แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
[Special Advertising Feature] เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้การเตรียมที่อยู่อาศัยในอนาคตที่ตอบรับทั้งการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก แต่ปัจจุบันที่อยู่อาศัยประเภทดังกล่าวกลับมีเพียงแค่โครงการเดียวเท่านั้น โดยบริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ จำกัด ซึ่งบริหารงานภายใต้บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการทางแพทย์มาอย่างยาวนาน กับ โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ที่นำเอาการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ หรือ Integrated Healthcare ผนวกกับที่พักอาศัยที่ออกแบบมาสำหรับคนทุกวัย หรือ Universal Design พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพตามไลฟ์สไตล์ครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ภายใต้แนวคิด “เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ” บนพื้นที่โครงการกว่า 140 ไร่ บนถนนพหลโยธิน รูปแบบอาคารโลว์ไรส์ 7 ชั้น จำนวน 5 อาคารโดยมีห้องพักอาศัยให้เลือกทั้ง 1 ห้องนอน ขนาด 43-46 ตารางเมตร และ 1 ห้องนอน (plus) ขนาด 63-66 ตารางเมตร ตกแต่งแบบ Fully Fitted รองรับการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุได้อย่างดี ในราคาเริ่มต้นเพียง 4 ล้านบาท
เจาะลึกข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ: จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้
ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท พรีเมียร์ โฮม เฮลท์ แคร์ จำกัด บริหารงานภายใต้บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG
ทำเลที่ตั้ง: ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
เว็บไซต์: www.jinwellbeing.com
โทร: 0-2147-5758-9, 06-2802-9999
รายละเอียดโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 26/4/2561)
พื้นที่โครงการ: 140 ไร่
ลักษณะโครงการ: ในส่วนของ Cluster 1 และ 2 อาคารโลว์ไรส์ สูง 7 ชั้น 5 อาคาร จำนวน 494 ยูนิต เฉลี่ยอาคารละประมาณ 98 ยูนิต รูปแบบการขายแบบถือครองกรรมสิทธิ์ โดยมีโฉนดของแต่ละห้อง (Freehold)
ความแตกต่างระหว่าง Freehold VS. Leasehold
กลุ่มเป้าหมาย: คนไทย 80% ต่างชาติ 20% แบ่งเป็น 1.ผู้ที่เกษียณแล้ว 2.ผู้ที่ใกล้เกษียณ 3.ผู้ที่ซื้อเพื่อการลงทุน
สถานะการก่อสร้าง: เริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จ Cluster 2 ปลายปี 2561 และ Cluster 1 ต้นปี 2562 (ห้องบางส่วนพร้อมโอนประมาณเดือนธันวาคม 2561)
ลิฟท์: อาคารละ 2 ตัว ของ MITSUBISHI เฉลี่ย 49 ยูนิตต่อลิฟท์ 1 ตัว โดยเป็นลิฟท์โดยสารขนาดใหญ่ที่สามารถขนเตียงพยาบาลฉุกเฉิน และเก้าอี้รถเข็นได้ ปลอดภัยมากขึ้นด้วยโถงลิฟท์ที่ออกแบบให้กันไฟได้ถึง 3 ชั่วโมง
ที่จอดรถ: 30% ของอาคารที่เปิดขาย 5 อาคาร 494 ยูนิต
สิ่งอำนวยความสะดวก: สระออกกำลังกาย ห้องออกกำลังกาย ห้องปฐมพยาบาล พื้นที่สำหรับเด็ก พื้นที่ปลูกผัก, ห้องทำสมาธิสวดมนต์ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง ลู่วิ่งออกกำลังกาย ทางสำหรับรถเข็น ทางจักรยาน ลานหินบำบัด ห้องคาราโอเกะ และทะเลสาบ
บริการทางการแพทย์: โรงพยาบาลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ (Retreat Hospital) และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (Aged Care) สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ภายในประกอบด้วยห้องพัก บริการ Nursing home คลินิกรักษาโรคทั่วไป รวมถึงบริการให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการ นักจิตวิทยา เพื่อวางแผนการดูแลแบบเฉพาะบุคคลหรือ Tailor-Made Medicine และ Wellness Center พร้อมกิจกรรมหลากหลายเพื่อดูแลสุขภาพตามไลฟ์สไตล์ สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพโดยเฉพาะ
