ จะถูกลบทิ้งจากความทรงจำ เพราะพื้นที่ดังกล่าวกำลังจะถูกยกระดับสู่สมาร์ท คอมมูนิตี้
ชุมชนคลองเตยหรือชุมชนรอบท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งแบ่งออกเป็นชุมชนในพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จำนวน 26 ชุมชน และชุมชนใต้ทางด่วน 5 ชุมชน ทั้งหมด 31 ชุมชน รวมกว่า 13,000 ครัวเรือน บนพื้นที่ 197 ไร่ กำลังจะถูกยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นจากในปัจจุบัน
โดยล่าสุด กระทรวงคมนาคมได้สั่งการเร่งรัดให้ กทท. พัฒนาพื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัยและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวชุมชนในพื้นที่ โดยเปลี่ยนจากชุมชนคลองเตย หรือสลัมคลองเตยที่เรียกกัน ให้เป็นสมาร์ท คอมมูนิตี้ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งสิ้น 10 ปี นับตั้งแต่ปี 2563-2573
ผุดสมาร์ท คอมมูนิตี้ ลบชื่อสลัมคลองเตย
สำหรับสมาร์ท คอมมูนิตี้ จะตั้งอยู่บนพื้นที่ 58 ไร่ ซอยตรีมิตร ติดถนนริมทางรถไฟสายเก่า ด้านหลังติดริมคลองพระโขนง ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 4 อาคาร ความสูง 25 ชั้น ชั้นที่ 1-5 เป็นที่จอดรถ ชั้นที่ 6-25 เป็นห้องพักอาศัย ขนาดห้อง 33 ตารางเมตร อาคารละ 1,536 ยูนิต รวม 6,144 ยูนิต มีลิฟต์โดยสาร อาคารละ 4 ตัว ลิฟต์ดับเพลิง อาคารละ 2 ตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และระบบดูแลความปลอดภัยด้วยคีย์การ์ดเข้า-ออก
นอกจากนี้ยังมีอาคารส่วนกลางที่เป็นสถานที่ราชการ สำนักงานต่าง ๆ พื้นที่ให้เช่าภายในอาคาร พร้อมด้วยอาคารจอดรถส่วนกลาง อาคารตลาดหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้เช่าขายสินค้า (Community Mall) โรงเรียน อาคาอเนกประสงค์อื่น ๆ และพื้นที่สีเขียว
ทุ่มงบกว่า 8,000 ล้าน ปักหมุดก่อสร้างภายในปี 2563
การก่อสร้างสมาร์ท คอมมูนิตี้ ตามแผนจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 8,417 ล้านบาท โดยจะเริ่มตอกเสาเข็มก่อสร้างเฟส 1 ให้ได้ภายในปี 2563 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ในปี 2564 โดยปัจจุบัน กทท. กำลังอยู่ระหว่างเร่งทำความเข้าใจกับชาวชุมชนในพื้นที่ ขีดเส้นตายภายใน 2563 ลบชื่อสลัมคลองเตย ด้วยการยกระดับคุณภาพชีวิตชาวชุมชนให้มีมาตรฐานและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง สร้างความสุข ลดความเหลื่อมล้ำ และเกิดความเสมอภาคในสังคม
เสนอ 3 แนวทางเลือก ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวชุมชน
สำหรับชาวชุมชนคลองเตยทั้ง 31 ชุมชน กทท. ได้เสนอสิทธิประโยชน์ไว้ 3 แนวทางเลือก โดยสามารถเลือกรับสิทธิประโยชน์ได้ครอบครัวละ 1 สิทธิ ได้แก่
1. สิทธิห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร ในโครงการ เพื่ออยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงกับที่อยู่เดิม โดยอาจจะเก็บค่าเช่าในอัตราเดียวกับการเช่าพื้นที่ของกรมธนารักษ์ในสัญญาระยะยาว 30 ปี
2. สิทธิเป็นเจ้าของที่ดินเปล่า 1 แปลง ขนาด 19.5 ตารางวา ย่านหนองจอก มีนบุรี มูลค่าแปลงละ 200,000 บาท จำกัดจำนวน 2,140 แปลง
3. สิทธิเงินทุนพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อใช้กลับไปใช้ชีวิตที่ภูมิลำเนาเดิมของตนเอง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจำนวนเงินที่เหมาะสม
ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่า มี 50% ที่ต้องการรับสิทธิอยู่อาศัยในโครงการ อีก 30% ต้องการรับสิทธิเป็นที่ดินย่านหนองจอก-มีนบุรี และอีก 20% ต้องการรับสิทธิเงินทุนเพื่อกลับภูมิลำเนาเดิม โดย กทท. จะเร่งดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากร และสอบถามความต้องการที่ชัดเจนของชาวชุมชน พร้อมทั้งเร่งสำรวจออกแบบรายละเอียดและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เพื่อก่อสร้างให้ได้ในปี 2563
