สุนัขเฝ้าบ้าน 5 สายพันธุ์ เลือกและเลี้ยงอย่างไรให้ปลอดภัย

DDproperty Editorial Team
สุนัขเฝ้าบ้าน 5 สายพันธุ์ เลือกและเลี้ยงอย่างไรให้ปลอดภัย
สุนัขเฝ้าบ้าน นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว ยังได้เพื่อนคู่ใจมาอีกหนึ่งชีวิตในบ้านที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้คุณได้ในวันที่เงียบเหงา
แต่การจะเลือกสุนัขเฝ้าบ้านนั้นมีเรื่องที่ต้องคำนึงถึงมากมาย ตั้งแต่การเลือกพันธุ์ของสุนัขไปจนถึงการเลี้ยง ซึ่งแน่นอนว่าหากเลี้ยงไม่ดี สุนัขเฝ้าบ้านของคุณอาจนำปัญหาต่าง ๆ มาให้มากมายไม่รู้จบ ลองมาดูสุนัขเฝ้าบ้าน 5 สายพันธุ์ พร้อมวิธีการดูแลเบื้องต้นได้ที่นี่
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

สุนัขเฝ้าบ้าน 5 พันธุ์ที่แนะนำ

พันธุ์สุนัขจุดเด่นในการเฝ้าบ้าน
ร็อตไวเลอร์ ร่างกายแข็งแรง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ ฝึกง่าย
อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย มีพละกำลังสูง กล้าสู้ และปกป้องเจ้าของ
โดเบอร์แมน พินเชอร์ คล่องตัว ฉลาด ว่องไว รับคำสั่งได้ดี
เยอรมัน เชฟเฟิร์ด ฉลาด ฝึกง่าย มีสัญชาตญาณเฝ้าระวังสูง
ไทยหลังอาน ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ระวังคนแปลกหน้า

1. ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

หนึ่งสายพันธุ์สุนัขเฝ้าบ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุ ดุชนิดที่เรียกว่ากัดไม่ปล่อย และถ้าเกิดน้องไม่พอใจขึ้นมากัดแม้แต่กระทั่งเจ้าของหากเลี้ยงดูไม่ดี หรือไม่ได้รับการฝึกฝน ดังนั้น ก่อนจะเลี้ยงจะต้องถามตัวเองก่อนว่าเราสามารถเลี้ยงน้องได้ดีมากแค่ไหน หรือมีเวลาที่จะส่งน้องไปฝึกฝน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับทั้งตัวเองและผู้อื่น
ลักษณะโดยทั่วไป: น้ำหนักประมาณ 36-61 กิโลกรัม มีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 9-10 ปี
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง: ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ไม่ชอบเห่าหรือส่งเสียงดัง หากได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม โดยสามารถเข้ากับเด็ก หรือสัตว์อื่น ๆ ได้ดี แต่เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะกับผู้เลี้ยงที่มีประสบการณ์มากกว่า ซึ่งผู้เลี้ยงต้องมีเวลาให้ร็อตไวเลอร์มากเป็นพิเศษ เนื่องจากน้องไม่ชอบอยู่ตามลำพัง และต้องหากิจกรรมให้ทำเป็นประจำ
ทั้งนี้ การปล่อยให้น้องอยู่ตามลำพังเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดความวิตกกังวล ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การกัดแทะ, ขุด หรือเห่า
ปัญหาเพื่อนบ้าน

ปัญหาเพื่อนบ้าน

2. อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย (American Pitbull Terrier)

ด้วยความที่หน้าของน้องดูดุตลอดเวลา จึงเหมาะกับการเป็นสุนัขเฝ้าบ้านอีกสายพันธุ์หนึ่ง เรียกว่าเห็นหน้าก็ไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว โดยนิสัยของน้องจะเป็นสุนัขที่ดุอยู่แล้ว ดังนั้น เจ้าของจะต้องเลี้ยงดูและฝึกฝนอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก ๆ เพื่อให้น้องไม่ทำร้ายใครโดยไม่เลือกหน้า
ลักษณะโดยทั่วไป: น้ำหนักประมาณ 16-27 กิโลกรัม อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-14 ปี
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง: น้องจะต้องมีกิจกรรมที่ผ่อนคลายความเครียดบ่อย ๆ เพื่อป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าวที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การเดิน, วิ่ง หรือเดินเขา