ระบบรักษาความปลอดภัย: ดูแลความปลอดภัยทั้งด้านทรัพย์สินและสุขภาพ โดยมีหน่วยพยาบาลฉุกเฉินที่เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบสัญญาณเตือนภัยทั้งภายในห้องพักและภายในพื้นที่โครงการ มั่นใจกับการจัดการเข้าออกสถานที่ที่เข้มงวด ด้วยระบบ Key Card ทั้งการผ่านเข้า-ออกภายในอาคาร และการเข้าลิฟต์แต่ละชั้น พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันอัคคีภัยด้วยระบบ Smoke detector และโถงป้องกันอัคคีภัยในทุกชั้น
สถานะการขาย: ยอดจองประมาณ 30%
เงื่อนไขการชำระเงิน: จอง 50,000 บาท ทำสัญญา 100,000 บาท (โปรโมชัน-หากทำสัญญาเลยจะไม่ต้องเสียค่าจอง)
เงินกองทุนสะสม: 720 บาท/ตารางเมตร
ค่าส่วนกลาง: 60 บาท/ตารางเมตร/เดือน
ราคาเริ่มต้น: 4 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย:
– 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น พื้นที่ใช้สอย 43-46 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท บาท
– 1 ห้องนอน (plus) พร้อมห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น พื้นที่ใช้สอย 63-66 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
อัพเดทอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน กู้ซื้อบ้าน ที่อัพเดททุกเดือน และ คำนวณสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยด้วยตนเองได้ที่นี่
โปรโมชั่น 1 มิถุนายน – 30 มิถุนายน 2561
1.ฟรี ส่วนลด 50,000 (จอง 0 บาท)
2.ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก
3.ฟรีค่าสมาชิก Wellness Center 1 ปีแรก
4.ฟรี คลาสกิจกรรม 12 ครั้ง
5.ชั้นวางรองเท้า ยี่ห้อ Panasonic
ขนาด 850x400x1762 mm. จำนวน 1 ตู้
6. ฟรีเฟอร์นิเจอร์ครัว built-in
7. ฟรีเครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง
รูปแบบห้อง
– 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น พื้นที่ใช้สอย 43-46 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท
– 1 ห้องนอน (plus) พร้อมห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น พื้นที่ใช้สอย 63-66 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
รายละเอียดโครงการ
รีวิวภาพรวมโครงการ
ผู้ออกแบบสถาปัตยกรรม: บริษัท สถาปนิก โอเพนบอกซ์ จำกัด
ผู้ออกแบบภูมิสถาปัตย์: บริษัท ฉมา จำกัด
ผู้ออกแบบภายในอาคารที่พัก: บริษัท ซีรา อาคิเทคเจอร์ แอนด์ อินทีเรียดีไซน์ จำกัด
ผู้ออกแบบภายใน Wellness Center: บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด
โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ นำเอาการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ หรือ Integrated Healthcare ผนวกกับที่พักอาศัยที่ออกแบบมาสำหรับคนทุกวัย หรือ Universal Design พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพตามไลฟ์สไตล์ครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ภายใต้แนวคิด “เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ”
จุดเด่นของโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ คือ การออกแบบด้วยหลัก Universal Design มีการออกแบบและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยทุกประเภท ทั้งในช่วงวัยที่ร่างกายแข็งแรงดี ไปจนถึงช่วงวัยที่มีข้อจำกัดทางร่างกาย เช่น ผู้ที่นั่งรถเข็น หรือมีผู้ดูแล เป็นต้น โดยมีบริษัท ซีรา อาคิเทคเจอร์ แอนด์ อินทีเรียดีไซน์ จำกัด จากสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบตกแต่งภายใน มีประสบการณ์โครงการสำหรับผู้สูงอายุ โรงพยาบาล และโครงการขนาดใหญ่ในหลายประเทศ เป็นผู้ดูแลการออกแบบภายในห้องพักให้เป็นพื้นที่ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติกว่า 50% ของพื้นที่โครงการ
นอกจากนี้ยังได้ บริษัท สถาปนิก โอเพนบอกซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบอาคารขนาดใหญ่หลายแห่ง มาออกแบบให้กับโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ โดยคำนึงถึงความสะดวก ปลอดภัย เปิดพื้นที่รับแสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทได้มากที่สุด และยังสร้างบรรยากาศที่ชวนให้ใช้ชีวิตได้อย่างกระฉับกระเฉง มีพลัง และใกล้ชิดธรรมชาติ มีสังคมที่อบอุ่น เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
