[PR News] ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยภาพรวมตลาดอสังหา 4 จังหวัดภาคใต้ ครึ่งแรกปี 2566 ประกอบด้วยภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช พบว่าจำนวนหน่วยเหลือขายยังเพิ่มขึ้น
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC รายงานสถานการณ์ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่ยังอยู่ระหว่างขายในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ของจังหวัดภาคใต้ 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช พบว่า
จำนวนหน่วยเหลือขายในช่วงครึ่งแรกปี 2566 เพิ่มขึ้น 9.6% และมีผลให้อัตราดูดซับของภาพรวมตลาดอยู่ที่ 2.6%
ทั้งนี้ REIC คาดการณ์ว่า ปี 2566 จะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 5,858 หน่วย มูลค่า 19,042 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 5,233 หน่วย มูลค่า 20,512 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 14,438 หน่วย มูลค่า 62,121 ล้านบาท
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยภาคใต้ 4 จังหวัด ครึ่งแรกปี 2566 พบว่า จำนวนอุปทานพร้อมขายจำนวนประมาณ 17,719 หน่วย มูลค่า 75,841 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นโครงการอาคารชุด 5,627 หน่วย มูลค่า 23,376 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านจัดสรร 12,092 หน่วย มูลค่า 52,465 ล้านบาท
มีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาด 3,905 หน่วย มูลค่า 12,695 ล้านบาท มีโครงการขายได้ใหม่จำนวน 2,715 หน่วย มูลค่า 10,694 ล้านบาท ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขาย 15,004 หน่วย มูลค่า 65,147 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างตลาดที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายของ 4 จังหวัดนี้ พบว่า จังหวัดภูเก็ต และสงขลา เป็นจังหวัดที่มีขนาดตลาดเป็นลำดับ 1 และ 2 ในทุกด้าน ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนและสัดส่วนที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่มีการเสนอขาย
โดยจังหวัดภูเก็ตมีการเสนอขายถึง 7,507 หน่วย มูลค่า 36,662 ล้านบาท และจังหวัดสงขลามีจำนวนหน่วย 5,388 หน่วย มูลค่า 20,780 ล้านบาท ของหน่วยที่เสนอขายทั้งหมด ตามลำดับ
แต่จังหวัดสงขลามีการเปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด โดยมีการเปิดตัวทั้งบ้านจัดสรรและอาคารชุดรวม 1,782 หน่วย มูลค่า 6,187 ล้านบาท ของหน่วยที่เปิดขายใหม่มากกว่าจังหวัดอื่น ทั้งนี้เป็นหน่วยบ้านจัดสรร 1,224 หน่วย มูลค่า 5,109 ล้านบาท และอาคารชุด 558 หน่วย มูลค่า 1,079 ล้านบาท
สำหรับจังหวัดภูเก็ตมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่รวมสูงสุด 1,465 หน่วย มูลค่า 6,400 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ 3.3% ต่อเดือน รองลงมาเป็นจังหวัดสงขลา 604 หน่วย มูลค่า 2,083 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ 1.9% ต่อเดือน
ส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขายได้ใหม่รวม 459 หน่วย มูลค่า 1,515 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ 2.3% ต่อเดือน และนครศรีธรรมราช ขายได้ใหม่รวม 187 หน่วย มูลค่า 697 ล้านบาท โดยมีอัตราการดูดซับที่ 2% ต่อเดือน ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี มีอัตราดูดซับอาคารชุดสูงสุด 4.1%
จำนวนอุปทานโดยรวมของตลาดอสังหาฯ 4 จังหวัดภาคใต้
ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั้งหมด จำนวน 17,719 หน่วย มูลค่า 75,841 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 9.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมูลค่าเพิ่มขึ้น 5.2% YoY ตามลำดับ
โดยเป็นโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนเพียง 3,905 หน่วย มูลค่า 12,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 390% YoY และ 210.6% YoY ตามลำดับ ขณะที่ที่อยู่อาศัยเหลือขาย ณ ครึ่งแรกปี 2566 จำนวน 15,004 หน่วย มูลค่า 65,147 ล้านบาท จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้น 9.6% YoY และมูลค่าเพิ่มขึ้น 5.7% YoY
โดย 5 ทำเล ที่มีจำนวนหน่วยเหลือขายมากที่สุดใน 4 จังหวัดภาคใต้ คือ
- อันดับ 1 ทำเลเทพกระษัตรี-ศรีสุนทร จำนวน 1,401 หน่วย มูลค่า 5,359 ล้านบาท
- อันดับ 2 ทำเลท่าข้าม-ควนหิน จำนวน 1,003 หน่วย มูลค่า 4,261 ล้านบาท
- อันดับ 3 ทำเลประดู่-บางชุมโถ จำนวน 929 หน่วย มูลค่า 2,790 ล้านบาท
- อันดับ 4 ทำเลเกาะแก้ว-รัษฎา จำนวน 877 หน่วย มูลค่า 6,989 ล้านบาท
- อันดับ 5 ทำเลหาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 857 หน่วย มูลค่า 5,319 ล้านบาท
โดยระดับราคาที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุดคือ 3.01-5.00 ล้านบาท มีจำนวนถึง 5,406 หน่วย มูลค่า 22,609 ล้านบาท
อุปสงค์โดยรวมของตลาดอสังหาฯ 4 จังหวัดภาคใต้
ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่ 2,715 หน่วย มูลค่า 10,694 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 1,398 หน่วย มูลค่า 6,153 ล้านบาท และอาคารชุด 1,317 หน่วย มูลค่า 4,541 ล้านบาท ซึ่งทำเลที่มีหน่วยขายได้สูงสุด 5 อันดับแรกคือ
- อันดับ 1 ตลาดใหญ่-ตลาดเหนือ จำนวน 462 หน่วย มูลค่า 857 ล้านบาท
