ห้องแม่บ้าน ควรมีขนาดเท่าไหร่ 5 วิธีเปลี่ยนห้องแม่บ้านที่ไม่ได้ใช้งาน

ถ้าซื้อบ้านหลังใหญ่ แน่นอนว่าฟังก์ชันประโยชน์ใช้สอยต่าง ๆ ก็มักจะมีให้มาอย่างครบครัน นอกจากห้องหลัก ๆ อย่างห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น โดยส่วนมากก็มักจะมีห้องแม่บ้าน หรือ Maid Room มาให้ด้วย

บ้านไหนมีแม่บ้านประจำ คอยดูแลบ้าน ทำความสะอาดบ้าน จัดระเบียบบ้าน ถือว่าสะดวกเพราะสามารถจะพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกัน มีห้องแม่บ้านแยกให้เป็นสัดส่วน หรือถ้าบ้านไหนไม่มีแม่บ้าน

แต่บ้านที่ซื้อได้ห้องแม่บ้านมาด้วย ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งว่างไว้เฉย ๆ สามารถจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่น ๆ เพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ทุกตารางเมตรอย่างคุ้มค่า

ห้องต่าง ๆ ภายในบ้านควรมีขนาดเท่าไหร่ ตามกฎหมายจะมีระบุไว้ ตัวอย่างเช่น

1. ห้องน้ำ และห้องส้วม ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 63 (พ.ศ. 2551) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 39 (พ.ศ. 2537) กำหนดให้อาคารอยู่อาศัยต้องมีห้องน้ำและห้องส้วมอย่างน้อย 1 ห้อง

โดยห้องน้ำและห้องส้วม หากอยู่ในห้องเดียวกัน ต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 1.50 ตารางเมตร แต่ถ้าห้องน้ำและห้องส้วมแยกกัน ต้องมีขนาดพื้นที่แต่ละห้องไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร

มีระยะดิ่งระหว่างพื้นห้องถึงเพดาน ยอดฝา หรือผนังตอนต่ำสุดต้องไม่ต่ำกว่า 2 เมตร และมีช่องระบายอากาศไม่น้อยกว่า 10% ของพื้นที่ห้อง หรือมีพัดลมระบายอากาศได้เพียงพอ

2. ห้องนอน ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 หมวด 2 ส่วนที่ 2 ข้อ 20 และข้อ 22 เกี่ยวกับห้องนอนในอาคาร

กำหนดให้ห้องนอนมีความกว้างด้านแคบที่สุดไม่น้อยกว่า 2.50 เมตร และมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร และมีระยะดิ่งภายในห้องนอนสูงไม่น้อยกว่า 2.60เมตร

3. ห้องแม่บ้าน ขนาดห้องแม่บ้านที่เหมาะสมควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร ตามมาตรฐานของกรมอนามัย โดยมีความกว้างด้านแคบที่สุดไม่น้อยกว่า 2.50 เมตร เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และพื้นที่ใช้สอยอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับแม่บ้าน

นอกจากนี้ ขนาดห้องแม่บ้านที่เหมาะสม ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา เช่น

– จำนวนแม่บ้านที่อาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน

– ฟังก์ชันการใช้งานในห้องแม่บ้าน เช่น มีห้องครัวหรือห้องน้ำในตัวหรือไม่

– ขนาดของบ้านหรือคอนโดมิเนียม

หากห้องแม่บ้านมีขนาดเล็กเกินไป อาจทำให้แม่บ้านรู้สึกอึดอัดและทำงานไม่สะดวก ดังนั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบกัน เพื่อให้ได้ขนาดห้องแม่บ้านที่เหมาะสมและตอบโจทย์การใช้งาน

– ห้องแม่บ้านสำหรับแม่บ้าน 1 คน ขนาดประมาณ 2.5 x 3 เมตร

– ห้องแม่บ้านสำหรับแม่บ้าน 2 คน ขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร

– ห้องแม่บ้านที่มีห้องครัวหรือห้องน้ำในตัว ขนาดประมาณ 3 x 5 เมตร

ไม่เฉพาะขนาดห้องเท่านั้น แต่การออกแบบห้องแม่บ้านก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้แม่บ้านสามารถทำงานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

– เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมีล้อหรือสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

– ติดตั้งหน้าต่างหรือช่องแสงให้เพียงพอ เพื่อให้ห้องสว่างและระบายอากาศได้ดี

– ติดตั้งปลั๊กไฟและช่องเสียบ USB ให้เพียงพอสำหรับการใช้งาน

– จัดให้มีที่เก็บของให้เพียงพอสำหรับเก็บเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ

การจัดเตรียมพื้นที่ทำงานที่เหมาะสมสำหรับแม่บ้าน จะช่วยให้แม่บ้านทำงานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บ้านสะอาดและน่าอยู่มากขึ้น

ห้องแม่บ้านถ้าไม่ได้ใช้ เอาไปทำอะไรดี ครอบครัวไหนที่ทำงานบ้านเอง ไม่จำเป็นต้องมีห้องแม่บ้าน สามารถจะปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่น ๆ เพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ดังนี้

เปลี่ยนห้องแม่บ้านให้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ เพราะการออกแบบแปลนห้องแม่บ้านจะอยู่ชั้นล่าง จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ เพราะไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันได ป้องกันความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ ลื่นหรือสะดุดล้ม

ห้องนอนแม่บ้านสามารถดัดแปลงมาเป็นห้องนอนรับรองแขก หรือญาติสนิทมิตรสหายที่มาเยี่ยมเยียน เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับห้อง สามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ เตียงนอน ของใช้จำเป็น เช่น ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพูสระผม ยาสีฟัน ไดร์เป่าผม เตรียมไว้ให้พร้อมสำหรับใช้งาน เพื่อให้แขกที่มาพักได้รับความสะดวกสบายและรู้สึกประทับใจ

สำหรับใครที่ Work From Home ทำงานที่บ้านหรืออยากหาห้องทำงาน มุมทำงานส่วนตัว บรรยากาศเงียบสงบ ไม่มีใครรบกวน เพื่อจะได้โฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่ ถ้ายังไม่มีไอเดียแต่งห้องทำงานแบบไหนดี เลือกสี เลือกมุม เลือกแสงอย่างไร ห้องทำงานแบบไหนถูกหลักฮวงจุ้ย ลองดู แต่งห้องทำงาน 5 แบบ ผ่อนคลายสบายใจสไตล์ Work & Relax

ครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็กอยู่ด้วย ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยและมีพื้นที่ให้เด็กได้เล่น ได้ทำกิจกรรม ก็สามารถจะเปลี่ยนห้องแม่บ้านที่ไม่ได้ใช้งานให้กลายเป็นห้องเล่นเด็ก พื้นที่ให้เด็กได้สนุกสนานเรียนรู้ รวมสารพัดของเล่นเสริมพัฒนาการไว้ได้แบบจัดเต็ม แต่การตกแต่งห้องต้องหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์หรือของเล่นที่มีเหลี่ยมมุม ป้องกันการบาดเจ็บจากการล้ม

ไม่อยากไปออกกำลังกายตามฟิตเนส ก็สร้างฟิตเนสหรือห้องออกกำลังกายขนาดย่อม ๆ เอาไว้ในบ้านได้ รวมอุปกรณ์ออกกำลังกายไว้ในที่ห้องเดียว เพื่อความสะดวกในการออกกำลังกาย ฟิตแอนด์เฟิร์มได้เมื่อไหร่ก็ได้

แต่เนื่องจากเครื่องออกกำลังกาย อุปกรณ์ออกกำลังกายบางประเภทมีน้ำหนักมาก ภายในห้องจึงต้องมีการปูพื้นยาง หรือถ้าต้องการเช็กสรีระท่าทางขณะออกกำลังกายก็จำเป็นต้องมีการติดกระจกบานใหญ่เอาไว้ด้วย

ห้องแม่บ้านยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องอื่น ๆ ได้อีกหลายห้อง เช่น ห้องโฮมเธียเตอร์ ห้องครัวไทย ห้องซักรีด ห้องเก็บของ ขึ้นอยู่กับความชอบและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของแต่ละครอบครัว