สำหรับด้านภูมิทัศน์ได้ บริษัท ฉมา จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบภูมิสถาปัตย์ของไทย มาสร้างสรรค์บรรยากาศในแนวคิด “Community in the Ravine Forest” สร้างระบบนิเวศเหมือนป่าที่สมบูรณ์เพื่อดึงดูดนก แมลง เข้ามาในพื้นที่ เชื่อมโยงคนกับธรรมชาติ พร้อมทั้งเปิดพื้นที่ให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรม เช่น ปลูกผักสวนครัวทั้งบนดินและบนโต๊ะเพื่อความสะดวกสำหรับผู้ที่นั่งรถเข็น การออกแบบเส้นทางจักรยาน เส้นทางวิ่งหรือเดินออกกำลังกาย ที่ปลอดภัย ไม่ลื่น มีจุดนั่งพักเป็นระยะและเชื่อมต่อส่วนกิจกรรมต่างๆ เข้าด้วยกัน เป็นต้น
จากความพิถีพิถันในการออกแบบทุกส่วนของโครงการจึงได้รับรางวัล Environment for Aging Design Showcase 2018 จากสหรัฐอเมริกาที่มอบให้โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ โครงการเดียวจากทวีปเอเชียที่ถูกคัดเลือกจาก 36 โครงการที่เข้าเกณฑ์จากทั่วโลก ในฐานะโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่มีความโดดเด่น และมีศักยภาพในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ ด้านความสวยงาม และด้านนวัตกรรมอย่างลงตัว
ในส่วนของ Wellness Center ออกแบบโดย บริษัท พี ไอ เอ อินทีเรีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการออกแบบภายในมากกว่า 25 ปี และได้รับรางวัลจากการประกวดต่างๆมากมาย ได้ออกแบบ Wellness Center ด้วยแนวคิด 3อ. อารมณ์ อาหาร อากาศ อันเป็นปัจจัยสำคัญในการมีสุขภาพดี มุ่งเน้นให้กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นเต็มเปี่ยมด้วยพลังชีวิต อีกทั้งใช้โทนสีธรรมชาติและวงปีของต้นไม้ เป็นสาระสำคัญในการตกแต่ง ให้มีทั้งช่องว่างที่สื่อถึง อากาศบริสุทธิ์ และการเล่นระดับกับความโค้งมนเป็นชั้นๆ คล้ายวงปีของต้นไม้ เพื่อสื่อถึง ระยะเวลาที่ผ่านไปคือความมีคุณค่าที่เพิ่มมากขึ้น
การวางทิศทางโครงการ
ทิศเหนือ: คอนโดมิเนียม 8 ชั้น และที่ดินเปล่า
ทิศใต้: อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น คอนโดมิเนียม 5 ชั้น และที่พักอาศัย 1-2 ชั้น
ทิศตะวันออก: ถ.พหลโยธิน
ทิศตะวันตก: แนวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม
รอบโครงการส่วนใหญ่ไม่มีตึกสูงในระยะประชิด ทางเข้า-ออกโครงการทางทิศตะวันออกตั้งอยู่ติดกับ ถ.พหลโยธิน ซึ่งอาคารพักอาศัยจะอยู่ห่างจากหน้าโครงการพอสมควรจึงไม่ได้รับความวุ่นวายจากการสัญจรภายนอก ทางทิศเหนือโซนหน้าโครงการจะใกล้กับโครงการคอนโดมิเนียม สูง 8 ชั้น แต่คั่นกลางด้วยถนนโครงการ และแนวต้นไม้ จึงไม่ติดกันในระยะประชิด โซนท้ายโครงการเป็นที่ดินเปล่า ทางทิศใต้โซนด้านหน้าโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ถัดมาเป็นคอนโดมิเนียม สูงประมาณ 5 ชั้น แต่วางตัวอาคารในแนวขนานกับ ถ.พหลโยธิน ทำให้ไม่บังวิว รวมทั้งคั่นกลางด้วยถนนโครงการ และแนวต้นไม้ จึงไม่ติดกันในระยะประชิด ส่วนโซนด้านหลังส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย 1-2 ชั้น และทางทิศตะวันตกหรือท้ายโครงการใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม
Master Plan
ทางเข้า-ออกโครงการอยู่ติด ถ.พหลโยธิน โซนด้านหน้าโครงการ (ในอนาคต) จะก่อสร้างเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ และโรงพยาบาล และโครงการในปัจจุบันเป็นเฟส 1 ส่วนที่ 1 ประกอบด้วย
1. Active Living อาคารพักอาศัย แบ่งเป็น อาคาร 1-AM, 2-AM, 1-C1, 2-C1, 2-D1 (โดยอาคาร 1-C1 และ 2-C1 บริเวณชั้น Ground Floor จะเป็น Community Center
2. โรงพยาบาลฟื้นฟูสุขภาพ
3. Wellness Center
Floor Plan
ยกตัวอย่าง Floor Plan ของอาคาร 2-AM ดังนี้
Unit Layout
ห้องมีให้เลือกหลายแบบ ยกตัวอย่างดังนี้
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการตอบรับทุกรูปแบบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ โดยแบ่งเป็น
