รัฐสภาแห่งใหม่ หรือสัปปายะสภาสถาน เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ระดับชาติ ทุ่มงบประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแวดล้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครัน เปลี่ยนภาพพื้นที่ละแวกเกียกกาย-บางโพ ที่เคยเป็นเพียงชุมชนแสนสงบ คึกคักและมีชีวิตชีวามากขึ้น ที่สำคัญกำลังจะกลายเป็นทำเลทองที่เนื้อหอมมากที่สุดแห่งหนึ่ง
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- ทำไมต้องสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
- รัฐสภาแห่งใหม่ อยู่ที่ไหน
- รัฐสภาแห่งใหม่ แลนด์มาร์คริมน้ำเจ้าพระยา
- รัฐสภาแห่งใหม่ ทำไมถึงชื่อสัปปายะสภาสถาน
- โครงข่ายคมนาคมรอบรัฐสภาแห่งใหม่
- รัฐสภาแห่งใหม่ กระตุ้นมูลค่าอสังหาฯ
- รัฐสภาแห่งใหม่ เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่
- สรุป 7 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับรัฐสภาแห่งใหม่
ทำไมต้องสร้างรัฐสภาแห่งใหม่
อาคารรัฐสภาบนถนนอู่ทองใน ซึ่งสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2517 และใช้เป็นที่ประชุมสภายาวนานกว่า 30 ปี มีขนาดคับแคบและไม่เพียงพอสำหรับรองรับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และข้าราชการที่เพิ่มมากขึ้น รัฐบาลในสมัยนายสมัคร สุนทรเวชจึงได้อนุมัติโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ในปี พ.ศ. 2551
รัฐสภาแห่งใหม่ อยู่ที่ไหน
คณะกรรมการที่กำกับดูแลการสร้างรัฐสภาใหม่มีมติเลือกที่ดินของราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต ให้เป็นสถานที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่ เพราะมีความเหมาะรอบด้าน ทั้งภูมิทัศน์ คมนาคม สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค และเศรษฐกิจ
รัฐสภาแห่งใหม่ แลนด์มาร์คริมน้ำเจ้าพระยา
รัฐสภาแห่งใหม่ หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า รัฐสภาเกียกกาย ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ด้วยงบประมาณ 12,000 ล้านบาท ถือเป็นอาคารรัฐสภาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ถึง 119.6 ไร่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ฝั่งพระนคร) โดยก่อสร้างเป็นอาคารขนาดใหญ่ สูง 11 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอย 424,000 ตารางเมตร
แบ่งอาคารเป็น 2 ส่วน คือ สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา มีที่จอดรถรองรับได้ 2,069 คัน และมีพื้นที่สีเขียวมากถึง 115,529 ตารางเมตร ทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 2,987 ล้านบาท

รัฐสภาแห่งใหม่ ทำไมถึงชื่อ "สัปปายะสภาสถาน"
รัฐสภาแห่งใหม่นี้มีนามว่า “สัปปายะสภาสถาน” ซึ่งหมายถึง สภาที่มีแต่ความสงบร่มเย็นสบาย สถานที่สำคัญของชาติแห่งนี้ได้รับการออกแบบที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับอาคารที่ทันสมัยอย่างลงตัว เป็นผลงานชนะเลิศการประกวดของคุณธีรพล นิยม ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์
โดยนำแนวคิดพุทธสถาปัตยกรรมตามแบบแผน “ไตรภูมิ” มาใช้ บริเวณกลางอาคารมีเจดีย์จุฬามณี สูง 46 เมตร ประดิษฐานพระสยามเทวาธิราช พระคู่บ้านคู่เมืองไว้บนยอดเจดีย์ และด้านหน้าหันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา
นอกจากนี้ อาคารทั้งหมดยังถูกออกแบบให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีของสิ่งปลูกสร้างแห่งอนาคต
โครงข่ายคมนาคมรอบรัฐสภาแห่งใหม่
นับตั้งแต่โครงการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่เริ่มต้นขึ้น พื้นที่ย่านเกียกกาย บางโพ ศรีย่าน และสามเสนได้รับการพัฒนาสาธารณูปโภคอย่างเต็มที่ ทั้งการสร้างสะพานเกียกกายข้ามไปยังฝั่งธนบุรี
การขยายช่องทางการจราจร 4 สายให้เป็น 8 ช่องจราจร ได้แก่ ถนนสามเสน-ประชาราษฎร์สาย 1 และถนนทหาร พร้อมทั้งก่อสร้างทางคู่ขนานถนนสามเสน เพื่อเชื่อมต่อกับถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ทำให้การเดินทางของฝั่งพระนครและธนบุรีสะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางรถไฟฟ้า 2 สายที่ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านคมนาคมมากขึ้น ได้แก่ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ ที่เปิดให้บริการแล้ว และรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570
