อันดับเครดิต (Credit Rating) คืออะไร สำคัญอย่างไรเมื่อคิดจะลงทุน

Kittikom 23 ธ.ค. 2563

[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] อันดับเครดิต (Credit Rating) หรือการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ เป็นตัวที่บ่งบอกความสามารถในการชำระหนี้ และสะท้อนความเสี่ยง โดยตราสารหนี้ที่อันดับเครดิตยิ่งสูง ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้จะยิ่งต่ำ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน

นักลงทุนตราสารหนี้ส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกันดีกับคำว่า อันดับเรทติ้ง (Credit Rating) หรือเรทติ้ง ซึ่งเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ที่บ่งบอกได้ว่าผู้ออกตราสารหนี้หรือหุ้นกู้นั้น มีความสามารถในการชำระหนี้มากน้อยแค่ไหน หรือมีโอกาสผิดชำระหนี้ (Default) มากน้อยเพียงใด โดยเรทติ้งจะสะท้อนถึงความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้ ซึ่งนักลงทุนจะนำข้อมูลตรงนี้มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาก่อนการลงทุน

Subscription Banner for Article

อันดับเครดิต (Credit Rating) คืออะไร?

เรทติ้งจัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีทั้งบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับนานาชาติ (International Credit Rating Agency) ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ได้แก่ มูดีส์ อินเวสเตอส์ เซอร์วิส หรือมูดีส์ (Moody’s) และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือ S&P ส่วนบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในประเทศ (Domestic Credit Rating Agency) ของไทยมีอยู่ 2 แห่ง คือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS Rating) และบริษัท ฟิทช์เรทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (Fitch Rating Thailand)

Talking-out-loan-credit

การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ

  • 1.ระดับองค์กร (Company Rating) จะประเมินจากโครงสร้างองค์กร ข้อมูลทางการเงิน แผนการธุรกิจของบริษัท และแนวโน้มของอุตสาหกรรมนั้นในอนาคต เพื่อให้เห็นสถานะทางการเงินและศักยภาพในการสร้างรายได้โดยรวม
  • 2.ตัวตราสารหนี้ (Issue Rating) สะท้อนความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยและคืนเงินต้นภายใต้คุณลักษณะเฉพาะของตราสารหนี้แต่ละรุ่น โดยจะพิจารณาจากเงื่อนไขของตราสารหนี้นั้น ๆ เช่น สิทธิแฝง ข้อกําหนดสิทธิ ลําดับสิทธิของการเรียกร้องในการชําระหนี้ สิทธิในการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย สิทธิในการหักเงินต้นหรือดอกเบี้ยภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด และการค้ำประกัน

โดยผู้ออกตราสารหนี้สามารถเลือกได้ว่าจะจัดหรือไม่จัดเรทติ้งของตราสารหนี้ระยะสั้นได้ แต่หากเป็นตราสารหนี้ระยะยาวจะต้องจัดเรทติ้งตามหลักเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสารหนี้ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

 

การจัดอันดับเรทติ้งบอกอะไรกับนักลงทุน

เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการลงทุน นักลงทุนสามารถใช้อันดับเรทติ้งเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้นั้น ๆ ได้ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

  • กลุ่มที่ 1 Investment Grade ที่มีเรทติ้งสูงสุดคือ AAA ไล่ลงมาที่ AA+ AA AA- A+ A A- BBB+ BBB จนถึง BBB- จัดเป็นตราสารหนี้กลุ่มน่าลงทุนเพราะมีความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้ต่ำถึงปานกลาง
  • กลุ่มที่ 2 Speculative Grade หรือ High Yield Bond เป็นตราสารหนี้ที่มีเรทติ้งตั้งแต่ BB+ ลงมา โดยเรียงจาก BB+ BB BB- B+ B B- CCC+ CCC CC C และต่ำสุดคือ D รวมถึงตราสารหนี้ที่ไม่ได้จัดอันดับเครดิต (Unrated Bond) โดยกลุ่มนี้จะมีความเสี่ยงในการผิดชำระหนี้สูงกว่ากลุ่มแรก

อันดับเครดิตยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามผลการดําเนินงานของบริษัท แนวโน้มสภาพแวดล้อมในอุตสาหกรรมและภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทได้ ดังนั้น นักลงทุนควรติดตามอันดับเครดิตอย่างต่อเนื่อง เพราะหากมีการปรับลดความน่าเชื่อถือ (Downgrade) ย่อมสะท้อนว่าบริษัทมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น 

Interest_property

จัดอันดับเรทติ้งโดย TRIS สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

สำหรับบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS Rating) มีประสบการณ์จัดอันดับเครดิตมากกว่า 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2536 เป็นที่ยอมรับเป็นสถาบันจัดอันดับเครดิตที่มีความเป็นอิสระและมีมาตรฐานความเป็นมืออาชีพในระดับสูง นอกจากนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวของตลาดตราสารหนี้ในประเทศ ทั้งในส่วนของจำนวนผู้ออกตราสารหนี้และนักลงทุน

ทั้งนี้ การจัดอันดับเครดิตจะเป็นประโยชน์แก่องค์กรต่าง ๆ ทั้งภาคธุรกิจเอกชนและภาครัฐ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรือรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ ที่ต้องการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ไทย โดยนักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตเท่านั้น ผู้ออกตราสารหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจะมีข้อจำกัดค่อนข้างมากในการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ 

 

ครั้งแรก SAM ถูกจัดอันดับเครดิตองค์กรจาก TRIS ระดับ AA+

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM  ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรเป็นครั้งแรกจาก TRIS เปิดตัวที่ระดับ AA+ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือคงที่ โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะของ SAM ซึ่งเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐที่มีความสำคัญมาก และเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสูงสุดของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (กองทุนฟื้นฟูฯ)

โดย TRIS เชื่อว่าบทบาทของ SAM ไม่อาจแทนที่ด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์รายอื่นในระยะสั้นถึงปานกลางเมื่อพิจารณาจากขนาดของธุรกิจและความชำนาญของ SAM โดย ณ สิ้นปี 2562 SAM จัดเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีขนาดของสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศจากจำนวนบริษัทบริหารสินทรัพย์ทั้งหมด 61 แห่ง และมีบทบาทที่สำคัญในการเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐเพียงแห่งเดียว มีหน้าที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน ด้วยการซื้อสินเชื่อด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เข้ามาบริหารจัดการในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี

บทบาทของ SAM จะเห็นเด่นชัดเมื่อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น ซึ่งหากเกิดการหยุดชะงักของการดำเนินงานของ SAM อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของธนาคารพาณิชย์ในประเทศได้

Finance_investment

นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการเป็นผู้ดำเนินโครงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งริเริ่มโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้โดยสมัครใจสำหรับลูกหนี้รายย่อย (สินเชื่อไม่มีหลักประกันประเภทบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล) ที่ประสบปัญหาในการชำระคืนหนี้ เพื่อเพิ่มการรับชำระคืนจากหนี้สูญให้แก่สถาบันการเงินอีกด้วย

จากผลการดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา SAM มีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องโดยมีเงินสดรับชำระหนี้จากสินเชื่อด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขายถึง 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปี ปัจจุบัน SAM มีหนี้ด้อยคุณภาพสุทธิรวมที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ที่อยู่ภายใต้การบริหาร คิดเป็นภาระหนี้ตามบัญชีรวมอยู่ที่ 3.4 แสนล้านบาท

การจัดอันดับเครดิตครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ SAM และเป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่การออกและจำหน่ายหุ้นกู้ในอนาคต เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกและช่วยให้จัดการต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตระยะยาวของบริษัทฯ นอกจากนี้ SAM เชื่อมั่นว่าการจัดอันดับเครดิตเรทติ้งดังกล่าว จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และช่วยให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และประชาชนทั่วไปต่อไป

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