Indoor Facilities อาทิ ห้องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย ห้องเกมกิจกรรม ห้องคาราโอเกะ ห้องทำสมาธิสวดมนต์ ห้องอเนกประสงค์ ห้องสันทนาการ และห้องปฐมพยาบาล
Outdoor Facilities อาทิ สระออกกำลังกาย พื้นที่ปลูกผัก ลู่วิ่ง ทางจักรยาน ทางสำหรับรถเข็น ที่นั่งพักริมธาร ลานกิจกรรมกลางแจ้ง ลานหินบำบัด ทะเลสาบ
นอกจากนี้ ยังมีอาคาร Wellness Center สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพโดยเฉพาะ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ โซนรับรอง ห้องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย สระว่ายน้ำ สระธาราบำบัด ห้องซาวน่า จากุซซี่ ห้องอบไอน้ำ ห้องเกมกิจกรรม ห้องคาราโอเกะ บริการนวดบำบัด มุมอ่านหนังสือ ห้องทำสมาธิสวดมนต์ ห้องจัดเลี้ยง ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ
ครบครันด้วยบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (Aged Care) สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ภายในประกอบด้วยห้องพัก บริการ Nursing home คลินิกรักษาโรคทั่วไป รวมถึงบริการให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการ นักจิตวิทยา เพื่อวางแผนการดูแลแบบเฉพาะบุคคลหรือ Tailor-Made Medicine
พิเศษด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงวัย ได้แก่ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ ระบบ Tracking System สามารถใช้งานด้าน Location Tracking แสดงตำแหน่งการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ไปยังศูนย์ควบคุม พร้อมแจ้งเตือนข้อมูลสุขภาพจำเพาะแก่ผู้สวมใส่ และ Fall Detection แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ เมื่อผู้สวมใส่เกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และจิณณ์ แอปพลิเคชัน (Jin Application) ที่จะเข้ามาช่วยให้การดำเนินชีวิตประจำวันของผู้สูงวัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น แนะนำเมนูสุขภาพ ทำนัดแพทย์ จองคลาสกิจกรรม และเรียกบริการรถโครงการ
สะดวกสบายในการใช้ชีวิตด้วยบริการ Concierge ช่วยเหลือให้ผู้อยู่อาศัยได้ทุกอย่างตั้งแต่เรื่องประสานเจ้าหน้าที่ให้บริการทำความสะอาด ซัก-อบ-รีด จองรถรับส่งภายในโครงการ จองคลาสกิจกรรม จัดงานสังสรรค์ และผู้ช่วยส่วนตัว
ในอนาคตบริเวณด้านหน้าโครงการ (บริเวณ Sales Gallery ในปัจจุบัน) จะมีคอมมูนิตี้มอลล์ และโรงพยาบาลภายในโครงการด้วย
รีวิวภายในห้องตัวอย่าง
ห้องมาพร้อมการตกแต่งแบบ Fully Fitted ตู้ครัวบิลท์อินบน-ล่าง และบิลท์อินในห้องน้ำ พร้อมสุขภัณฑ์ครบครัน และเครื่องปรับอากาศ ด้านวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพและคัดสรรมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ อาทิ
– ปุ่มกดฉุกเฉินในห้องน้ำส่งสัญญาณเตือนไปที่ห้องคอนโทรล เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
– พื้นห้องน้ำใช้กระเบื้องกันลื่นเพื่อป้องกันการลื่นหกล้มในห้องน้ำ
– ประตูทางเข้าต่างๆ กว้างพอสำหรับรถเข็น
– พื้นที่ใช้สอยในห้องพัก และห้องน้ำ กว้างพอสำหรับวงหมุนของรถเข็น
– ภายในห้องพักไม่มีขั้นเพื่อป้องกันการสะดุด
– ห้องน้ำและทางเดินมีราวจับ เพื่อป้องกันการหกล้ม
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ
พื้น: พื้นห้องพัก กระเบื้องยางรองรับการกระแทก กระเบื้องห้องน้ำ COTTO หรือเทียบเท่า
ผนัง: อิฐมวลเบา และพรีแคสต์
เครื่องปรับอากาศ: MITSUBISHI 2 เครื่อง
สุขภัณฑ์: สุขภัณฑ์ COTTO หรือเทียบเท่า
ชุดครัว: ตู้ครัวบิลท์อินบน-ล่าง พร้อมอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน
ห้องตัวอย่างแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น พื้นที่ใช้สอย 66 ตารางเมตร
ห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องนอนสำหรับผู้ดูแล โดยวางเตียงขนาด 3 ฟุต ได้สบายๆ เปิดรับวิวและแสงธรรมชาติด้วยหน้าต่างบานกระทุ้ง
