เรามักจะได้เห็นข่าวกันอยู่บ่อย ๆ ที่ผู้ให้เช่ามักจะเปิดเผยกันผ่านโซเชียลมีเดียว่าผู้เช่าห้องออกไปแล้วแต่ทิ้งความเสียหายเอาไว้ หรือทำห้องสกปรกจนผิดปกติวิสัย หรือกระทั่งสะสมขยะเอาไว้ก็ตาม นอกจากที่จะเห็นใจผู้ให้เช่าแล้ว บทความฉบับนี้เราจะไปพิจารณากันถึงสิทธิของผู้ให้เช่าตามกฎหมายกันครับ
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
สิทธิในทางแพ่งของผู้ให้เช่า
แน่นอนว่าเมื่อทำให้ทรัพย์สินที่เช่าเสียหาย ผู้ให้เช่าก็ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกร้องความเสียหายในทางแพ่ง ซึ่งผู้เช่าต้องรับผิดในทางทรัพย์สิน คือ ต้องชดใช้เงินเป็นค่าเสียหายที่ทำให้ทรัพย์สินที่เช่าสกปรก เสียหาย ชำรุด รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดให้ทรัพย์สินที่เช่ากลับคืนสู่สภาพเดิมด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินคดีแพ่งอาจจะไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนัก เพราะเมื่อชนะคดี ก็ทำได้เพียงบังคับเอากับทรัพย์สินของผู้เช่า ซึ่งอาจจะมี หรือไม่มีก็ได้
การบังคับคดีก็เป็นภาระของโจทก์ผู้ชนะคดี ที่จะต้องสืบหาทรัพย์สินของจำเลยผู้แพ้คดี และไปแจ้งให้กรมบังคับคดีทราบเพื่อบังคับด้วยการอายัดมาจ่าย (หากเป็นทรัพย์สินประเภทเงิน หรือสิทธิต่าง ๆ ที่เป็นตัวเงิน เช่น สิทธิในการรับเงินต่าง ๆ) หรือยึดนำไปขายทอดตลาดแล้วนำมาเงินที่ได้มาจ่าย (หากเป็นทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น ที่ดิน)
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับกฎหมายควบคุมสัญญาเช่าฉบับใหม่
กฎหมายควบคุมสัญญาเช่าฉบับปี 2562 เอื้อประโยชน์ต่อผู้ให้เช่ามากขึ้น อัปเดตได้ที่นี่
สิทธิในทางอาญาของผู้ให้เช่า
ทางเลือกที่ดูเหมือนจะดีกว่าสำหรับผู้ให้เช่าคือ การดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าผู้เช่ามีเจตนาที่จะทำให้ทรัพย์สินที่เช่าได้รับความเสียหาย ไม่ใช่เพียงการใช้สอยโดยไม่ระมัดระวังเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น ทรัพย์สินมีร่องรอยการทุบทำลายที่ไม่ได้เกิดจากการใช้งาน หากมีหลักฐานที่บ่งชี้เจตนาทำลายทรัพย์สินเช่นนี้ ผู้ให้เช่าสามารถดำเนินคดีอาญากับผู้เช่าได้
แต่ทั้งนี้ ต้องดำเนินคดีอาญาด้วยการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน หรือฟ้องคดีเองต่อศาลภายในเวลา 3 เดือนนับแต่วันที่ทราบถึงการกระทำความผิด (ซึ่งก็คือวันที่เห็นความเสียหายนั่นเอง)
แต่หากไม่มีหลักฐานที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าผู้เช่ามีเจตนาทำลายทรัพย์สิน ก็ไม่ควรจะดำเนินคดีอาญาในฐานทำให้เสียทรัพย์โดยเด็ดขาด เพราะอาจจะกลายเป็นการทำความผิดฐานแจ้งความเท็จ หรือฟ้องเท็จเสียเองก็ได้
การดำเนินคดีอาญาถ้ามีหลักฐานเพียงพอน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เนื่องจากผู้เช่าจะต้องเสี่ยงกับการสูญเสียอิสรภาพ หรือหากรอการลงโทษก็จะมีประวัติทำความผิดอาญา หากศาลพิจารณาแล้วว่ามีความผิดจริง
ดังนั้น ย่อมเป็นทางที่จะกดดันให้ผู้เช่าชดใช้ความเสียหายได้มากกว่านั่นเอง
รวมกฎหมายอสังหาริมทรัพย์ ซื้อ-ขาย-เช่า ที่คุณควรรู้
รวมบทความกฎหมายอสังหาฯ ที่คุณควรรู้ก่อนซื้อ ขาย เช่า หรือให้เช่า บ้าน คอนโด หรือที่ดิน รวมถึงปัญหาเพื่อนบ้าน และปัญหาอื่น ๆ
แนวทางป้องกันของผู้ให้เช่า
ทางที่ดีกว่าการดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญาก็คือการป้องกันไว้ก่อนเกิดเหตุ โดยผู้ให้เช่าควรระบุไว้ในสัญญาเช่าว่า ผู้ให้เช่ามีสิทธิเข้าไปตรวจตราสถานที่เช่าเป็นระยะ ๆ
หากผู้เช่าผิดสัญญา ผู้ให้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญา กลับเข้าครอบครองสถานที่เช่า และตัดน้ำ และไฟฟ้าได้ทันที
โดยผู้ให้เช่าควรใช้สิทธิตามสัญญานี้เพื่อเข้าไปตรวจสอบสถานที่เช่าว่ายังอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ หากไม่ดี สกปรก หรือเสียหาย ก็ต้องแจ้งให้ผู้เช่าแก้ไขปรับปรุง หากผู้เช่าไม่แก้ไขปรับปรุง ก็จึงใช้สิทธิเลิกสัญญาเสียแต่เนิ่น ๆ ต่อไป
เรื่องข้างต้นเขียนโดย ปกรณ์ อุ่นหิรัญสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอว์ แอนด์ เอควิตี้ จำกัด หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ pakorn@lawandequity.co
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