8 วิธีไล่ตะขาบเข้าบ้าน รับมืออันตรายสัตว์มีพิษ และวิธีดูแลเมื่อตะขาบกัด

วิธีไล่ตะขาบไม่ให้เข้าบ้าน วิธีป้องกัน และวิธีดูแลตัวเองเมื่อถูกตะขาบกัด เป็นเรื่องที่ควรรู้ไว้ เพราะแต่ละปีมีผู้ที่ถูกตะขาบกัดเป็นจำนวนมากในแต่ปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน ที่มีน้ำท่วมบ่อย ตะขาบ จึงถือเป็นสัตว์มีพิษที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งชนิดหนึ่งในบ้าน

ก่อนจะไปถึงวิธีไล่ตะขาบไม่ให้เข้าบ้าน ลองมารู้จักสัตว์ชนิดนี้ก่อน ตะขาบ (Centipede) เป็นสัตว์ขาปล้อง มีลำตัวยาวเป็นปล้อง แบนขนานราบกับพื้น ส่วนใหญ่มีความยาวของลำตัวตั้งแต่ 3-8 เซนติเมตร (บางชนิดมีความยาวถึง 8-10 นิ้ว) มีขาออกจากปล้อง ปล้องละ 1 คู่ รวมเป็นจำนวนมากตั้งแต่ 30-180 ข้าง แต่ที่พบในประเทศไทย มักมี 21 ปล้อง ขา 40 ข้าง โดยขาคู่หน้าจะเปลี่ยนเป็นเขี้ยวพิษ

วางไข่ในที่ชื้นหรือต้นพืช หญ้า ใช้เวลาในการเจริญเติบโตนาน โดยลอกคราบ 10 ครั้ง ตัวเต็มวัยมีอายุ 3-5 ปี ในเวลากลางวันจะซ่อนอยู่ในที่ชื้นแฉะ เช่น ใต้ก้อนหิน ใต้เปลือกไม้ หรือขุดรูในดิน ออกหาเหยื่อในเวลากลางคืน กินแมลงเป็นอาหาร หรือซากสัตว์

วิธีไล่ตะขาบไม่ให้เข้าบ้าน สามารถทำได้หลายวิธีทั้งวิธีธรรมชาติ และการใช้สารเคมี ดังนี้

หากเป็นไปได้ให้คุณเลี้ยงไก่ ถือเป็นวิธีไล่ตะขาบที่ได้ผลอย่างมาก เพราะนอกจากไก่จะป้องกันไม่ให้ตะขาบเข้าบ้านแล้ว ยังช่วยกำจัดตะขาบได้ด้วย

ช่องทางหนึ่งที่ตะขาบมักหลบรอดเข้ามาในบ้านก็คือท่อระบายน้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ หรือห้องครัว วิธีไล่ตะขาบง่าย ๆ ก็คือนำสบู่ไปวางปิดไว้บนฝาท่อน้ำดังกล่าว โดยสบู่ที่มีความลื่น และมีความด่างในตัวจะช่วยไล่ตะขาบออกไปได้

น้ำส้มควันไม้ที่มีขายตามร้านอุปกรณ์การเกษตร หรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง เป็นอีกวิธีไล่ตะขาบที่ได้ผลดี โดยน้ำส้มควันไม้จะมีส่วนผสมของน้ำมันทาร์และยางเรซิน

เมื่อนำมาผสมกับน้ำแล้วฉีดพ่นในบริเวณที่คาดว่าตะขาบจะเข้ามาในบ้าน จะช่วยไล่ตะขาบหรือแมลงมีพิษต่าง ๆ ได้อย่างดี ทั้งนี้ ในการฉีดพ่นควรระวังอย่าให้เข้าตาหรือโดนร่างกายเนื่องจากมีความเป็นกรดสูง

โซดาไฟสารพัดประโยชน์ที่สามารถทำความสะอาดและป้องกันสัตว์ไม่พึงประสงค์เข้าบ้านได้อย่างดี และเป็นอีกหนึ่งวิธีไล่ตะขาบไม่ให้เข้าบ้าน เพียงแค่เทโซดาไฟใส่ในท่อน้ำ หรือจุดที่คาดว่าตะขาบจะเข้ามาในบ้าน เพียงเท่านี้ก็ไล่ตะขาบออกไปได้แล้ว