ติดกันเป็นห้องน้ำสำหรับผู้ดูแลหรือผู้มาเยี่ยม พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งโถสุขภัณฑ์ และอ่างล้างหน้าของ COTTO หรือเทียบเท่า ปูกระเบื้อง COTTO หรือเทียบเท่า
พื้นที่อาบน้ำกั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ขอบประตูยกสูงประมาณ 4 เซนติเมตร มาพร้อมฝักบัวของ COTTO หรือเทียบเท่า
ถัดมาเป็นห้องครัว มาพร้อมกับตู้ครัวบิลท์อินบน-ล่าง ที่แถมมากับห้อง พื้นที่ด้านข้างเหลือที่ว่างประมาณ 70 เซนติเมตร สำหรับวางตู้เย็น
เคาน์เตอร์ครัวมาพร้อมอ่างล้างจาน และติดตั้งปลั๊กไฟให้เรียบร้อย เปิดรับแสงธรรมชาติด้วยหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง
ระเบียงกว้างประมาณ 90 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.50 เมตร รั้วสูงประมาณ 1.05 เมตร ด้านบนติดตั้งคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศ สูงประมาณ 1.80 เมตร ด้านข้างมีระแนงกั้นเพื่อความสวยงาม ติดตั้งท่อระบายน้ำ และปลั๊กไฟพร้อมที่กันน้ำให้เรียบร้อย
ห้องนอนอีกด้านหนึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่แต่งตัว สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าบิลท์อินได้และห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ
ตู้เสื้อผ้าบิลท์อินมาพร้อมนวัตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ ราวแขวนด้านล่างออกแบบให้อยู่ในระดับที่หยิบได้ง่าย เหมาะสำหรับการแขวนเสื้อผ้าที่ใส่เป็นประจำ ส่วนราวแขวนด้านบนเป็นระบบมอเตอร์ที่สามารถปรับระดับความสูงของราวแขวนได้ตามความสูงของผู้ใช้ โดยไม่ต้องเอื้อม (option สำหรับลูกค้าเลือก)
อีกด้านเป็นตู้เสื้อผ้าบิลท์อินอีกหนึ่งตู้ เก็บของได้หลากหลาย ตัวลิ้นชักและราวแขวนอยู่ในระยะสบาย ไม่ต้องเอื้อม และไม่ต้องก้มเช่นกัน
ทางเข้าห้องน้ำขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 1 เมตร เก้าอี้รถเข็นสามารถเข้า-ออกได้อย่างสะดวก ปูกระเบื้อง COTTO หรือเทียบเท่า โดยพื้นห้องน้ำใช้กระเบื้องกันลื่นเพื่อป้องกันการลื่นหกล้มในห้องน้ำ
อ่างล้างหน้า พร้อมเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ของ COTTO หรือเทียบเท่า ด้านข้างมีราวแขวนผ้าขนหนู 2 ระดับ ตามความสูงของผู้ใช้งาน
ทําเล & การเดินทาง
ศักยภาพทำเล
ทำเลรังสิตถือเป็นทำเลศักยภาพทั้งปัจจุบันและอนาคต จากการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่ และสถานศึกษาชั้นนำ รวมถึงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐทางด้านการคมนาคม อย่างรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการกว่า 306,608 คน/วัน ทำให้ทำเลนี้มีอัตราการเติบโตทั้งด้านราคาที่ดินและจำนวนที่อยู่อาศัย โดยรูปแบบการอยู่อาศัยเริ่มปรับเปลี่ยนไปสู่คอนโดมิเนียมติดแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น
ปัจจุบันราคาที่ดินตามแนว ถ.พหลโยธิน ช่วงที่เลยจากแยกต่างระดับรังสิตมาแล้วยังไม่สูงมากนัก ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยยังอยู่ในระดับที่ลูกค้าทั่วไปเอื้อมถึง โดยราคาประเมินที่ดิน รอบปี 2559-2562 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แนว ถ.พหลโยธิน ราคาอยู่ที่ 40,000-80,000 บาท/ตารางวา
ทั้งนี้ จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้ทำการศึกษาดัชนีแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินเปล่า ก่อนการพัฒนาในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เปรียบเทียบระหว่างไตรมาส 4 ปี 2560 กับช่วงเดียวกันของปี 2555 พบว่า ทำเลที่มีการปรับเพิ่มมากที่สุดอยู่บริเวณแนวรถไฟฟ้า 5 สาย โดยรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อยู่อันดับที่ 5 มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น 144.3% หรือเฉลี่ย 24.1% ต่อปี แสดงให้เห็นว่าทำเลนี้มีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกหนึ่งทำเลที่เหมาะทั้งการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย และลงทุน
ทำเลที่ตั้งโครงการ