เผยแผนสร้างโมโนเรลเชื่อมต่อ MRT คลองเตย
นอกจากการยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านการอยู่อาศัยแล้ว ยังได้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่ออำนวยความสะดวก โดยจะเริ่มต้นจากการนำรถไฟชุมชนหรือแทรม มาวิ่งบนเส้นทางสายเก่าที่จะมีการปรับปรุงไปก่อน เนื่องจากใช้ระยะไม่มาก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนในพื้นที่คลองเตยไปยังสถานีมักกะสันและบางซื่อ เพื่อไปต่อรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ
ในระยะต่อไป จะมีการลงทุนเชื่อต่อระบบขนส่งรถไฟฟ้ารางเบาแบบโมโนเรลจาก สถานีคลองเตย รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT (หัวลำโพง-บางซื่อ) ไปตามแนวถนนพระรามที่ 4 ถนนกล้วยน้ำไท ถนนโรงฟอกหนัง และมาสิ้นสุดปลายทางที่โครงการสมาร์ท คอมมูนิตี้ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
แบ่ง 3 โซนพัฒนา สู่ศูนย์กลางเมืองใหม่ใจกลางเมือง
การพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยชุมชนคลองเตย เป็นไปตามแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด เหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ในใจกลางเมือง (New Urban Core Development) และมีศักยภาพในการรองรับธุรกิจพาณิชยนาวี ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ การท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนรอบกทท.ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยแนวทางการพัฒนาที่ดิน 2,353 ไร่ ของ กทท. จะถูกแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 โซน ได้แก่
โซน 1 พัฒนาพื้นที่ด้านการค้า (Commercial Zone) ซึ่งจะมีอาคารศูนย์ธุรกิจพาณิชยนาวี 17 ไร่ ศูนย์โลจิสติกส์และกระจายสินค้า 54 ไร่ อาคารสำนักงาน 126 ไร่ (ไม่รวมตลาดคลองเตย) ศูนย์การค้าธุรกิจทันสมัยครบวงจร 15 ไร่ รวมถึงการพัฒนาสมาร์ท คอมมิวนิตี้ ก่อสร้างที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่เพื่อรองรับชุมชนและหน่วยงานราชการต่าง ๆ
โซนที่ 2 พัฒนาธุรกิจหลัก การให้บริการท่าเรือกรุงเทพ (Core Business Zone) โดยจะปรับพื้นที่จากปัจจุบัน 943 ไร่ เหลือ 534 ไร่ แล้วพัฒนาสถานีบรรจุสินค้าเพื่อส่งออก และบูรณาการพื้นที่หลังท่าเรือเป็นคลังสินค้าขาเข้าเขตปลอดภาษี มีจุดบริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ พร้อมทำท่าเทียบเรือแห่งใหม่ ปรับปรุงท่าเทียบเรือตู้สินค้าฝั่งตะวันออกให้ทันสมัย และมีโครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างท่าเรือและทางด่วนสายบางนา-อาจณรงค์ เพื่อระบายรถบรรทุกขาออกที่ทุ่งหน้าไปยังถนนบางนา-ตราดมายังท่าเรือกรุงเทพ
โซนที่ 3 พัฒนาเป็นเมืองท่าเรือกรุงเทพ (Bangkok Modern City) โดยพื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเมืองใหม่สำหรับรองรับกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ส่งเสริมให้มีโครงการมิกซ์ยูส โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ รวมถึงพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวทางน้ำแบบครบวงจร
การพัฒนาชุมชนคลองเตยซึ่งเป็นชุมชนแออัดที่มีขนาดใหญ่ มีทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหายาเสพติด และปัญหาอาชญากรรม ด้วยการก่อสร้างโครงการสมาร์ท คอมมูนิตี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเมืองใหม่ในใจกลางเมืองในอนาคต ควบคู่ไปกับการยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของชาวชุมชนให้ดีขึ้นตามไปด้วย
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า