เทรนด์ธุรกิจ ปี 2568 ธุรกิจไหนดาวรุ่ง-ดาวร่วง

เทรนด์ธุรกิจ ปี 2568 ธุรกิจไหนมาแรง ลองมาดูว่าธุรกิจไหนที่มาแรงในปี 2568 จนได้ชื่อว่าเป็นดาวรุ่ง และธุรกิจไหนที่ดูแล้วน่าเป็นห่วง จนได้ชื่อว่าเป็นดาวร่วง หาคำตอบได้จากบทความนี้

ในปี 2568 มีแนวโน้มที่หลายธุรกิจจะกลายเป็นธุรกิจมาแรง โดยทาง finbiz by ttb เผยข้อมูล 5 เทรนด์ธุรกิจมาแรง ในปี 2568 ทั้งด้านเทคโนโลยี สังคม และสิ่งแวดล้อม ดังนี้

ในปี 2568 สัตว์เลี้ยงจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกในครอบครัว จะเห็นการเพิ่มขึ้นของความต้องการบริการเกี่ยวกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง, สินค้าพรีเมียม และการดูแลแบบเฉพาะทาง เช่น บริการตรวจสุขภาพประจำปีสัตว์เลี้ยง พร้อมให้คำปรึกษา ซึ่งการให้คำปรึกษาด้านการเลี้ยงสัตว์ออนไลน์ก็อยู่ในความสนใจ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และอุปกรณ์ติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง

– พัฒนาผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่เน้นคุณภาพสูง เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ หรือบริการพรีเมียม

– นำเทคโนโลยี เช่น แอปติดตามสุขภาพสัตว์เลี้ยง มาเพิ่มคุณค่าและประสบการณ์ลูกค้า

– จัดสรรโซนรองรับสัตว์เลี้ยงในสถานที่บริการต่าง ๆ พร้อมมาตรฐานความสะอาดที่ชัดเจน

– การสร้างระดับมาตรฐานเดียวกัน เพื่อวัดความสะอาดให้กับกลุ่มธุรกิจบริการที่ Pet-Friendly

– ธุรกิจประกันสำหรับสัตว์เลี้ยง ต้องหาวิธีระบุเลขทะเบียนสัตว์เลี้ยงที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้ประวัติการรักษาของสัตว์เลี้ยงมีฐานข้อมูลเดียวกัน

– เทคโนโลยีประเภท Robot ที่มี AI สร้างพฤติกรรมแบบสัตว์เลี้ยงจริง ๆ ให้เจ้าของสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยง Robot ยุคใหม่

ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างเต็มตัวแล้ว จึงมีความต้องการด้านบริการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้งานง่ายจะมีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านการให้คำปรึกษาสุขภาพ และบริการต่าง ๆ ที่รองรับการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร

ปัจจุบันผู้สูงอายุเปิดรับการใช้งานผ่านเทคโนโลยีมากขึ้น จึงเป็นโอกาสสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ

– สร้างผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับผู้สูงอายุ เช่น เครื่องมือตรวจสุขภาพดิจิทัล

– ลงทุนในแอปพลิเคชันและบริการดูแลสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก

– ปรับปรุงพื้นที่บริการให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ มีความปลอดภัย และมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก

– งานบริการที่เหมาะกับสังคมสูงวัย เช่น บริการนำเที่ยวที่เหมาะกับผู้สูงอายุ

– รูปแบบการเช่าซื้อ หรือทำสัญญา เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ ที่พักอาศัยที่มาพร้อมกับการดูแล และการรักษาพยาบาล

– งานบริการด้านยานพาหนะ การเช่ายานพาหนะเป็นครั้งคราว หรือรถยนต์พร้อมคนขับ

– ธุรกิจเกี่ยวกับความสงบในบั้นปลาย ที่จะพาผู้สูงอายุไปพบความสุขสงบทางใจ อาจใช้เทคโนโลยีเช่นแว่น VR เข้ามาช่วยในการเล่าเรื่อง ให้เข้าใจและปล่อยวางก่อนเข้าสู่วาระสุดท้ายของชีวิต

ในปี 2568 พลังงานสะอาดจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการในการลดคาร์บอน รวมถึงวิทยาการ นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะช่วยลดการใช้พลังงาน หรือผลิตพลังงานสะอาดด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ จึงทำให้ผู้บริโภคตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

– ลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อลดต้นทุนพลังงานในระยะยาว

– ปรับกลยุทธ์การผลิตเพื่อลดคาร์บอน และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

– ธุรกิจใหม่ ๆ ที่ต่อเนื่องมาจากนวัตกรรมพลังงานหมุนเวียน เช่น การกำจัดแบตเตอรี่ การซ่อมบำรุงยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ การกำจัดแผงโซลาร์เซลล์ หรือนวัตกรรมการรีไซเคิลต่าง ๆ

AI และระบบ Automation จะเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริษัททั่วโลกจะมีการใช้ AI ในกระบวนการธุรกิจ เพื่อการตัดสินใจที่มีข้อมูลและการบริการที่ทันสมัย กิจกรรมด้านการตลาดทั้งหมดจะเป็นระบบอัตโนมัติ