โครงการตั้งอยู่ติด ถ.พหลโยธิน ช่วง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วย ถ.พหลโยธิน ถนนสายหลักสำคัญที่เชื่อมต่อถนนได้หลายสาย อาทิ ถ.รังสิต-นครนายก ถ.คลองหลวง ถ.วิภาวดีรังสิต ห่างจากทางด่วนอย่างทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) เพียง 3 นาที สามารถเดินทางไปสนามบินดอนเมืองได้ภายใน 15 นาที โดยไม่ต้องเสียค่าทางด่วน ไม่ไกลจากทางพิเศษอุดรรัถยา ซึ่งเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองได้สะดวกอีกเส้นทางหนึ่ง
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านรังสิตมากมาย อาทิ ห่างเพียง 2 นาที จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ห่างเพียง 3 นาที จากสนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท ห่างเพียง 5 นาที จากฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสเปลล์ และห่างเพียง 6 นาที จากตลาดไท
เดินทางเข้าสู่โครงการ และเข้าเมือง ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องกลับรถไกล เพราะโครงการใกล้ทางออกจากทางหลักของ ถ.พหลโยธิน และที่กลับรถ สำหรับมุ่งหน้าเข้าเมือง หรือขึ้นทางด่วน
เนื่องจากเนื้อที่โครงการกว้างถึง 140 ไร่ เนื้อที่จึงยาวไปใกล้กับแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่สามารถเชื่อมต่อกับสนามบินดอนเมือง และสถานีกลางบางซื่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีแผนจะเพิ่มส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต)
ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทางประมาณ 26.3 กิโลเมตร จำนวน 10 สถานี สามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้หลายสาย ดังนี้
– เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ที่สถานีหลักสี่
– เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (รถไฟฟ้า MRT และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน รถไฟความเร็วสูง และรถไฟทางคู่ ที่สถานีกลางบางซื่อ
ในอนาคตมีแผนต่อขยายเส้นทางไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่สถานีพญาไท ซึ่งจะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิสะดวกยิ่งขึ้น
การเดินทาง
การเดินทางมาโครงการทำได้สะดวกมากด้วยทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) โดยขอแนะนำการเดินทางดังนี้
เดินทางด้วยทางยกระดับอุตราภิมุข ฝั่งมุ่งหน้าบางปะอิน จนถึงจุดสิ้นสุดทางยกระดับ ซึ่งเชื่อมต่อกับ ถ.พหลโยธิน
อีกหนึ่งทางซึ่งใกล้โครงการมากขึ้นคือบริเวณบุญถาวร รังสิต สังเกตป้าย “สะพานกลับรถ-มหาวิทยาลัยกรุงเทพ”
สถานที่แนวไลฟ์สไตล์
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในอนาคต อาทิ เซ็นทรัล เอ็ม ที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลเตรียมพัฒนาห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่บนที่ดินไทยเมล่อนเดิม 616 ไร่ ติด ถ.พหลโยธิน ด้านหลังติดรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต) โดยมีพื้นที่ถึง 482,000 ตารางเมตร และเมกา รังสิต ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่บนที่ดินกว่า 250 ไร่ บน ถ.รังสิต-นครนายก ใกล้จุดตัดกับ ถ.กาญจนาภิเษก
ร้านอาหาร
Swan Lake Cuisine ร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีทั้งอาหารไทย จีน และซีฟู้ด เหมาะทั้งรับประทานอาหารกับครอบครัวและจัดงานเลี้ยงในโอกาสสำคัญ เมนูแนะนำ ได้แก่ ปลากะพงทอดน้ำปลา ยำกุ้งฟู ต้มยำกุ้งน้ำข้น กระเพาะปลาน้ำแดง ยำซีฟู้ด แกงส้มปลาทอดแป๊ะซะ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น. ตั้งอยู่บน ถ.เชียงรากน้อย-ธรรมศาสตร์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ห่างจากโครงการประมาณ 5.9 กิโลเมตร
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ
โรงเรียนนานาชาติสยาม ริม ถ.รังสิต-นครนายก ห่างจากโครงการประมาณ 11.2 กิโลเมตร
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ริม ถ.พหลโยธิน ห่างจากโครงการประมาณ 1.7 กิโลเมตร
