วิธีเลือกตู้เย็น ควรคำนึงถึงเรื่องประหยัดไฟ เป็นปัจจัยแรกในการเลือกซื้อ เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำบ้านที่ต้องเสียบปลั๊ก ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง หากเลือกตู้เย็นที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน ก็จะช่วยลดภาระค่าไฟฟ้ารายเดือนลงได้ ลองมาดูวิธีเลือกตู้เย็น ที่จะช่วยให้เราสามารถประหยัดไฟ และตอบโจทย์การใช้งานกัน
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- วิธีเลือกตู้เย็นประหยัดไฟ จ่ายค่าไฟน้อย ใช้สอยได้นาน
- เลือกตู้เย็นแบบไหนให้เหมาะกับจำนวนคนภายในบ้าน
- ขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
วิธีเลือกตู้เย็นประหยัดไฟ จ่ายค่าไฟน้อย ใช้สอยได้นาน
ปัจจุบันตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้พัฒนานวัตกรรมและฟังก์ชั่นแปลกใหม่มากมาย ซึ่งบางฟังก์ชั่นก็อาจจะไม่ได้จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันมากขนาดนั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกซื้อตู้เย็น ควรพิจารณาวิธีเลือกตู้เย็นว่า ตู้เย็นแบบไหนจะคุ้มค่ากับเรามากที่สุด
1. เลือกตู้เย็นประหยัดไฟ ตามขนาดของพื้นที่
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะต้องมีการระบายความร้อนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องเว้นที่ว่างสำหรับการระบายความร้อนให้ตู้เย็นด้วย ดังนั้นวิธีเลือกตู้เย็น คือ ควรดูจากขนาดพื้นที่ภายในบ้านว่ามีพื้นที่เพียงพอสำหรับตู้เย็นแค่ไหน
โดยควรเว้นที่ว่างสำหรับการระบายความร้อนเพื่อให้ตู้เย็นประหยัดไฟมากขึ้น พื้นที่ด้านบนควรเว้นอย่างน้อย 5 เซนติเมตร และควรเว้นพื้นที่ด้านข้างอย่างน้อย 5 มิลลิเมตร หากมีพื้นที่จำกัด ควรวัดขนาดพื้นที่ เพื่อเลือกซื้อตู้เย็นที่จะสามารถวางได้แบบเว้นช่องว่างอย่างเหมาะสม
เทคนิคขยายพื้นที่ให้บ้านกว้าง
บ้านแคบ 5 เทคนิคขยายพื้นที่ให้บ้านกว้าง เพิ่มฟังก์ชันให้อยู่สบาย
2. เลือกจากการฟังก์ชั่นพื้นฐานของตู้เย็น
แต่ละแบรนด์ จะมีการออกแบบฟังก์ชั่นที่คล้ายคลึงกัน เพียงแต่จะมีการดีไซน์และการจัดวางที่แตกต่างกัน วิธีเลือกตู้เย็นจึงควรพิจารณาฟังก์ชั่นพื้นฐานของตู้เย็นที่ควรมี คือ
– ชั้นวางที่สามารถถอดได้สะดวก ง่ายต่อการปรับขนาดช่องแช่และการทำความสะอาด
– ช่องผักและผลไม้ เพื่อควบคุมความเย็นและความชื้น ให้วัตถุดิบคงความสดได้นาน
– ชั้นวางขวดน้ำ ควรมีขนาดรองรับขวดน้ำทุกขนาดได้
– ลิ้นชักช่องแช่ ควรมีช่องแยกภายใน ที่สามารถปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับอาหารที่แช่
วิธีเลือกตู้เย็นประหยัดไฟ
6 วิธีเลือกตู้เย็นประหยัดไฟ แบบไหนที่เหมาะกับบ้านคุณ
3. เลือกวัสดุที่แข็งแรงคงทน
วัสดุที่ใช้ภายในตู้เย็นมีปลายประเภท วิธีเลือกตู้เย็นควรเลือกตู้เย็นที่ใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง ทำความสะอาดง่าย สามารถรับน้ำหนักได้ดี

4. ความเงียบของการทำงาน
เนื่องจากตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเปิดไว้ตลอดเวลา สำหรับตู้เย็นบางรุ่นที่ใช้วัสดุคุณภาพระดับเกรดรอง จะมีข้อเสียในเรื่องของเสียงดังขณะทำงาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความรำคาญในบางคน ดังนั้นหากใครที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องเสียง ควรสอบถามกับพนักงานขายว่าตู้เย็นรุ่นนี้ มีเสียงดังแค่ไหน เป็นวิธีเลือกตู้เย็นที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อป้องกันปัญหากวนใจในอนาคต
5. นวัตกรรมสำหรับตู้เย็นประหยัดไฟ
วิธีเลือกตู้เย็นในปัจจุบัน ควรคำนึงถึงนวัตกรรมในการถนอมอาหารและประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น
