รีวิวโครงการ: เดอะ คิวเว่ ติวานนท์ (The Cuvee Tiwanon)

โครงการเดอะ คิวเว่ ติวานนท์ (The Cuvee Tiwanon) เป็นคอนโดมิเนียมสุดหรูสไตล์โรงแรม จำนวน 421 ยูนิต 33 ชั้น โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ การันตี 3 รางวัลคุณภาพที่โดดเด่น แบ่งการบริการเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนด้านหน้าเป็นแบบ Service Residence 199 ยูนิต และทางด้านหลังเป็นแบบ Private Residence 222 ยูนิต และยังมีร้านค้าอยู่ชั้น 1 จำนวน 1 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีการใช้คีย์การ์ดคนละชุด และใช้ระบบลิฟต์ล็อกชั้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มทุกฟังก์ชัน พรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันใกล้สถานที่ราชการ แหล่งจับจ่ายและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก

Master Plan

จาก Master Plan โครงการมีการดีไซต์และออกแบบให้มีรูปทรงโค้งมนที่ไม่เหมือนโครงการอื่นๆ ส่วนโถงทางเดินมีการออกแบบเป็น Single Load Corridor แยกส่วนระหว่าง Service Residence และ Private Residence จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก ๆ โดยทางทิศใต้จะเป็นที่พักของ Private Residence และทิศเหมือนจะเป็นส่วนของ Service Residence

Unit Type

โครงการมีรูปแบบห้องทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ 1 Bedroom 2 Bedroom และ 3 Bedroom   ขนาดเริ่มต้น 31-105 ตารางเมตร โดยห้องตัวอย่างมี 2 ห้อง เป็นห้อง 1 Bedroom 1 ห้องครัว (แบบครัวปิด) 1 ห้องน้ำ   ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31 ตารางเมตร และ 36 ตารางเมตร

สิ่งที่จะได้รับจากโครงการ

• พื้น: พื้นห้องแบบกระเบื้องยางไวนิลลายไม้, พื้นห้องครัวและห้องน้ำเป็นกระเบื้อง
• ผนัง: วอลเปเปอร์
• สุขภัณฑ์: โถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระ, ที่ใส่กระดาษชำระ, อ่างล้างหน้าพร้อมกระจก, Rain Shower, เครื่องทำน้ำอุ่น, ฝักบัว
• ชุดครัว: เคาน์เตอร์ครัวและอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้าระบบเตาอินดักชั่น 2 หัวและเครื่องดูดควัน
• วัสดุภายในบ้าน : Digital Door lock, VDO Door phone

สิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1 ด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่ส่วน Exclusive Lobby  เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน หรือรับรองแขกในกรณีที่ไม่สะดวกให้ไปพบที่ห้อง

ถัดจาก Lobby จะเป็นส่วนของร้านค้าแนวไลฟ์สไตล์ โดยจะไม่เหมือนร้านสะดวกซื้อทั่วไป แต่จะมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหาร ​​ร้านจำหน่ายไวน์ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ แบบครบวงจร (ซึ่ง ณ ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการตกแต่งพื้นที่)

ห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่อยู่บนพื้นที่ชั้น 5  มีอุปกรณ์ออกกำลังครบครัน ทั้งลู่วิ่งออกกำลังกาย, เวทเทรนนิ่ง, จักรยานออกกำลังกาย สนามมวย หรือเล่นโยคะ ก็ทำได้อย่างสะดวก

สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาดใหญ่ อยู่บนพื้นที่ชั้น 5 เช่นกัน  โดยมีความยาวประมาณ 33 เมตร แบ่งเป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็กและผู้ใหญ่

Kids Room ห้องสำหรับเป็นพื้นที่ส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก

ห้องซาวน่า, ห้องอบไอน้ำ พื้นที่กว้างขวาง สะอาด อุปกรณ์ครบครัน

ส่วนที่เป็นไฮไลต์ของโครงการ  คือ พื้นที่สวนสีเขียวต่อเนื่อง 6 ชั้น เพื่อชมวิวเมือง นั่งเล่น หรือพักผ่อนในวันสบายๆ  ซึ่งสามารถเดินขึ้นบันไดตั้งแต่ชั้น 29 ถึงชั้น 33 และต่อเนื่องไปยังชั้น 34

อีกหนึ่งไฮไลต์ของโครงการคือ การออกแบบ Sky Lounge พื้นที่สังสรรค์พร้อมชมวิวย่านติวานนท์แบบ 360 องศา บนชั้น 34 โดยผู้พักอาศัยสามารถมานั่งเล่น พักผ่อน หรือจัดปาร์ตี้ส่วนตัวได้ และส่วนของเคาน์เตอร์บาร์จะมีบาร์เทนเดอร์ของทางฝั่ง Service Residence มาคอยให้บริการ โดย Private Residence ก็สามารถมาใช้บริการได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังพื้นที่สำหรับ Co-Working Space และ Meeting Room ให้ด้วย

รีวิวห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 1 ห้องครัว 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31 ตารางเมตร

ประตูบ้านติดตั้งระบบ Digital Door Lock ความปลอดภัยที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายไม่ต้องพกกุญแจ สามารถกดรหัส สแกนนิ้ว หรือติดตั้งแอปพลิเคชันบนมือถือ แล้วแต่ความสะดวก

