ลย.01 คือ แบบฟอร์มแสดงรายการลดหย่อนภาษีที่พนักงานต้องยื่นต่อบริษัท เพื่อให้ฝ่ายบัญชีสามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด
สำหรับผู้มีเงินเดือนที่ลงทุนใน RMF หรือซื้อประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี แม้จะใช้สิทธิ์เหล่านี้อยู่แล้ว แต่หลายคนยังพลาดไม่ยื่นแบบ ลย.01 ทำให้บริษัทไม่สามารถนำข้อมูลลดหย่อนมาคำนวณภาษีรายเดือนให้ได้อย่างถูกต้อง
ผลคือถูกหักภาษีเกินจริงโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่หากยื่นแบบนี้ไว้แต่ต้น ท่านจะได้รับเงินเดือนเข้ากระเป๋ามากขึ้นตั้งแต่ทุกเดือนเลยทีเดียว
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
รู้จักลย.01 คืออะไร ให้มากขึ้น
ลย.01 คือแบบแจ้งรายการเพื่อการลดหย่อนภาษี ที่พนักงานหรือลูกจ้างสามารถใช้ยื่นข้อมูลแสดงการลดหย่อนภาษีที่มีทั้งด้านสถานะสมรส การเลี้ยงดูบิดามารดา รวมถึงรายการที่เป็นการวางแผนภาษีประจำปี การซื้อกองทุน RMF การซื้อประกันชีวิต รวมไปถึงเงินบริจาค
ส่วนใหญ่ฝ่ายบุคคลของบริษัทมักจะให้พนักงานอัปเดตกันตอนต้นปี แต่ก็มีอีกหลายบริษัทที่เปิดโอกาสให้ทำได้ระหว่างปีด้วย (อันนี้แต่ละท่านต้องลองตรวจสอบและเช็กกับบริษัทกันดู)

ยื่น ลย.01 แล้วดีอย่างไร
คำตอบคือ ยื่นแล้วท่านได้เงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้นทันที หลักการง่ายมาก HR บริษัทไม่มีทางรับรู้รายการลดหย่อนภาษีของพนักงานได้ถ้าพนักงานไม่เป็นคนบอก
ดังนั้น โดยทั่วไป HR จะคำนวณรายการลดหย่อนเท่าที่บริษัททราบและไม่ผิดแน่ เช่น หักค่าใช้จ่าย 100,000 บาท ค่าลดหย่อนส่วนตัวผู้เสียภาษีอีก 60,000 บาท ประกันสังคม 9,000 บาท
ถ้าไม่มีการแจ้งอะไรก็ถือว่าเอารายการเหล่านี้ไปหักลบออกจากเงินเดือนทั้งปีคำนวณเป็นภาระภาษีของแต่ละคน (ซึ่งต้องสูงกว่าปกติอยู่แล้ว เพราะยังมีค่าลดหย่อนอื่นที่ไม่ได้เอามาลบออก) แล้วก็มาเฉลี่ยตัดเป็น ภาษี หัก ณ ที่จ่ายในแต่ละเดือนให้ใกล้เคียงกับภาระภาษีที่คำนวณได้
ในฐานะพนักงาน: เงินได้ – ภาษี หัก ณ ที่จ่าย = เงินได้ที่ได้รับจริงแต่ละเดือน
ในฐานะบริษัท: เงินได้ทั้งปี (คาดการณ์) – รายการลดหย่อน (เท่าที่ HR มี) = เงินได้สุทธิ (นำมาคำนวณภาระภาษี)
ภาระภาษีทั้งปี: ภาระภาษีทั้งปี นำมาเฉลี่ยหักออกเป็นภาษี หัก ณ ที่จ่ายแต่ละเดือน นำส่งสรรพากร
ถ้าใครอัปเดตรายการลดหย่อนเพิ่มเข้าไปอีกตามจริงที่มีและที่คิดวางแผนไว้ว่าจะทำในปีนั้น ๆ ย่อมทำให้ยอด หัก ณ ที่จ่ายลดลง แบบนี้ก็เหลือเงินเข้ากระเป๋าเยอะขึ้นทันที
ดังนั้น หากเงินเดือนถูกหักไปมากกว่าที่ควรจะเป็นในทุกเดือน ถ้าเลือกได้ท่านจะรอขอคืนปีหน้า หรืออยากจะได้เลยในทุกเดือน อันนี้ไม่น่าเลือกยาก

ลย.01 กรอกอย่างไร
ให้ประเมินเงินที่จะได้รับเพิ่มเติมจากการนำรายการลดหย่อนกรอกใน ลย.01 ทดไว้ล่วงหน้า แล้วเก็บออมหรือลงทุนแทนการนำไปใช้จ่าย โดยใช้สูตร 10% เช่น เงินเดือน 40,000 ก็ให้กันเงิน 4,000 บาท ตัดออมหรือลงทุนอัตโนมัติทุกเดือนเอาไว้เลย ถ้าให้ดีตัดบัญชีซื้อ RMF ไว้เลยก็จะดีมาก ส่วนใครต้องการตัดมากกว่า 10% ก็ขอให้อย่าเกิน 15% ของยอดซื้อ RMF ในแต่ละรายการ
จะเห็นว่าระยะเวลาการยื่น ลย.01 คือทำปีละครั้งเท่านั้น (อาจทำได้มากกว่านี้ขึ้นกับแต่ละบริษัท หรือข้อมูลของผู้เสียภาษีที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างปี) ผลลัพธ์ที่ได้ในทางตัวเลขสำหรับบางคนอาจรู้สึกไม่แตกต่างกับการรอรับเงินคืนภาษีตอนต้นปี หรือบางคนคิดว่าให้สรรพากรช่วยเก็บเงินก็ดี เพราะถ้าได้เงินเข้ากระเป๋ามากก็ใช้มาก ซึ่งในความเป็นจริง เงินคืนภาษีที่ได้ต้นปีก็นำไปใช้จ่ายเช่นกันไม่ได้เหลือเก็บ
คำแนะนำให้ออมหรือลงทุนอัตโนมัติด้วยเงินภาษี ณ ที่จ่าย ที่ได้รับเพิ่มนี้ นอกจากช่วยสร้างวินัยออมเงินแล้ว หากใครหักบัญชีเข้าไปลงทุนใน RMF ด้วย ก็จะช่วยให้ปลายปีมีเงินเหลือมากขึ้นอันเนื่องจากไม่ต้องขนเงินก้อนใหญ่ไปรอลงทุน หรือยังเพิ่มโอกาสลงทุนได้มากกว่าทุกปีได้ด้วยง่าย ๆ
"เปลี่ยนเงินที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายรายเดือน มาแปลงเป็นเงินออมในรูปแบบ LTF และ RMF กันดีกว่า"
บทความจาก K-Expert ปรับปรุงโดยทีม DDproperty
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ


