ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านลดหย่อนภาษีได้ไหม หลายธนาคารมักแนะนำให้ทำ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน เพื่อคุ้มครองวงเงินกู้ในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพ ซึ่งนอกจากช่วยคุ้มครองหนี้บ้านแล้ว ยังมีสิทธิ์นำมาลดหย่อนภาษีได้จริง
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านลดหย่อนภาษีได้ไหม ลดหย่อนได้เท่าไหร่
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านลดหย่อนภาษีได้ไหม คำตอบคือ "ได้" หากกรมธรรม์มีอายุคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และทำกับบริษัทประกันชีวิตที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย โดยสามารถนำเบี้ยประกันนั้นไป ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านคืออะไร และเกี่ยวข้องกับการลดหย่อนภาษีอย่างไร
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน หรือ MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) เป็นประกันชีวิตประเภทหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้านโดยเฉพาะ หากผู้กู้เสียชีวิต บริษัทประกันจะชำระหนี้บ้านแทนจนหมด ทำให้บ้านไม่ถูกยึด และสามารถนำค่าเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้ ตามเงื่อนไขเดียวกับประกันชีวิตทั่วไป
MRTA เหมาะกับใคร
ประกัน MRTA เหมาะกับใคร และต้องจ่ายเท่าไหร่ เช็กได้ที่นี่
เงื่อนไขหากต้องการลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
กรมสรรพากร กำหนดไว้ชัดเจนว่าเบี้ย ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ลดหย่อนภาษีได้ ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข
1. กรมธรรม์ต้องมีอายุคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
หากกรมธรรม์สั้นกว่า 10 ปี จะไม่เข้าเกณฑ์การลดหย่อน
2. ลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
วงเงินนี้รวมกับเบี้ยประกันชีวิตและเบี้ยประกันสุขภาพของตนเอง (เบี้ยประกันสุขภาพสำหรับตนเองลดหย่อนได้สูงสุด 25,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตต้องไม่เกิน 100,000 บาท)
3. ต้องทำกับบริษัทประกันที่ประกอบกิจการในประเทศไทย
ตรวจสอบรายชื่อบริษัทประกันชีวิตที่ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
4. ห้ามเวนคืนกรมธรรม์ก่อนครบ 10 ปี
หากเวนคืนก่อนครบกำหนด จะถูกยกเลิกสิทธิ์ลดหย่อน และอาจต้องคืนภาษีย้อนหลัง
รายการลดหย่อนภาษี
รายการลดหย่อนภาษีขั้นพื้นฐานที่คุณควรรู้ เช็กได้ที่นี่
วิธีใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
เมื่อรู้แล้วว่าประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านลดหย่อนภาษีได้ไหม ขั้นตอนต่อไปคือการใช้สิทธิ์ให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์หรือถูกตรวจสอบย้อนหลัง
1. ขอเอกสารรับรองเบี้ยประกันจากบริษัทประกัน
เอกสารต้องระบุว่าเป็น เบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน และมีอายุคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
2. แนบเอกสารกับแบบ ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91
กรอกยอดเบี้ยประกันในช่อง "เบี้ยประกันชีวิต" โดยรวมกับเบี้ยประกันสุขภาพได้ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี
3. เก็บหลักฐานไว้อย่างน้อย 5 ปี
เผื่อในกรณีที่กรมสรรพากรเรียกตรวจสอบย้อนหลัง
หากเบี้ยประกัน MRTA ถูกรวมอยู่ในวงเงินกู้ของธนาคาร ควรขอเอกสารยืนยันจากธนาคารหรือบริษัทประกันว่าเป็นเบี้ยประกันชีวิตจริง เพื่อป้องกันการถูกตัดสิทธิ์ลดหย่อน
ประโยชน์เพิ่มเติมของการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน
นอกจากประโยชน์ด้านภาษี การทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่ทำให้คุ้มค่าต่อการพิจารณา
1. สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว
หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน หนี้บ้านจะถูกชำระแทน ทำให้บ้านไม่ถูกยึด ครอบครัวไม่ต้องรับภาระหนี้สิน
2. ช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อ
ธนาคารบางแห่งให้วงเงินกู้หรือดอกเบี้ยที่ดีกว่า หากทำประกับชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน ควบคู่ไปด้วย
3. สามารถรวมเบี้ยประกันในวงเงินกู้ได้
ลดภาระการจ่ายเงินก้อนโตในครั้งเดียว โดยผู้กู้สามารถขอรวมเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านเข้ากับวงเงินกู้ได้
สรุป ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านลดหย่อนภาษีได้ไหม
ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านลดหย่อนภาษีได้ไหม คำตอบคือ "ได้" หากเป็น กรมธรรม์อายุคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และทำกับบริษัทประกันในประเทศ โดยสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี นอกจากช่วยลดภาระภาษี ยังเป็นหลักประกันสำคัญที่สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว
อ้างอิง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ




