ขยะในแต่ละวัน แต่ละเดือนมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งการจัดเก็บนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ เจ้าหน้าที่เขต หรือ อบต. จังหวัด แต่หลายคนอาจมีคำถามค้างคาใจ ว่าทำไมต้องจ่าย "ค่าขยะ" เพิ่มเข้ามาอีก ในเมื่อเสียค่าส่วนกลางหลักหมื่นล่วงหน้าไปแล้ว
ก่อนจะอึดอัดใจไปมากกว่านี้ มาไขข้อสงสัยเรื่องค่าขยะ พร้อมอัปเดตค่าขยะใหม่ ไปพร้อม ๆ กัน
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ค่าขยะไม่รวมอยู่ในค่าส่วนกลาง
จากการที่ค่าขยะถูกแยกออกมาจากค่าส่วนกลาง อาจทำให้หลายคนงุนงงว่า ในเมื่อนิติบุคคลเรียกเก็บค่าส่วนกลางแล้ว ทำไมต้องจ่ายเพิ่มอีก
บุคคลผู้มีหน้าที่เสียค่าจัดเก็บขยะเพื่มเติมออกมาจากค่าส่วนกลางนั่นคือ กลุ่มผู้อยู่อาศัยในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ไม่ว่าจะเป็นประเภทบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือโฮมออฟฟิศ ในทุกระดับราคา หรือสร้างบ้านขึ้นในเนื้อที่ของตนเอง จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มทั้งหมด
ทั้งนี้ ผู้มาดำเนินจัดเก็บจะเป็น เจ้าหน้าที่เขต หรือ อบต. จังหวัด โดยไม่ได้เข้ากระเป๋านิติบุคคลหรือเจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรแต่อย่างใด
ส่วนกลุ่มผู้พักอาศัยคอนโดมิเนียม นั้นไม่ต้องเสียค่าขยะเพิ่ม เนื่องจากการจัดเก็บขยะนั่นรวมอยู่ในค่าส่วนกลางที่ทางนิติบุคคลเป็นผู้กำหนด และเป็นผู้ดำเนินการเก็บขยะให้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม บางโครงการบ้านจัดสรรก็มีการจัดเก็บค่าขยะรวมอยู่ในค่าส่วนกลางด้วยเช่นกัน ผู้ซื้อจึงควรสอบถามความชัดเจนเรื่องนี้ก่อนการตัดสินใจซื้อบ้านกับทางฝ่ายนิติบุคคล

อัปเดตค่าขยะใหม่ เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว หากไม่แยกขยะ
กรุงเทพมหานคร ปรับขึ้นค่าเก็บขยะ 3 เท่า แต่หากบ้านไหนช่วยแยกขยะลดเหลือ 20 บาทต่อเดือน เริ่มเดือนตุลาคม 2568 มาจากการปรับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. 2568
โดยข้อบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารหรือสถานที่ใด ๆ ที่เป็นแหล่งกำเนิดสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ต้องเสียค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามที่กำหนด ประกอบด้วย
1. ค่าเก็บขนและกำจัดสิ่งปฏิกูล (ค่าสูบส้วมและไขมัน)
คิดในอัตราลูกบาศก์เมตรละ 600 บาทต่อครั้ง (ค่าเก็บและขน 300 บาท ค่ากำจัด 300 บาท)
2. ค่าเก็บขนและกำจัดมูลฝอยทั่วไป แบ่งเป็นรายเดือนและเป็นครั้งคราว
2.1 ค่าเก็บขนและกำจัดมูลฝอยทั่วไป แบบรายเดือน
– กรณีที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน จ่ายค่าธรรมเนียม 60 บาทต่อเดือน (ค่าเก็บและขนเดือนละ 30 บาท ค่ากำจัดเดือนละ 30 บาท)
แต่หากมีการคัดแยกขยะและลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์ที่กรุงเทพมหานครกำหนด จะจ่ายค่าธรรมเนียมเท่าเดิมที่เคยจ่าย คือ เดือนละ 20 บาท (ค่าเก็บและขนเดือนละ 10 บาท ค่ากำจัดเดือนละ 10 บาท)
– กรณีที่มีปริมาณขยะมากกว่า 20 ลิตรต่อวัน แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จ่ายค่าธรรมเนียม 120 บาทต่อ 20 ลิตร
– กรณีที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน จ่ายค่าธรรมเนียม 8,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (ค่าเก็บและขน 3,250 บาท และค่ากำจัด 4,750 บาท)