– ระบบทำความเย็นแบบคู่ (Dual-Cooling System) ที่จะช่วยกระจายลมเย็นจากช่องแช่ธรรมดากับช่องแช่แข็ง
– ระบบกรองอากาศ (Air Filtration) ช่องกรองอากาศแบบคาร์บอน ที่สามารถลดกลิ่นอับภายใน
– แผงควบคุมการทำงาน (Programmable Control Pad) แผงตั้งค่าอุณหภูมิเพื่อช่วยในการเก็บกักความเย็น ตรวจวัดตัวกรอง รวมถึงระดับน้ำในตู้เย็น
– ระบบประหยัดพลังงาน (Energy-saving Models) นวัตกรรมที่จะช่วยให้ตู้เย็นสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ งดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น ทำให้ตู้เย็นประหยัดไฟ
แบบบ้านประหยัดพลังงาน
7 แบบบ้านประหยัดพลังงาน ไอเดียบ้านเพื่ออนาคต ลดค่าใช้จ่าย
6. เลือกตามความเหมาะสมของการใช้งานและระดับราคา
เพื่อให้ตอบรับกับประเภทผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ตู้เย็นในปัจจุบันจึงมีหลายขนาด ซึ่งก็จะมีราคาแตกต่างกันไปด้วย วิธีเลือกตู้เย็นก็สามารถเลือกจากขนาดและราคาที่เหมาะสม
– ตู้เย็นขนาดเล็ก ราคาประมาณ 4,000-6,000 บาท เหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็ก จุของน้อย
– ตู้เย็นแบบ 1 ประตู ราคาประมาณ 5,000-7,000 บาท เหมาะกับที่พักอาศัยทั่วไปที่ไม่เน้นจุของเยอะ
– ตู้เย็นแบบ 2 ประตู แยกช่องแช่แข็งและช่องปกติ ราคาประมาณ 9,000-30,000 บาท เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
– ตู้เย็นแบบ 2 ประตูแยกซ้ายขวา เหมาะสำหรับการจุของปริมาณมาก ราคาประมาณ 40,000-100,000 บาท
– ตู้เย็นแบบหลายประตู มีการแยกช่องแช่หลายจุ ราคาประมาณ 50,000-160,000 บาท
เลือกตู้เย็นแบบไหนให้เหมาะกับจำนวนคนภายในบ้าน
ตู้เย็นมีหน่วยเรียกขนาดว่า ‘คิว’ ซึ่งมาจาก Cubic foot หรือลูกบาศก์ฟุต โดยวัดเป็นลิตรตามความจุของตู้เย็น ดังนั้นวิธีเลือกตู้เย็นให้เหมาะกับการใช้งาน จึงควรเลือกขนาดความจุตู้เย็นที่เพียงพอสำหรับปริมาณสมาชิกภายในบ้าน ซึ่งสามารถคำนวณได้จากขนาดความจุนี้ได้เช่นกัน
โดยมีสูตรคำนวณขนาดตู้เย็นคือ
ความกว้าง x ความสูง x ความลึก (หน่วยเป็นฟุต) = ขนาดคิวบิกฟุต
โดยสามารถเปลี่ยนจากคิวบิกฟุต เป็นลิตรได้ โดยใช้เครื่องมือคำนวณ หรืออัตราส่วน 1 ลิตร = 0.0353147 คิว โดยจะได้ค่าความจุประมาณ 114-116 ลิตร

ขนาดตู้เย็นที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกในครอบครัว
ถ้าหากว่าการคำนวณตัวเลขนั้นวุ่นวายเกินไป วิธีเลือกตู้เย็นสามารถเลือกจากปริมาณการใช้งานที่เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกภายในบ้าน โดยเฉลี่ยแล้วต่อหนึ่งคน จะใช้ปริมาณความจุประมาณ 100-150 ลิตร
จำนวนสมาชิกในบ้าน | ความจุตู้เย็น (คิว) |
1-2 คน | 200-380 ลิตร (7-13 คิว) |
3-4 คน | 350-530 ลิตร (12-18 คิว) |
5 คน | 440 ลิตรขึ้นไป (15 คิวเป็นต้นไป) |
1. สมาชิกในบ้าน 1-2 คน ใช้ความจุประมาณ 200-300 ลิตร ควรเลือกตู้เย็นขนาด 7-13 คิว (ปริมาณความจุ 200-380 ลิตร)
2. สมาชิกในบ้าน 3-4 คน ใช้ความจุประมาณ 350-530 ลิตร ควรเลือกตู้เย็นขนาด 12-18 คิว (ปริมาณความจุ 350-530 ลิตร)
3. สมาชิกในบ้านตั้งแต่ 5 คน ใช้ความจุประมาณ 440 ลิตรขึ้นไป ควรเลือกตู้เย็นขนาด 15 คิวเป็นต้นไป (ปริมาณความจุ 440 ลิตรขึ้นไป)
วิธีเลือกตู้เย็น นอกจากในเรื่องของขนาดความจุที่เหมาะสมกับปริมาณผู้ใช้งานแล้ว ยังต้องพิจารณาในเรื่องของความถี่ในการใช้ ขนาดของวัตถุดิบ พฤติกรรมการรับประทาน รวมไปถึงความถี่ในการทำอาหาร ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถจำกัดตัวเลือกของตู้เย็นให้แคบลง และเลือกได้เหมาะสมกับการใช้งานของคนในบ้านได้จริง ๆ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