3. โดเบอร์แมน พินเชอร์ (Doberman Pinscher)

สุนัขเฝ้าบ้านที่ขึ้นขื่อเรื่องความเร็วในการโจมตีผู้บุกรุก โดยลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้คือมีความตื่นตัว มีความกล้าหาญ และจงรักภักดีกับเจ้าของ ถือเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ฉลาดที่สุดติด 1 ใน 5 เหมาะอย่างยิ่งที่จะมอบหน้าที่สุนัขเฝ้าบ้านให้
ลักษณะโดยทั่วไป: น้ำหนักประมาณ 27-45 กิโลกรัม มีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-12 ปี
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง: เนื่องจากน้องมีสัญชาตณาณที่ยอดเยี่ยม จึงมักถูกใช้เป็นสุนัขตำรวจ หรือสุนัขลาดระเวน ทำให้น้องมักเห่าเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้าหา หรือเจ้าของมีอันตราย และจะสู้โดยไม่ลังเลหากมีใครเข้ามาทำร้ายเจ้าของ หรือคนในครอบครัว
แม้น้องจะเหมาะกับการเลี้ยงในครอบครัว แต่สุนัขพันธุ์นี้ก็มีโลกส่วนตัวสูง และนิสัยมักจะก้าวร้าวและเกรี้ยวกราด ในช่วงแรกจึงต้องได้รับการฝึกและควบคุม เพื่อสอนให้รู้วิธีโต้ตอบอย่างเหมาะสม และควรพาน้องเข้าสังคมตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เพื่อลดนิสัยก้าวร้าว และทำให้เข้ากับสุนัขหรือสัตว์ตัวอื่นได้ดี รวมทั้งยังต้องมีพื้นที่กว้างมากพอให้น้องได้วิ่งเล่นตลอดเวลา เพื่อลดนิสัยก้าวร้าวของพวกเขา
นวัตกรรมความปลอดภัยในบ้าน-คอนโด

นวัตกรรมความปลอดภัยในบ้าน-คอนโด

4. เยอรมัน เชฟเฟิร์ด (German Shepherd)

ถือเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่เห็นกันได้บ่อย ๆ เนื่องจากเป็นสุนัขที่ฉลาด ฝึกง่าย เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าของดี มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง กระตือรือร้น กระฉับกระเฉง สุนัขพันธุ์นี้จะไม่ได้ก้าวร้าว หากปฏิบัติตัวกับน้องดี ๆ ลักษณะทั่วไปคือ โครงสร้างใหญ่ น้ำหนักประมาณ 22-40 กิโลกรัม รับฟังเสียงได้ดี ดมกลิ่นได้แม่นยำ
ลักษณะโดยทั่วไป: น้ำหนักประมาณ 22-40 กิโลกรัม อายุเฉลี่ยประมาณ 9-13 ปี
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง: น้องเป็นสุนัขที่มีความกระตือรือร้นสูง ซื่อสัตย์และผูกพันกับเจ้าของอย่างมาก บางครั้งอาจพยายามที่จะปกป้องเจ้าของหรืออาณาเขตของตัวเองมากจนเกินไปโดยเฉพาะหากไม่ได้รับการฝึกฝนให้เข้สังคมอย่างเหมาะสม มักวางตัวโดยรักษาระยะห่างจากคนแปลกหน้า

5. ไทยหลังอาน (Thai Ridgeback)