2.2 ค่าเก็บขนและกำจัดมูลฝอยทั่วไป ที่จัดเก็บเป็นครั้งคราว
– กรณีที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 500 ลิตร คิดครั้งละ 255 บาท (ค่าเก็บและขน 125 บาท และค่ากำจัด 130 บาท)
– กรณีที่มีปริมาณขยะเกิน 500 ลิตร แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร คิดครั้งละ 370 บาท (ค่าเก็บและขน 180 บาท และค่ากำจัด 190 บาท)
– กรณีที่มีปริมาณขยะเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นหน่วย หน่วยละ 495 บาท (ค่าเก็บและขน 245 บาท และค่ากำจัด 250 บาท)
บริการเก็บขยะเป็นครั้งคราว ได้แก่
– ขยะชิ้นใหญ่ เช่น ที่นอน, โต๊ะ, เตียง, เศษไม้, เครื่องใช้ไฟฟ้า, โซฟา, เก้าอี้ ฯลฯ สามารถโทรศัพท์ขอรับบริการที่สำนักงานเขตพื้นที่ หรือสำนักงานเขตแจกประกาศนัดวันเก็บขยะชิ้นใหญ่ (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
– กิ่งไม้ปริมาณมาก สามารถโทรศัพท์แจ้งขอรับบริการเก็บขนกิ่งไม้, ใบไม้ จากอาคารบ้านเรือน
– เศษวัสดุก่อสร้างจากอาคารบ้านเรือน เช่น หิน, ปูน, คอนกรีต, ฝ้าเพดาน สามารถโทรศัพท์แจ้งขอรับบริการเก็บขนเศษวัสดุก่อสร้าง
โดยสามารถแจ้งขอรับบริการที่ ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ สำนักงานเขตพื้นที่
3. ค่าเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ
3.1 ค่าเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ แบบรายเดือน
– กรณีที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 13 ลิตรต่อวัน หรือน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม คิดเดือนละ 780 บาท (ค่าเก็บและขน 300 บาท และค่ากำจัด 480 บาท)
– กรณีที่มีปริมาณขยะเกิน 13 ลิตรต่อวัน หรือน้ำหนักเกิน 2 กิโลกรัม คิดเป็นหน่วย หน่วยละ 480 บาท (ค่าเก็บและขน 300 บาท และค่ากำจัด 480 บาท)
3.2 ค่าเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ที่จัดเก็บเป็นครั้งคราว
กรณีเป็นครั้งคราว ค่าเก็บและขนมูลฝอยติดเชื้อเก็บเป็น 2 รายการ คือ ค่าบริการ ครั้งละ 3,000 บาท กรณีระยะทางเกิน 10 กิโลเมตร คิดเพิ่มอีกกิโลเมตรละ 15 บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 5,000 บาท
ส่วนค่าเก็บขน กรณีที่มีปริมาณ 100 ลิตร หรือน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม คิดครั้งละ 75 บาท กรณีที่มีปริมาณเกิน 100 ลิตร หรือน้ำหนักเกิน 15 กิโลกรัม คิดเป็นหน่วย ทุก ๆ 100 ลิตร หรือทุก ๆ 15 กิโลกรัม หน่วยละ 75 บาท
สำหรับค่ากำจัดมูลฝอยติดเชื้อ แบบเป็นครั้งคราว กรณีมีปริมาณไม่เกิน 6.5 ลิตร หรือน้ำหนักไม่เกิน 1 กิโลกรัม คิดเป็นหน่วย หน่วยละ 8 บาท
ปัญหาขยะที่ควรรู้
ปัญหาขยะ และวิธีจัดการเพื่อนบ้านที่ชอบเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้าน
ไม่อยากเสียค่าขยะเพิ่ม 3 เท่าต้องทำอย่างไร
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนลดและคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินโครงการ "บ้านนี้ไม่เทรวม : แยกขยะลดค่าธรรมเนียม" เพื่อให้ประชาชนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมโดยลดและคัดแยกขยะ นำขยะไปใช้ประโยชน์ ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณขยะที่ทิ้งให้กรุงเทพมหานครนำไปกำจัดลดลง ทำให้อัตราค่าธรรมเนียมฯ ที่ต้องจ่ายก็จะลดลงตามไปด้วย
การแยกขยะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
1. ขยะรีไซเคิล ได้แก่ กระป๋องอะลูมิเนียม, ขวดน้ำ, ขวดแก้ว, สมุด, หนังสือ, กระป๋องเหล็ก, ขวดปั๊ม/ขวดขุ่น, กระดาษหนังสือพิมพ์, ลังกระดาษ/กล่องพัสดุ
วิธีการทิ้ง
1) เทของเหลวหรือเศษอาหาร (ถ้ามี) ควรล้างทำความสะอาด
2) รวบรวมใส่ถุงใสหรือถุงที่มองเห็นขยะด้านใน
3) นำไปขายหรือบริจาค
4) กรณีประสงค์ทิ้งให้กรุงเทพมหานครมัดปากถุง หากใส่ถุงดำ ให้เขียนข้อความหรือติดป้าย หรือสัญลักษณ์ที่ระบุว่าเป็น "ขยะรีไซเคิล" วางที่จุดทิ้งขยะ รอการจัดเก็บตามที่สำนักงานเขตกำหนด
2. ขยะเศษอาหาร ได้แก่ เปลือกผลไม้, เศษผัก, เศษอาหาร
วิธีทิ้ง
1) เทน้ำ กรองเฉพาะเศษอาหาร (อย่าลืมเทน้ำซุป/น้ำแกงออกก่อน)
2) นำไปใช้ประโยชน์ทำปุ๋ยหมักหรือเป็นอาหารสัตว์
3) ในกรณีประสงค์ทิ้งให้กรุงเทพมหานครใส่ถุงสีเขียว หรือถุงที่มองเห็นขยะด้านใน มัดปากถุง วางที่จุดทิ้งขยะ
4) รอการจัดเก็บตามที่สำนักงานเขตกำหนด
3. ขยะทั่วไป ได้แก่ ซองขนม, ทิชชู่/ทิชชู่เปียก, แก้วกาแฟ, ถุงแกง, หลอดยาสีฟัน, ถุงเติม, กล่องโฟม, ถุงพลาสติก, เศษผ้า, ผ้าอ้อมสำเร็จรูป
วิธีทิ้ง
1) รวบรวมใส่ถุง และมัดปากถุง
2) ทิ้งในถังขยะหรือจุดทิ้งขยะ ตามวัน เวลา ที่สำนักงานเขตกำหนด
4. ขยะอันตราย ได้แก่ ถ่านไฟฉาย, หลอดไฟ, กระป๋องแก๊ส/กระป๋องสเปรย์, สายชาร์จที่พังแล้ว, ยาหมดอายุ
วิธีทิ้ง
1) รวบรวมใส่ถุงใสหรือถุงที่มองเห็นขยะด้านใน
2) หากใส่ถุงดำให้เขียนข้อความ หรือติดป้าย หรือสัญลักษณ์ที่ระบุว่าเป็น "ขยะอันตราย"
3) ทิ้งตามจุดที่กำหนดหรือรอการจัดเก็บตามที่สำนักงานเขตกำหนด
โดยการลงทะเบียนจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
1. การลงทะเบียนแบบเดี่ยว
สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือไม่เกิน 4 กิโลกรัม ผู้ที่ลงทะเบียนในกลุ่มนี้ ประกอบด้วย บ้านพักอาศัย บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม/แฟลต ที่ไม่มีนิติบุคคล
โดยเจ้าของบ้านหรือผู้เช่าที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ลงทะเบียนด้วยตนเองทางแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ BKK WASTE PAY กรณีไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ที่จัดเก็บค่าธรรมเนียม หรือลงทะเบียนที่สำนักงานเขตที่บ้านเรือนตั้งอยู่
สิ่งที่ต้องใช้ในการลงทะเบียน ประกอบด้วย รหัสประจำบ้าน (House ID) 11 หลัก ชื่อ-สุกล เบอร์โทรศัพท์ และภาพถ่ายขยะที่คัดแยก (ขยะเศษอาหาร, ขยะรีไซเคิล, ขยะอันตราย และขยะทั่วไป)
สำหรับ 1 ปีแรก บ้านเรือนที่ลงทะเบียนจะได้รับถุงใส่ขยะเศษอาหาร ทั้งนี้ ระบบจะมีการสุ่มตรวจการคัดแยกขยะทุก ๆ 3 เดือน
2. การลงทะเบียนแบบกลุ่ม
หมู่บ้านจัดสรร อาคารชุดพักอาศัย ที่มีนิติบุคคล และชุมชนตามระเบียบกรุงเทพมหานคร ที่มีปริมาณขยะไม่เกิน 20 ลิตรต่อวันต่อหลังหรือต่อห้อง
โดยสำนักงานเขตพื้นที่จะเชิญนิติบุคคลมาประชุมเพื่อแจ้งรายละเอียดและแนวทางการจัดที่พักรวมมูลฝอยที่คัดแยก 4 ประเภท รวมถึงขั้นตอนและวิธีการลงทะเบียน หลักฐานที่ต้องแนบ เช่น รายงานการประชุมลูกบ้านที่มีมติ รหัสประจำบ้าน (House ID) 11 หลัก ของบ้านทุกหลัง และหลักฐานการใช้ประโยชน์ขยะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร โทร. 02-203-2936-7 หรือฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ ทั้ง 50 เขต
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