เงินเดือน โบนัส หรือว่ารายได้ที่คุณได้มานั้น แน่นอนว่าหากไม่บริหารเงินให้ดี ไม่นานก็มีแต่จะหมดไป ซึ่งในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในปัจจุบันจำเป็นจะต้องมีการจัดการและบริหารอย่างถี่ถ้วน ลองมาดูวิธีการบริหารเงินดังต่อไปนี้
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
1. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
อย่างแรกที่ต้องทำคือ เมื่อเงินเดือนหดหาย หรือรายได้น้อยกว่าที่เคย สิ่งที่ต้องทำคือการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ลดการจับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย หรือเลิกความคิดที่ว่า "ของมันต้องมี" หรือหยุดตามเทรนด์สักระยะ
เทคนิคควบคุมรายจ่าย
ลองมาดู 3 เทคนิค ควบคุมรายจ่ายยุคไร้เงินสด ได้ที่นี่
โดยการคิดคำนวณค่าใช้จ่ายนั้น อย่างแรกต้องนำเงินที่มีมาคำนวณว่ารายจ่ายว่ามีอะไรบ้าง
– ค่าใช้จ่ายแบบประจำ หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่แน่นอนตายตัว เช่น ค่าผ่อนบ้าน, ค่าผ่อนรถ และค่าเบี้ยประกันต่าง ๆ
– ค่าใช้จ่ายผันแปร หมายถึง ค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ในแต่ละเดือน อาทิ ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าเดินทาง, ค่ากิน และค่าช้อปปิ้ง
โดยค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นนั้นสามารถตัดได้จากค่าใช้จ่ายผันแปรนั่นเอง
2. ออมเงินให้มากขึ้น
มองไปอนาคตแล้วขณะนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์จะกลับมาปกติเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้น "เงินออม" จะเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับอนาคตที่จะมาช่วยเหลือเรายามขัดสน หรือหากต้องออกจากงานโดยไม่คาดฝัน โดยทั่วไปเงินออมควรจะมีอย่างน้อย 6 เดือน
วิธีเก็บเงินให้มีเงินล้าน
วิธีเก็บเงิน ให้มีเงิน 7 หลัก ภายใน 10 ปี ดูได้ที่นี่
โดยวิธีการออมเงินก็มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีง่าย ๆ อย่างหยอดกระปุกออมสิน หรือการนำเงินออมไปฝากกับบัญชีฝากประจำดอกเบี้ยสูง หรือนำไปลงทุนกับกองทุนต่าง ๆ อาทิ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือกองทุน RMF หรือ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว หรือกองทุน SSF ได้ตามระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้ เงินที่เก็บสะสมไว้ก็จะงอกเงยได้มากกว่า
ตารางเปรียบเทียบระหว่างกองทุน SSF และ RMF
กองทุน SSF | กองทุน RMF |
SSF คือ กองทุนรวมเพื่อการออม (Super Savings Fund) | RMF คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund) |
ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30%* ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท | ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30%* ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท |
ลงทุนหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท | กองทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ-สูง |
ถือหน่วยลงทุน มากกว่าหรือเท่ากับ 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ | ลงทุนอย่างต่อเนื่องจนถึงอายุ 55 ปี และต้องไม่น้อยกว่า 5 ปี |
ไม่มีขั้นต่ำ และไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี | ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ แต่จำเป็นต้องลงทุนทุกปี หรือปีเว้นปี |
กำไรจากการขายคืนได้รับยกเว้นภาษี หากปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด | กำไรจากการขายคืนได้รับยกเว้นภาษี หากปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด |
*การซื้อ SSF, RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, ประกันชีวิตแบบบำนาญ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท ในแต่ละปีภาษี

3. หารายได้เสริม
ลองลุกมาหาอะไรทำเป็นงานอดิเรก หรือเป็นอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร การทำหน้ากากอนามัย การทำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งมีหลายงานที่มีแนวโน้มจะพัฒนาเป็นงานที่สามารถทำที่บ้านได้ หรือหากมีความกล้าแสดงออกบวกกับไอเดียก็สามารถพัฒนาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) หรือยูทูปเบอร์ (Youtuber)
แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความสามารถเฉพาะทางพอที่จะลุกมาหยิบจับเป็นอาชีพเสริมได้ ลองใช้เวลาว่าง หาความรู้ใส่ตัว ด้วยการเรียนออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางเรียนออนไลน์มากมาย เช่น กรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่มีหลักสูตรฝึก 15 ทักษะอาชีพ เรียนฟรี ๆ ได้ที่บ้าน ซึ่งหลายอาชีพสามารถพัฒนาเป็นงานหลักได้เลย
4. หาช่องทางลงทุน
หลายคนอาจจะเถียงในใจว่า การลงทุนในช่วงนี้จะดีจริงหรือไม่ ซึ่งการลงทุนในข้อนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน ซึ่งการลงทุนที่น่าสนใจตอนนี้ก็คือ การซื้อที่อยู่อาศัย เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยนั้นถือว่ายังไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากผู้ประกอบการเน้นการใช้ราคาจูงใจผู้ซื้อ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันต่าง ๆ ออกมาเร่งการตัดสินใจเพิ่มเติมอีก
ถือเป็น "โอกาสที่ดี" เน้นอีกที สำหรับผู้ที่มีความพร้อมทางการเงิน ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการซื้อคอนโดมิเนียม ซึ่งบอกได้เลยว่าหลายโครงการเหมาะแก่การซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือปล่อยเช่า
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