- อันดับ 2 ในเมืองกระทู้ จำนวน 219 หน่วย มูลค่า 552 ล้านบาท
- อันดับ 3 หาดบางเทา-หาดสุรินทร์ จำนวน 216 หน่วย มูลค่า 1,507 ล้านบาท
- อันดับ 4 ประดู่-บางชุมโถ จำนวน 185 หน่วย มูลค่า 484 ล้านบาท
- อันดับ 5 เกาะแก้ว- รัษฎา จำนวน 173 หน่วย มูลค่า 1,419 ล้านบาท
ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดภูเก็ต
สำหรับครึ่งแรกปี 2566 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดภูเก็ต มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 7,507 หน่วย มูลค่า 36,662 ล้านบาท ลดลง 4.8% และลดลง 7.4% โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 3,290 หน่วย มูลค่า 17,629 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 4,217 หน่วย มูลค่า 19,033 ล้านบาท
โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,604 หน่วย เพิ่มขึ้น 237% มูลค่า 4,506 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.5% ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 1,465 หน่วย เพิ่มขึ้น 18.5% มูลค่า 6,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% และจำนวนหน่วยเหลือขาย 6,042 หน่วย ลดลง 9.1% มูลค่า 30,262 ล้านบาท ลดลง 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
REIC คาดการณ์ ปี 2566 จะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 2,406 หน่วย มูลค่า 6,759 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 2,789 หน่วย มูลค่า 12,146 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 5,520 หน่วย มูลค่า 27,621 ล้านบาท
ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดสงขลา
ครึ่งแรกปี 2566 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดสงขลา มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 5,388 หน่วย มูลค่า 20,708 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.7% และเพิ่มขึ้น 35.2% โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 4,534 หน่วย มูลค่า 18,820 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 854 หน่วย มูลค่า 1,960 ล้านบาท
โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 1,782 หน่วย เพิ่มขึ้น 552.7% มูลค่า 6,187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 555.6% ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 604 หน่วย เพิ่มขึ้น 16.8% มูลค่า 2,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% และจำนวนหน่วยเหลือขาย 4,784 หน่วย เพิ่มขึ้น 40.9% มูลค่า 18,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
คาดการณ์ ปี 2566 จะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 2,673 หน่วย มูลค่า 9,281 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 1,229 หน่วย มูลค่า 4,209 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 5,050 หน่วย มูลค่า 19,589 ล้านบาท
ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ครึ่งแรกปี 2566 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 3,279 หน่วย มูลค่า 12,120 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.1% และเพิ่มขึ้น 39.5% โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,723 หน่วย มูลค่า 9,738 ล้านบาท โครงการอาคารชุด 556 หน่วย มูลค่า 2,382 ล้านบาท
โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 432 หน่วย เพิ่มขึ้น 1,036.8% มูลค่า 1,573 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 775.8% ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 459 หน่วย เพิ่มขึ้น 37.8% มูลค่า 1,515 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3% และจำนวนหน่วยเหลือขาย 2,820 หน่วย เพิ่มขึ้น 42.9% มูลค่า 10,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
คาดการณ์ ปี 2566 จะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 648 หน่วย มูลค่า 2,359 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 863 หน่วย มูลค่า 2,844 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 2,632 หน่วย มูลค่า 9,830 ล้านบาท
ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
ครึ่งแรกปี 2566 ในพื้นที่สำรวจจังหวัดนครศรีธรรมราช มีที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น 1,545 หน่วย มูลค่า 6,279 ล้านบาท ลดลง 26.4% และ 25.6% โดยเป็นโครงการบ้านจัดสรรเพียงอย่างเดียว
โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวน 87 หน่วย เพิ่มขึ้น 770% มูลค่า 429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 823.9% ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มีจำนวน 187 หน่วย ลดลง 55.9% มูลค่า 697 ล้านบาท ลดลง 56.9% และจำนวนหน่วยเหลือขาย 1,358 หน่วย ลดลง 18.9% มูลค่า 5,582 ล้านบาท ลดลง 18.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565
คาดการณ์ ปี 2566 จะมีที่อยู่อาศัยเข้ามาในตลาดจำนวน 131 หน่วย มูลค่า 644 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 352 หน่วย มูลค่า 1,313 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 1,236 หน่วย มูลค่า 5,081 ล้านบาท