อัปเดตเส้นทางรถไฟฟ้า BTS-MRT
เส้นทางแผนที่สถานีรถไฟฟ้า BTS-MRT ฉบับใหม่ พร้อมอัปเดตทำเลศักยภาพใหม่ได้ที่นี่
พร้อมสร้างท่าเรือโดยสารที่สถานีพระนั่งเกล้า เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางรถ ราง และเรือให้สมบูรณ์ จึงทำให้ย่านเกียกกายที่เคยเงียบเหงากลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ในอีกไม่นานนี้
รัฐสภาแห่งใหม่ กระตุ้นมูลค่าอสังหาฯ
โครงการสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านเกียกกาย บางโพ ศรีย่าน และสามเสน รวมถึงทำเลแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือโดยเฉพาะเตาปูน, บางซ่อน และวงศ์สว่าง ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนาที่ดินและผู้ประกอบการธุรกิจ
เนื่องด้วยกระแสความต้องการที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าข้าราชการและข้าราชการการเมือง ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ให้คึกคักยิ่งขึ้นจากห้างสรรพสินค้าและมาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดกฎกระทรวงในการควบคุมอาคาร-สิ่งก่อสร้างที่บดบังทัศนียภาพอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เกียกกาย โดยอนุญาตให้สร้างตึกสูงไม่เกิน 5 ชั้น ในรัศมี 100 เมตร และ 8 ชั้นในรัศมี 200 เมตร ในพื้นที่ริมแม่น้ำฝั่งพระนครได้ จึงช่วยเปิดโอกาสให้ที่พักอาศัย ทั้งที่มีอยู่เดิมและจะถูกสร้างใหม่ มีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว
ขายคอนโด
ดูประกาศขายคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT บางโพ
รัฐสภาแห่งใหม่ เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่
ความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารสัปปายะสภาสถาน หรืออาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้เปิดใช้อาคารอย่างเต็มรูปแบบเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 หลังจากใช้เวลาก่อสร้างถึง 8 ปีเต็ม โดยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ได้มีการส่งมอบงาน 100% ให้แก่กรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ หลังจากล่าช้ามาเป็นระยะเวลานานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
อาคารรัฐสภาแห่งใหม่จะเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้เยี่ยมชมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ทางการเมือง ผ่านพิพิธภัณฑ์ประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีลานประชาชนให้ประชาชนได้เข้าใช้บริการด้วย
สรุป 7 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับรัฐสภาแห่งใหม่
หัวข้อ | รายละเอียด |
เหตุผลในการสร้าง | อาคารเดิมคับแคบ ไม่เพียงพอต่อจำนวนสมาชิกสภา จึงมีมติสร้างใหม่ตั้งแต่ปี 2551 |
สถานที่ตั้ง | ที่ดินราชพัสดุ ถนนทหาร (เกียกกาย) เขตดุสิต กรุงเทพฯ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา |
ลักษณะอาคาร | สูง 11 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 424,000 ตร.ม. มีที่จอดรถ 2,069 คัน และพื้นที่สีเขียว 115,529 ตร.ม. |
ความหมายของชื่อ | สัปปายะสภาสถาน แปลว่า สภาที่สงบร่มเย็น สะดวกทั้งกายและใจ ใช้แนวคิดไตรภูมิในการออกแบบ |
การคมนาคมโดยรอบ | เชื่อมต่อถนนสายหลัก-สะพานใหม่-รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีม่วง พร้อมท่าเรือพระนั่งเกล้า |
ผลต่อพื้นที่ใกล้เคียง | ส่งเสริมเศรษฐกิจ ทำให้ทำเลเกียกกาย-บางโพ เตาปูน ศรีย่าน เป็นแหล่งลงทุนอสังหาฯ ใหม่ |
สถานะโครงการ | เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ 1 พ.ค. 2564 ส่งมอบงาน 100% แล้วเมื่อ ก.ค. 2565 |
ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือหาที่พักอาศัยในทำเลทอง ที่ราคายังไม่สูงมาก
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