“ปัญหาการซื้อบ้านที่เป็นทรัพย์สินรอการขาย (NPA) จะหมดไป หากเราจัดการอย่างถูกวิธี” – K-Expert
การซื้อบ้านขายทอดตลาด หรือบ้านที่เป็นทรัพย์สินรอการขาย (NPA) หลายคนมองว่า การซื้อบ้านแบบนี้ ต้องตาดีถึงจะซื้อได้ เพราะถ้าตาไม่ดีหรือรู้ไม่จริงอาจทำให้มีปัญหาตามมาในภายหลัง หรือเข้าสุภาษิตไทยที่ว่า “ตาดีได้ ตาร้ายเสีย” ซึ่งปัญหาหลักๆ ที่มีโอกาสพบเจอจากการซื้อบ้าน NPA มีอะไรบ้างนั้น K-Expert ได้รวบรวมมาฝากกันแล้วค่ะ
สภาพบ้านเก่ากว่าที่คิด
การซื้อบ้าน NPA สิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งคือ ต้องไปดูและสัมผัสบ้านหลังที่ต้องการด้วยตัวเอง เพราะนอกจากจะต้องตรวจสอบโครงสร้างบ้านว่ามีการต่อเติมผิดแบบไหม หลังคารั่วซึมหรือเปล่า ยังต้องตรวจสอบอุปกรณ์ภายในบ้านด้วย อย่างเช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ว่ายังสามารถใช้ได้ไหม สายไฟชำรุดจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองและเพื่อนบ้านหรือไม่ มีท่อประปาแตก หรือไหลรั่วตรงจุดไหนหรือเปล่า
รวมถึงการตรวจสอบจุดสำคัญๆ ภายในบ้าน เช่น ห้องน้ำ บันได หรือบริเวณใดที่เป็นไม้ หากไม้ผุหรือโดนปลวกกิน อาจต้องบูรณะซ่อมแซมเป็นการใหญ่ จึงต้องเตรียมเงินไว้ซ่อมแซมบ้านเพิ่มเติมด้วย
เจ้าของเดิมยังอาศัยอยู่
แม้ว่าเราจะรับโอนกรรมสิทธิ์บ้านมาแล้วก็ตาม ถ้าตามกฎหมายก็ถือว่าเราเป็นเจ้าของใหม่ แต่ถ้าหากเจ้าของเก่าหรือเจ้าของเดิมยังคงอาศัยอยู่ในบ้าน และบ้านมีลักษณะปิดเอาไว้ เราเข้าไปในบ้านซึ่งปัจจุบันเป็นของเรา ก็ยังมีความผิดฐานผู้บุกรุก ดังนั้น ในกรณีนี้จะต้องทำการฟ้องขับไล่ ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาอีกประมาณ 1.5 – 3 ปี ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อก็ควรตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี จะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าสุดท้ายแล้วเราจะได้อยู่อาศัยในบ้านหลังดังกล่าวหรือไม่
โดนยึดมัดจำ
ในกรณีที่ทำเรื่องกู้กับสถาบันการเงิน และไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะการซื้อบ้าน NPA นั้น ต่างจากการซื้อบ้านใหม่ในโครงการทั่วๆ ไป ที่แม้ว่าจะมีการจองแล้ว หากธนาคารไม่อนุมัติวงเงินกู้ ทางโครงการมีโอกาสคืนเงินจองให้ ดังนั้น ทางที่ดีก่อนการซื้อบ้าน NPA ควรขออนุมัติวงเงิน (Pre Approve) จากฝ่ายพิจารณาสินเชื่อก่อนที่จะวางเงินมัดจำ เพื่อให้รู้ว่าหากต้องการกู้จะได้รับการพิจารณาวงเงินหรือไม่
เพราะหากมีการวางเงินประกันหรือเงินดาวน์ไปก่อน และเมื่อมาขอกู้แต่สถาบันการเงินไม่พิจารณาอนุมัติ เงินมัดจำและเงินประกันที่จ่ายไปแล้วก็จะถูกริบไปฟรีๆ ส่วนแนวทางในการแก้ไข สามารถหาผู้กู้ร่วมเพิ่มเติม หรืออาจเปลี่ยนสัญญาเงินกู้โอนให้พ่อ แม่ พี่น้อง สามี หรือภรรยาซื้อแทนค่ะ
ดังนั้น ก่อนซื้อบ้าน NPA หากไม่ต้องการประสบกับปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ต้องเพิ่มความรอบคอบ และระมัดระวังให้ดีก่อนตัดสินใจ ที่สำคัญเลือกซื้อบ้านให้เหมาะสมกับกำลังความสามารถในการผ่อน K-Expert แนะนำให้มีค่าผ่อนชำระหนี้ต่อรายได้ไม่เกิน 30% เพราะซื้อบ้านจะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมา ซึ่งต้องเตรียมเงินให้พร้อมไว้ด้วย เช่น ค่าโอน 2% ของวงเงินกู้ ค่าจดจำนอง 1%ของวงเงินกู้ ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ สามารถดูรายละเอียดในสัญญาว่าใครเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในส่วนใดบ้างค่ะ ติดตามบทความที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านได้ที่ K-Expert
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์, CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