เทปูนขาวตามจุดที่คาดว่าตะขาบจะเข้ามาในบ้าน หรือจุดที่ตะขาบซ่อนตัวอยู่ ก็จะสามารถไล่ตะขาบได้แล้ว โดยหากผสมน้ำมะกรูดลงไปด้วยจะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการไล่ตะขาบมากขึ้น และต้องอย่าลืมโรยปูนขาวบ่อย ๆ เพื่อให้ไล่ตะขาบได้นานขึ้น

อีกหนึ่งวิธีไล่ตะขาบด้วยการใช้สารเคมีง่าย ๆ เพียงแค่โรยผงล้างห้องน้ำไปตามท่อน้ำ หรือจุดที่คาดว่าตะขาบจะเข้ามาในบ้าน เท่านี้ก็สามารถไล่ตะขาบได้แล้ว แต่ต้องระวัง และคอยเตือนคนในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก ๆ ให้ป้องกันอันตรายจากการสัมผัสผงล้างห้องน้ำด้วย

ปัจจุบันมีการพัฒนาตัวช่วย วิธีไล่ตะขาบที่สะดวกสบายมากขึ้น มีทั้งรูปแบบผง ก้อน และสเปรย์ มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากสกัดจากสมุนไพร โดยจะส่งกลิ่นพิเศษช่วยไล่ตะขาบออกไปจากบ้าน

หลีกเลี่ยงวิธีไล่ตะขาบ กำจัดตะขาบด้วยการเหยียบ หรือทุบ เนื่องจากตะขาบที่ถูกเหยียบจะปล่อยฟีโรโมน (Pheromone) ออกมา ซึ่งจะดึงดูดตะขาบตัวอื่นให้เข้ามายังบริเวณที่ตะขาบตัวนั้นตาย

เนื่องจากตะขาบเป็นสัตว์บก ที่พบมากในประเทศเขตร้อนชื้น และเขตอบอุ่น แต่ชอบอาศัยอยู่ในที่ชื้นแฉะ เมื่อฝนตกและน้ำท่วมขังสูงขึ้นท่วมแหล่งที่มันอยู่อาศัย ตะขาบอาจหนีน้ำมายังพื้นที่แห้งนั่นคือบ้านของเรา

วิธีการป้องกันตะขาบไม่ให้เข้าบ้านคือ การปิดช่อง ร่อง หรือมุมผนังที่เป็นรอยแตกต่าง ๆ ไม่ให้ตะขาบสามารถเข้ามาในบ้านได้ ดูแลรักษาบริเวณที่อยู่อาศัยไม่ให้รกรุงรังกำจัดเศษอาหาร และควบคุมปริมาณแมลงเพื่อกำจัดแหล่งอาหารของตะขาบ

หากลองใช้วิธีไล่ตะขาบแล้วก็ยังพลาดท่าเสียทีถูกตะขาบกัด มีวิธีรับมือดังนี้

1. ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับขนาดของตะขาบที่กัด ซึ่งโดยปกติพิษของตะขาบจะไม่รุนแรงถึงแก่ชีวิต

2. อาการส่วนใหญ่ ได้แก่ อาการปวด คัน บวมแดงร้อน บริเวณถูกกัด อาจมีไข้ต่ำ ๆ ร่วมด้วย และอาการมักจะดีขึ้นเองภายใน 24 ชั่วโมง

3. บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโตคลำได้หรือกดเจ็บ แต่อาการต่าง ๆ เหล่านี้ก็จะหายได้เองในที่สุด

1. กินยารักษาตามอาการ เช่น กินพาราเซตามอลแก้ปวด หรือกินยาแก้คัน

2. ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด

3. ใช้ยาหม่องหรือยาสามัญประจำบ้านถูทาบาง ๆ และเบา ๆ บริเวณที่ถูกกัดต่อย

4. ถ้าปวดมาก ให้ใช้น้ำอุ่นประคบแผลนาน 15-20 นาที แต่ต้องระวังอย่าใช้น้ำร้อนเกินไป

5. หากมีประวัติแพ้พิษตะขาบ มีอาการปวดมาก มีอาการหอบ แน่นหน้าอก เหนื่อย มีอาการไข้ขึ้น หรือต่อมน้ำเหลืองโต ให้รีบไปพบแพทย์

อย่างไรก็ตาม วิธีไล่ตะขาบที่ดีที่สุดก็มีวิธีการเช่นเดียวกับการไล่สัตว์ไม่พึงประสงค์ในบ้านอื่น ๆ คือการดูแลบ้านให้สะอาด ไม่ให้รกรุงรัง และกำจัดเศษอาหารไม่ให้บ้านกลายเป็นที่น่าอยู่สำหรับสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้นั่นเอง