อสังหาฯ ไทย ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้านทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้คนไทยส่วนใหญ่มองว่าตลาดอสังหาฯ ไทยในปัจจุบัน ยังไม่น่าซื้อ และลงทุน
จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ (DDproperty Consumer Sentiment Survey) รอบล่าสุด จากผู้ที่ทำการสำรวจกว่า 800 คน พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่พึงพอใจกับสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นจากการสำรวจรอบก่อน
ราคาแพง-ดอกเบี้ยสูง-รัฐไม่ช่วย ทำคนไทยไม่พึงพอใจ
คนไทยส่วนใหญ่มองว่าตลอดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไม่น่าพึงพอใจเพราะเหตุผลหลัก ๆ 5 ข้อ ได้แก่
1. ราคาอสังหาริมทรัพย์มีราคาแพงเกินไป มากถึง 79%
2. สภาพเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่ดีนัก 75%
3. ราคาอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 69%
4. ดอกเบี้ยสูงขึ้น 53%
5. นโยบายภาครัฐไม่เอื้อต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ 40%
จากผลสำรวจพบว่า ผู้ทำการสำรวจมีความไม่พึงพอใจในแต่ละเหตุผลเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายภาครัฐมีผู้ไม่พึงพอใจเพิ่มสูงขึ้นจากการสำรวจรอบก่อน เพิ่มขึ้นถึง 48%
80% มองว่าอสังหาฯ ราคาแพงเกินไป
หากโฟกัสเฉพาะมุมมองของคนไทยที่มีต่อสภาพตลาดที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน พบว่า 80% มองว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์แพงเกินไป และเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่พึงพอใจกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ถึง 84% ส่วนอีก 78% มองว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเร็วเกินไป ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่พึงพอใจกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ถึง 81%
สอดคล้องกับรายงานดัชนีอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Index ไตรมาส 2 ปี 2562 พบว่า ราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ในรอบ 2 ปี ปรับเพิ่มขึ้นถึง 19% โดยมีปัจจัยสําคัญมาจากต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาที่ดิน เนื่องจากราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์รอบใหม่ที่เตรียมจะประกาศใช้ต้นปี 2563 พบว่า ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้นถึง 15% จากรอบประเมินก่อนหน้า
คนไทยกังวลต่างชาติทำอสังหาฯ ราคาแพง
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่คนไทยถึง 67% ห่วงว่ามีส่วนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นคือ กำลังซื้อจากต่างชาติที่เข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมากขึ้น โดยเป็นเหตุผลที่ทำให้รู้สึกไม่พึงพอใจกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ถึง 76%
โดยกำลังซื้อส่วนใหญ่ที่เข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปัจจุบันคือกลุ่มชาวจีน เนื่องจากประเทศไทยมีความสะดวกในเรื่องของการลงทุนเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับมาเลเซีย ที่กำหนดให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในราคาไม่ต่ำกว่า 8-10 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น ขณะที่ไทยมีงบแค่ 1-5 ล้านบาท ก็สามารถซื้อได้แล้ว จึงทำให้การจับจองเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมในไทยทำได้ง่ายกว่า
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ชาวจีนมีบทบาทในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมากขึ้น ทั้งในรูปแบบของการซื้ออาคารชุดเพื่ออยู่อาศัย การเช่าอาคารสำนักงาน รวมถึงการลงทุนของผู้ประกอบการชาวจีนผ่านการร่วมทุนกับผู้ประกอบการชาวไทย
ทั้งนี้ การซื้อที่อยู่อาศัยของชาวจีนในปี 2561 ขยายตัวจากปี 2560 ค่อนข้างมาก สะท้อนจากมูลค่าเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดในไทยของชาวจีน ปี 2561 อยู่ที่ 39,178 ล้านบาท เร่งขึ้นจากปี 2560 ที่ 23,621 ล้านบาท (ขยายตัว 65.9% จากปีก่อน) โดยคิดเป็น 43% ของมูลค่าเงินโอนเพื่อซื้ออาคารชุดของชาวต่างชาติ และ 12% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดไทยทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ 9%
ส่วนปัจจัยอื่น ๆ เกี่ยวกับราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้คนไทยไม่พึงพอใจคือ 63% มองว่าไม่สามารถคาดการณ์ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ และ 56% มองว่า
นโยบายรัฐปัจจัยที่คนไทยเริ่มกังวลมากขึ้น
จากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยไม่พึงพอใจต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์คือ นโยบายภาครัฐที่ไม่เอื้อต่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย อย่างมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ Loan to Value: LTV ที่ประกาศใช้ไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา และที่กำลังจะบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2563 คือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ ที่จะมาใช้เก็บภาษีทดแทนภาษีโรงเรือนและภาษีบำรุงท้องที่
โดยผู้ทำแบบสำรวจส่วนใหญ่เริ่มกังวลเกี่ยวกับภาษีที่ดินฯ ฉบับใหม่มากขึ้น แบ่งเป็น 56% กังวลว่าภาษีฉบับใหม่จะทำให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้น และ 55% กังวลว่าจะทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาษีที่ดินฯ ฉบับใหม่นั้นไม่ได้มีผลต่อผู้ที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยส่วนใหญ่ เนื่องจากภาษีจะจัดเก็บเฉพาะอสังหาริมทรัพย์หลังแรกที่มีมูลค่าเกินกว่า 50 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับภาษีที่ดินฯ ฉบับนี้มากนัก
หากทางภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความรู้เกี่ยวกับภาษีที่ดินฯ ฉบับใหม่มากขึ้นคาดว่าจะทำให้ความพึงพอใจของคนไทยเกี่ยวกับนโยบายของรัฐเพิ่มสูงขึ้น จากที่การสำรวจรอบล่าสุดความพึงพอใจเหลืออยู่เพียง 36%
จะเห็นได้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังมองตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยความไม่พึงพอใจ สาเหตุหลัก ๆ มาจากระดับราคาที่แพงเกินกว่ารายได้ สอดคล้องกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง และมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งทำให้ผู้ซื้อต้องวางเงินดาวน์สูงขึ้นกว่าแต่ก่อน ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้จึงทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว ตัวช่วยในช่วงที่เหลือของปีนี้คงหนีไม่พ้นมาตรการภาครัฐที่ต้องออกมาช่วยสนับสนุนให้มากขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจร่วมทำแบบสำรวจสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ (DDproperty Consumer Sentiment Survey) สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2562 ลุ้นรับรางวัลมากมาย ดังนี้
รางวัลที่ 1: เงินสด 10,000 บาท 1 รางวัล
รางวัลที่ 2: หูฟัง True Wireless SONY WF-1000XM3 มูลค่า 8,990 บาท 1 รางวัล
รางวัลที่ 3: Fitbit Versa 2 Smartwatch มูลค่า 7,990 บาท 2 รางวัล
รางวัลที่ 4: CenPay Gift Card (บัตรของขวัญเครือเซ็นทรัล) มูลค่า 500 บาท 10 รางวัล
*ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงของรางวัลโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
**รางวัลที่ 1-3 สงวนสิทธิ์ให้ผู้โชคดีที่สามารถเข้ามารับของรางวัลที่บริษัทได้เท่านั้น
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า