สุนัขประจำชาติของไทยที่นิยมนำมาเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เนื่องจากมีกรามแข็งแรง ร่างกายกำยำ แข็งแรงทนต่อสภาพอากาศได้ดี มีสัญชาตญาณนักล่าจนมีอีกชื่อหนึ่งว่า “หมาพราน” ซึ่งใช้ล่าอาหารได้ จงรักภักดีกับเจ้าของ และตื่นตัวตลอดเวลา ลักษณะเด่นของสุนัขพันธุ์นี้คือ หลังอานอย่างเห็นได้ชัด ขนสั้นเรียบ เงางาม หางเรียวยาวคล้ายดาบ เรียกว่า “หางดาบ”
ลักษณะโดยทั่วไป: น้ำหนักประมาณ 16-25 ปี อายุเฉลี่ยประมาณ 10-12 ปี
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง: แม้น้องจะเป็นผู้ตามที่ดี และต้องการความเป็นผู้นำจากเจ้าของ แต่มักจะทนต่อการถูกตำหนิอย่างรุนแรงไม่ได้ อาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนให้เข้าสังคมได้ตั้งแต่ยังเล็ก และด้วยความที่น้องไม่ค่อยคุ้นชินกับการเข้าหาคนแปลกหน้า จึงจำเป็นที่จะต้องระวังและควบคุมเป็นพิเศษ หากมีคนแปลกหน้าเข้ามา โดยเฉพาะเด็ก หรือสัตว์อื่น
หากไม่ดูแลสุนัขให้ดีปล่อยให้ไปกัดเพื่อนบ้านจะต้องชดใช้

หากไม่ดูแลสุนัขให้ดีปล่อยให้ไปกัดเพื่อนบ้านจะเกิดอะไรขึ้น

แม้ว่าสุนัขเฝ้าบ้านจะช่วยให้บ้านปลอดภัยจากโจรขโมย แต่หากดูแลไม่ดี ปล่อยปละละเลยให้สุนัขออกไปกัดเพื่อนบ้าน หรือผู้อื่น เจ้าของสุนัขจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 377
“ผู้ใดควบคุมสัตว์ดุร้าย ปล่อยปละละเลยให้สัตว์นั้นอยู่ลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
รวมกฎหมายอสังหาริมทรัพย์

รวมกฎหมายอสังหาริมทรัพย์

นอกจากนี้ ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 23 ระบุว่า
“ห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร หากเจ้าของสัตว์หรือผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา 22 มาตรา 24 หรือฝ่าฝืนมาตรา 23 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท ตามมาตรา 32 และอาจต้องชดใช้ในความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของสุนัข
โดยเจ้าของสุนัขจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่คนที่ถูกสุนัขกัด เนื่องจากการเลี้ยงสุนัขแบบปล่อยปละละเลย ไม่ใช้ความระมัดระวังอันสมควรในการเลี้ยงดู ปล่อยให้สุนัขไปสร้างความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น ถือเป็นการกระทำประมาทของเจ้าของสุนัข”
ดังนั้น เจ้าของอาจต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล รวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์จากการทำงาน หรือขาดรายได้ ตามมาตรา 433 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรม
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

คำถามยอดนิยม

พันธุ์ยอดนิยมคือ ร็อตไวเลอร์, เยอรมันเชฟเฟิร์ด, โดเบอร์แมน, พิทบูล และไทยหลังอาน เพราะมีสัญชาตญาณเฝ้าระวังและปกป้องเจ้าของสูง

ปลอดภัย หากมีการฝึกวินัยสุนัขตั้งแต่เล็กและไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่กับสุนัขตามลำพัง

ควรเริ่มฝึกพื้นฐานตั้งแต่ลูกสุนัข เช่น นั่ง คอย หยุด และให้คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อม ใช้วิธีเสริมแรงเชิงบวก เพื่อให้เชื่อฟังและไม่ก้าวร้าวเกินไป

ได้ แต่ควรเลือกพันธุ์ขนาดกลางที่ไม่ต้องการออกกำลังกายหนัก เช่น ไทยหลังอาน หรือพันธุ์ที่สามารถปรับตัวกับพื้นที่จำกัดได้ และต้องพาออกไปเดินเล่นเป็นประจำ

แนะนำอาหารเม็ดสูตรโปรตีนสูง หรืออาหารสดที่มีสารอาหารครบถ้วน เน้นเนื้อสัตว์เป็นหลัก เพื่อให้มีกล้ามเนื้อแข็งแรงและพลังงานเพียงพอ