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ริม ถ.พหลโยธิน ห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ริม ถ.พหลโยธิน ห่างจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร
โรงพยาบาลเปาโล รังสิต ใกล้แยกต่างระดับรังสิต ห่างจากโครงการประมาณ 6 กิโลเมตร
โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี ริม ถ.พหลโยธิน ห่างจากโครงการประมาณ 7 กิโลเมตร
โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ระหว่าง ซ.พหลโยธิน 74 และ 76 ห่างจากโครงการประมาณ 8.4 กิโลเมตร
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และสเปลล์ ใกล้แยกต่างระดับรังสิต ห่างจากโครงการประมาณ 5.8 กิโลเมตร
เซียร์ รังสิต ระหว่าง ซ.พหลโยธิน 72 และ 74 ห่างจากโครงการประมาณ 10 กิโลเมตร
ตลาดไท ใกล้ ถ.เทพกุญชร 2 ห่างจากโครงการประมาณ 7.9 กิโลเมตร
สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท ริม ถ.พหลโยธิน ห่างจากโครงการประมาณ 3.4 กิโลเมตร
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทนที่จะได้รับ
โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่มองหาช่องทางการลงทุนที่มีศักยภาพ เนื่องจากตลาดผู้สูงอายุมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จึงตอบรับกับความต้องการของผู้สูงอายุที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิต ประกอบกับโครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพใกล้สนามบินดอนเมือง รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ สถานที่ราชการ สนามกอล์ฟ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้โครงการนี้มีศักยภาพที่จะสร้างมูลค่าให้กับผู้ซื้อเพื่อลงทุนได้
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
ปัจจุบันโครงการรูปแบบเดียวกับโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ ที่มีการบริการครบวงจรทั้งด้านบริการทางการแพทย์ และการออกแบบที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุอย่างดี มีทั้งโรงพยาบาล และคอมมูนิตี้มอลล์ ภายในโครงการ ยังไม่มีในตลาด จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับโครงการอื่นได้
สรุป
โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เหมาะกับใคร?
โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ “เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ” ที่นำเอาการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ หรือ Integrated Healthcare ผนวกกับที่พักอาศัยที่ออกแบบมาสำหรับคนทุกวัย หรือ Universal Design ที่คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยทุกประเภท บนพื้นที่โครงการกว่า 140 ไร่ ถือเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแห่งเดียวในปัจจุบันที่ตอบรับทั้งการดูแลสุขภาพ ไลฟ์สไตล์ และการใช้ชีวิตที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุแบบครบวงจรในรูปแบบอาคารโลว์ไรส์ 7 ชั้น จำนวน 5 อาคาร ที่มาพร้อมการบริการทางแพทย์แบบครบวงจรจากทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไลฟ์สไตล์ครบวงจรมากมาย ท่ามกลางธรรมชาติที่มีถึง 50% ของเนื้อที่โครงการ อาทิ สระออกกำลังกาย ห้องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย ห้องปฐมพยาบาล พื้นที่ปลูกผัก ห้องทำสมาธิสวดมนต์ ลานกิจกรรมกลางแจ้ง ลู่วิ่งออกกำลังกาย ทางสำหรับรถเข็น ทางจักรยาน ลานหินบำบัด ห้องคาราโอเกะ และทะเลสาบ
ครบวงจรด้วยบริการทางการแพทย์ อาทิ โรงพยาบาลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ (Aged Care) สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ภายในประกอบด้วยห้องพัก บริการ Nursing home คลินิกรักษาโรคทั่วไป รวมถึงบริการให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการ นักจิตวิทยา และ Wellness Center สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพโดยเฉพาะ
พิเศษด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงวัย ได้แก่ สายรัดข้อมืออัจฉริยะ ระบบ Tracking System แสดงตำแหน่งการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ แจ้งเตือนข้อมูลสุขภาพ และแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ เมื่อผู้สวมใส่เกิดเหตุพลัดตก หกล้ม หรือเหตุอื่นๆ เพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และจิณณ์ แอปพลิเคชัน (Jin Application) ที่จะเข้ามาช่วยให้การดำเนินชีวิตประจำวันของผู้สูงวัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น และเพื่อวางแผนการดูแลแบบเฉพาะบุคคลหรือ Tailor-Made Medicine
อุ่นใจมากขึ้นด้วยระบบรักษาความปลอดภัยทั้งด้านทรัพย์สินและสุขภาพ โดยมีหน่วยพยาบาลฉุกเฉินที่เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบสัญญาณเตือนภัยทั้งภายในห้องพัก (ในห้องน้ำ) และภายในพื้นที่โครงการ มั่นใจกับการจัดการเข้าออกสถานที่ที่เข้มงวด ด้วยระบบ Key Card ทั้งการผ่านเข้า-ออกภายในอาคาร และการเข้าลิฟต์แต่ละชั้น พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันอัคคีภัยด้วยระบบ Smoke detector และโถงป้องกันอัคคีภัยในทุกชั้น
นอกจากนี้ยังมีบริการอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายมากขึ้น อาทิ บริการ Concierge ช่วยเหลือให้ผู้อยู่อาศัยได้ทุกอย่างตั้งแต่เรื่องประสานเจ้าหน้าที่ให้บริการทำความสะอาด ซัก-อบ-รีด จองรถรับส่ง จองคลาสกิจกรรม จัดงานเลี้ยง และผู้ช่วยส่วนตัว และในอนาคตบริเวณด้านหน้าโครงการ จะมีคอมมูนิตี้มอลล์ และโรงพยาบาลภายในโครงการด้วย
ห้องมีให้เลือกทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน (plus) พื้นที่ใช้สอย 43-66 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 4 ล้านบาท มาพร้อมการตกแต่งแบบ Fully Fitted ตู้ครัวบิลท์อินบน-ล่าง และบิลท์อินในห้องน้ำ พร้อมสุขภัณฑ์ครบครัน และเครื่องปรับอากาศ โดยวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องเลือกใช้แต่วัสดุที่มีคุณภาพและคัดสรรมาเพื่อผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
โครงการตั้งอยู่ติด ถ.พหลโยธิน เดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วย เชื่อมต่อถนนได้หลายสาย ห่างจากทางด่วนอย่างทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) เพียง 3 นาที สามารถเดินทางไปสนามบินดอนเมืองได้ภายใน 15 นาที โดยไม่ต้องเสียค่าทางด่วน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านรังสิตมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาลชั้นนำ สถานศึกษาชื่อดัง ตลาดค้าส่ง และสนามกอล์ฟ รองรับการเดินทางในอนาคตด้วยรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รังสิต) ที่สามารถเชื่อมต่อกับสนามบินดอนเมือง และสถานีกลางบางซื่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
โครงการนี้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุในวัยเกษียณ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่สงบ แต่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีกิจกรรมต่างๆ รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และมีการดูแลสุขภาพที่ครบวงจร กลุ่มใกล้เกษียณที่วางแผนหาที่อยู่อาศัยก่อนที่จะถึงช่วงเกษียณ เพราะหากซื้อในช่วงที่เกษียณแล้วราคาจะต้องขึ้นไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน และกลุ่มผู้ซื้อเพื่อการลงทุน โดยเป็นกลุ่มวัยทำงานที่มองหาที่อยู่อาศัยสำหรับตัวเองในอนาคต แต่ก่อนหน้านั้นก็ลงทุนปล่อยเช่าให้กับผู้สูงอายุวัยเกษียณที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่ครบวงจร แต่ไม่ต้องการซื้อเป็นของตนเอง ซึ่งจากแนวโน้มตลาดผู้สูงอายุที่นับวันจะโตขึ้นเรื่อย ๆ และโครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ จึงสามารถสร้างมูลค่าให้กับนักลงทุนได้อย่างแน่นอน
ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ รายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook