แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
เสน่ห์ของถนนที่เก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพฯ อย่าง “เจริญกรุง” ถูกเพิ่มความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดนับตั้งแต่การเข้ามาของ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” ที่พัฒนาโดยกลุ่มเบียร์ช้างของเสี่ยเจริญ แต่ดูเหมือนว่าดีเวลลอปเปอร์รายต่างๆ นั้นจะมุ่งเน้นไปพัฒนาโครงการที่มีพื้นที่ติดริมน้ำเสียส่วนใหญ่ส่งผลให้ราคาที่ดิน
ต่อตารางวาขยับสูงขึ้นชนิดก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าพูดถึงถนนฝั่งที่อยู่ตรงข้าม กลับไม่ค่อยมีซัพพลายใหม่ๆ เกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณถนนเจริญกรุงช่วงปลาย และโอกาสย่อมเป็นของผู้ที่รวดเร็วในการแลเห็นเสมอ เมื่อค่ายออริจิ้นฯ ได้ซุ่มซื้อที่ดินในซอยเจริญกรุง 93 ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามแลนด์มาร์คแห่งถนนเจริญกรุงอย่างเอเชียทีค ทำเลที่ว่า “แค่ข้ามถนนก็เข้าเอเชียทีคได้เลย” ด้วยระยะทางการเดินเพียง 140 เมตร ถึงแม้จะยังไม่เปิด presale อย่างเป็นทางการ แต่เริ่มเปิดให้ผู้สนใจลงทะเบียนออนไลน์ได้แล้ว ซึ่งในวันนี้ DDproperty มีข้อมูลเบื้องต้นมานำเสนอ
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2559)
ชื่อโครงการ: นอตติ้ง ฮิลล์ ดิ เอกซ์คลูซีพ เจริญกรุง (Notting Hill the Exclusive Chareonkrung)
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน): ORI
ที่ตั้งโครงการ: ถนนเจริญกรุง, ซอยเจริญกรุง 93
รายละเอียดโครงการ
เนื้อที่โครงการ: 1-1-79 ไร่
รูปแบบโครงการ: อาคารชุดพักอาศัยแบบโลว์ไรส์ ความสูง 8 ชั้น
จำนวนยูนิต: 132
ประเภทยูนิต: 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่ขนาด 27 ตร.ม., 2 ห้องนอนเริ่มต้นที่ 41 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2.7 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร: 97,000 บาท
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง+ทำสัญญาเริ่มต้นที่ 100,000 บาท
เปิดจองรอบ VVIP: 30 กรกฎาคม 2559 ณ โรงแรม Hotel Once เจริญกรุง
สถานะโครงการ: คาดว่าแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2561
เว็บไซต์โครงการ: nottinghill.origin.co.th
รายละเอียดโครงการ
ลักษณะการออกแบบ (อิงจากภาพ perspective โครงการ)
โครงการก่อนหน้าของออริจิ้นฯ จะมีการออกแบบที่เน้นไปทางสไตล์อังกฤษอย่างที่เห็นใน Knightsbridge หรือ Notting Hill แต่มาคราวนี้เน้นไปที่การเล่นลวดลายเส้นสายไปในแบบฉบับ ArtDeco ซึ่งก็ดูสอดคล้องกับบรรยากาศของเอเชียทีคที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
พื้นที่รอบโครงการ
หากตรงเข้าไปในซอยจะพบว่าบ้านเรือนส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ดินขนาดใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มครอบครัวที่มีฐานะ เข้ามาสร้างบ้านบนถนนเจริญกรุงตั้งแต่อดีต
พื้นที่ที่จะขึ้นของโครงการ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเคลียร์พื้นที่และปรับหน้าดินให้เรียบ ขนาดที่ดินประมาณ 1 ไร่กว่า
หากทิศทางการวางอาคารเป็นแบบภาพ perspective ที่เปิดเผยออกมา ห้องที่หันหน้าเข้าเอเชียทีคจะสามารถเห็นวิวโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์
ติดตามอ่านรีวิวโครงการนอตติ้ง ฮิลล์ ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ เจริญกรุง ฉบับเต็มได้ที่นี่ เร็วๆ นี้
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเล
หากใครเคยเรียนที่โรงเรียนวัดสุทธิเมื่อประมาณ 7-10 ปีที่แล้ว จะพบว่ามีการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มตั้งแต่การมีโรงเรียนนานาชาติที่ราคาค่าเทอมแพงติดอันดับของประเทศอย่าง โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (Shrewsbury International School) มาเปิด ณ พื้นที่ริมน้ำ หลังจากนั้นเป็นคิวของโครงการคอนโดฯ และโรงแรมริมน้ำอย่าง Chatrium Riverside Bangkok ที่พัฒนาโดย ริเวอร์ไซด์ การ์เด้น มารีน่า ที่สมัยนั้นราคาเริ่มต้นถือว่าค่อนข้างโหดทีเดียวที่ 4.5-5 ล้านบาท (60,000-65,000 บาทต่อ ตร.ม.) และสปีดการพัฒนาดูเหมือนว่าจะติดสปีดในช่วง 5 ปีหลัง และนับตั้งแต่มีการเข้ามาของโปรเจครีเทลขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนพื้นที่โกดังเก็บของเก่าให้กลายเป็น แหล่งช้อปปิ้งที่มีจุดเด่นอยู่ที่ชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์อย่าง “เอเชียทีค ริเวอร์ฟร้อนท์” ประกอบกับตัวเลขของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากเอเชียที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ บนพื้นที่ถนนเจริญกรุง ดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่เงินทุนหนาอย่าง คันทรี กรุ๊ป ก็ได้เข้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสริมน้ำภายใต้ชื่อ “เจ้าพระยา เอสเตท” ที่ประกอบไปด้วยโรงแรมและเรสซิเดนซ์หรู แบรนด์ Four Seasons และ Capella
แม้แต่บริษัทแม่น้ำ เรสซิเดนซ์ จำกัด ที่เก็บแลนด์แบงก์พื้นที่ริมน้ำใกล้กับโรงแรม รามาดา ริเวอร์ไซด์ เกือบ 30 ปีโดยก่อนหน้านี้เปิดให้ผู้ประกอบการค้าปลีกรายต่างๆ เข้ามาเช่าพื้นที่ แต่เนื่องด้วยศักยภาพทั้งในเรื่องของพื้นที่และจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามา เจ้าของที่ดินจึงได้เปลี่ยนมาพัฒนาโครงการคอนโดฯ หรูในชื่อ แม่น้ำ เรสซิเดนท์ขึ้น
อย่างไรก็ตามทั้งสองโครงการในข้างต้นต่างถูกจัดอยู่ในเซ็กเมนต์ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่มีราคาต่อตารางเมตรนั้นค่อนข้างสูงมากประมาณ 230,000 บาทขึ้นไป แต่หากมองดูฝั่งตรงข้ามของพื้นที่ติดริมน้ำปรากฏว่ายังไม่มีเจ้าไหนเข้าพัฒนาโครงการกันเลย
จนกระทั่งค่ายออริจิ้นฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่เน้นทำเลที่มีศักยภาพกลายเป็น Red Ocean ได้ในอนาคต สามารถคว้าที่ดินบนถนนเจริญกรุง เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ “นอตติ้ง ฮิลล์” (Notting Hill) โดยจะเป็นโครงการโลว์ไรส์ที่มีจุดขายคือตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม (ถนน) กับเอเชียทีค เดินออกจากซอยเจริญกรุง 93 มาประมาณ 100 กว่าเมตร ก็ถึงแล้ว
ส่วนบริเวณรอบๆ โครงการ ณ ตอนนี้ ยังไม่มีวี่แววการพัฒนาโครงการอื่นใดจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ เนื่องจากไม่มีที่ดินว่างเพียงพอสำหรับการพัฒนา นอกเสียจากการขอซื้อที่จากเจ้าของที่อยู่ในพื้นที่ในปัจจุบัน แต่โอกาสก็ค่อนข้างยาก เนื่องจากเจ้าของบ้านบริเวณนี้จะเป็นกลุ่มครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ สังเกตได้จากบ้านเรือนที่มีพื้นที่ดิน 200-300 ตารางวาพร้อมกำแพงสูงกั้น แต่สำหรับช่วงศุกร์-เสาร์ ปากซอยทางเข้าจะดูค่อนข้างคึกครื้นเป็นพิเศษเนื่องจากจะมีจำนวนของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศเข้ามาในพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมเอเชียทีคนั่นเอง
การเดินทาง
รถไฟฟ้า: สายรถไฟฟ้าที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุดคือรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว สถานีสะพานตากสิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร โดยสามารถต่อรถประจำทางสาย 1, 75, 15, 547 เพื่อมายังซอยเจริญกรุง 93 ซึ่งป้ายรถเมล์จะตั้งอยู่ปากซอย หรือหากอยากนั่งเรือสัมผัสบรรยากาศแบบชิลๆ ก็สามารถทำได้โดยขึ้นเรือที่ท่าสาทร (จุดเดียวกับสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน) โดยให้ขึ้นลำที่จะเดินทางมายังเอเชียทีค จากนั้นให้เดินทะลุเอเชียทีคมาที่ถนนเจริญกรุง เมื่อข้ามถนนมาก็จะเจอกับซอยโครงการ
เส้นทางที่สามารถเข้าออกได้จากตัวโครงการ
-เจริญกรุง-เยาวราช
-เจริญราษฏร์-สาทร
-เจริญราษฏร์-พระราม 3
-รัชดาภิเษก-ท่าพระ