โดย AI จะถูกใช้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า การใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจะมีความสำคัญและมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมาก

– นำ AI และระบบอัตโนมัติมาใช้ในกระบวนการทำงาน เช่น ระบบ CRM หรือ Chatbot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า

– เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปใช้ในการปรับปรุงการบริการ และเพิ่มความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภค

– ธุรกิจที่ใช้ AI เป็นที่ปรึกษาให้กับตัวลูกค้าเอง เสมือนลูกค้าได้คุยกับตัวเอง โดยใช้การพยากรณ์แนวคิดของลูกค้า จากพฤติกรรมที่เก็บข้อมูลได้ และสร้างบริการให้ลูกค้าปรึกษากับตัวเองในการตัดสินใจสำคัญ ๆ ในชีวิต

การเข้าสู่สังคมไร้เงินสด และการเติบโตของการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน ยังคงเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญในปี 2568 โดยเฉพาะการขยายตลาดในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีนและอินเดีย ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องกว่า 15% ธุรกิจจึงควรปรับตัวโดยใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงตลาดเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว

– เตรียมพร้อมรองรับช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย และเพิ่มประสิทธิภาพการรับชำระเงินเพื่อให้เงินหมุนเวียนในธุรกิจได้รวดเร็ว

– พัฒนาโลจิสติกส์และบริการจัดส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

– สร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ให้มีจุดเด่น และมีสินค้าทดแทนได้ยาก

– มุ่งสู่ความเป็น IoT (Internet of Things) ที่สมบูรณ์ การพัฒนาแอปพลิเคชันไปกับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถสั่งซื้อของออนไลน์ได้ในเวลาที่ผู้บริโภคต้องการ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์และคาดการณ์ว่าการทำธุรกิจในปี 2568 ยังคงต้องเผชิญหลายปัจจัยกดดันการเติบโตของธุรกิจ

– เศรษฐกิจเสี่ยงโตชะลอ โดยคาดว่าปี 2568 เศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโต 2.4% ชะลอลงจากปี 2567 ที่จะโต 4.6%

– สังคมสูงอายุกดดันการใช้จ่าย โดยคนสูงอายุกว่า 34% มีรายได้น้อยหรือต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มแพงขึ้น ขณะที่คนสูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด, โรคเบาหวาน หรือโรคมะเร็งต่าง ๆ

– การแข่งขันรุนแรงต่อเนื่องกับสินค้านำเข้า โดย 1 ใน 4 ของสินค้านำเข้าของไทยมาจากจีน และสินค้านำเข้ากดดันให้อัตราการใช้กำลังการผลิต 10 เดือนแรก ปี 2567 อยู่ที่ 58% ลดลงต่อเนื่อง

– สภาพอากาศแปรปรวน มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมทั้งในและต่างประเทศเข้มงวดขึ้น เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ของสหภาพยุโรป (EU), พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (พ.ร.บ.Climate Change) และต้นทุนในการปรับตัวของธุรกิจเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ยังได้คาดการณ์ธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วง ในปี 2568 โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพ มูลค่าตลาดโต 5-7% จากเทรนด์รักสุขภาพและสังคมสูงวัย

2. การแพทย์และความงาม เทรนด์ใส่ใจสุขภาพหนุนค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น 4-6% ต่อปี

3. ท่องเที่ยว/ฮีลใจ เช่น สัตว์เลี้ยง, คอนเสิร์ต, มูเตลู, หมูเด้ง และหมีเนย โดยมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโต 10-15% ตามจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น

4. สินค้าและบริการเกี่ยวกับเด็ก โดยตลาดสินค้าเด็กโต 4% จากการที่พ่อแม่ยังต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ/ปลอดภัย

5. ธุรกิจกรีน/ปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่ง 58% ของผู้บริโภคเต็มใจจ่ายสินค้า/บริการกรีนเพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าปกติ (ผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปี 2567)

1. ผลิตสินค้าแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง หลังยอดขายโตชะลอจากกำลังซื้อเปราะบางและแข่งกับสินค้านำเข้า

2. ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์สันดาป จากการเปลี่ยนผ่านสู่ EV มากขึ้น กดดันยอดขายรถยนต์ดังกล่าว

3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหดตัวจากความต้องการที่ยังไม่กลับมา และจำนวนยูนิตรอขายยังสูง

4. ธุรกิจ Trader/ซื้อมาขายไป เนื่องจากผู้ผลิตสินค้าใช้ช่องทาง Omni-Channel เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง

5. ธุรกิจปล่อยคาร์บอนสูง เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม โดยมาตรการสิ่งแวดล้อมกดดัน นอกเหนือจากการแข่งกับสินค้านำเข้า

ทั้งนี้ ผลประกอบการของแต่ละกิจการในธุรกิจรุ่ง-ร่วง แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเฉพาะ ซึ่งอาจไม่ได้รุ่งหรือร่วงตามธุรกิจในภาพใหญ่