ด้านในจะเป็นระบบ Home Automation สามารถเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ่านแอปพลิเคชัน และจะมีการติดตั้ง VDO Door phone โดยฟังก์ชันหลักคือสามารถติดต่อไปที่ล็อบบี้เวลาที่มีคนมาหา หรือมีของมาส่ง โดยการโทรคุยผ่านเครื่องนี้ได้เลย นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชันอีกอื่นๆ เช่น ฝากข้อความเปิดเพลง และโทรศัพท์เรียกลิฟต์จากที่ห้องได้เลย

ภายในห้องแบ่งโซนเป็นสัดส่วน เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น หรือพื้นที่รับแขก ห้องค่อนข้างกว้าง  โดยพื้นห้องจะปูพื้นแบบกระเบื้องยางไวนิลลายไม้

มุมโซฟาขนาดกว้างขวาง สำหรับนั่งเล่น พักผ่อน หรือรับแขก  หรือสามารถจัดเป็นพื้นที่สำหรับทำงานเพิ่มได้อีก

มุมชั้นวางโทรทัศน์จะอยู่หน้าห้องน้ำ สามารถทำเป็นแบบแขวนผนังหรือเป็นแบบตั้ง และด้านล่างยังสามารถทำเป็นตู้เก็บรองเท้าเพื่อความเป็นระเบียนได้อีกด้วย

มุมมองจากห้องนั่งเล่น จะเห็นว่าทางโครงการมีการออกแบบห้องเป็นสัดส่วน ด้านขวาที่อยู่ตรงข้ามพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นห้องน้ำ ถัดมาเป็นห้องนอนขนาดใหญ่ และทางซ้ายมือจะเป็นห้องครัวแบบปิด อยู่ติดกับระเบียง

ห้องน้ำ ดรอปจากพื้นห้องประมาณ 3 เซนติเมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องขนาด 60×60 เซนติเมตร มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้งอ่างล้างหน้าพร้อมกระจก โถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระ ที่ใส่กระดาษชำระ และฝักบัว  ใต้อ่างล้างหน้าออกแบบเป็นตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ 

โซนอาบน้ำมีการกั้นกระจกเพื่อให้เป็นสัดส่วน มีเครื่องทำน้ำอุ่นมาพร้อมฝักบัวและ Rain Shower พร้อมติดตั้งราวตากผ้ามาให้ด้วย

ด้านหลังกระจก ออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ โดยห้องพักตั้งแต่ชั้น 20 ขึ้นไปและห้องแบบ 2 ห้องนอน จะได้รับกระจกแบบ Smart Mirror

ห้องนอนค่อนข้างกว้าง สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้ ด้านซ้ายห่างจากผนังกระจกประมาณ 73 เซนติเมตร มีหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง 2 บาน ขนาดประมาณ 63×150 เมตร สามารถเปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้ 

ข้างเตียงด้านขวาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า โดยห่างจากเตียงประมาณ 95 เซนติเมตร

สำหรับผนังตรงปลายเตียงมีปลั๊กสำหรับติดตั้งโทรทัศน์ไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งปลายเตียงห่างจากผนังห้องประมาณ 80 เซนติเมตร

ห้องครัวแบบปิด ออกแบบเป็นเคาน์เตอร์สำหรับทำอาหาร และอ่างล้างจาน ด้านบนออกแบบเป็นชั้นวางของและตู้เก็บอุปกรณ์ ด้านล่างออกแบบให้มีตู้และลิ้นชักเก็บอุปกรณ์ พร้อมช่องตรงกลางสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า และยังมีพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นด้านข้าง  ทางด้านซ้ายมือทางโครงการได้จัดว่างเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง และจะสังเกตว่าห้องครัวจะมีกระจกกั้นแบบบานเลื่อน ส่วนพื้นห้องปูด้วยกระเบื้องขนาด 60×60 เซนติเมตร

สำหรับเคาน์เตอร์ห้องครัวมาพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครัน บนเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีอ่างล้างจาน และเตาไฟฟ้าระบบเตาอินดักชั่น 2 หัว มาพร้อมเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน

ถัดจากห้องครัวจะเป็นส่วนของระเบียน มีการเชื่อมต่อด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน

ระเบียงห้อง มีขนาดประมาณ 1×1.80 เมตร พื้นปูกระเบื้องขนาด 30×60 เซนติเมตร พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับซักล้าง

รีวิวห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 1 ห้องครัว 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 36 ตารางเมตร มีเพียงชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น

ประตูบ้านติดตั้งระบบ Digital Door Lock  เช่นกัน

ด้านในจะเป็นระบบ Home Automation เช่นเดียวกับห้องขนาด 31 ตารางเมตร

พอเข้ามาภายในห้องทางโครงการได้จัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร แต่สามารถปรับเปลี่ยนตามสไตล์ของผู้พักอาศัยได้

สำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร จะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัว เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น  

ทางด้านขวามือจะเป็นห้องห้องครัวแบบปิด และห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้าม

มีการออกแบบเคาน์เตอร์ห้องครัวลักษณะคล้ายๆ กับห้องขนาด 31 ตารางเมตร

ส่วนของห้องครัวที่แตกต่างจากห้อง 31 ตารางเมตร คือ ห้องนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งทางด้านขวามือขนาดประมาณ 84×153 เซนติเมตร สามารถเปิดระบายอากาศ หรือรับแสงและลมธรรมชาติได้ อีกทั้งยังได้เห็นวิวสวยๆ จากด้านนอกด้วย

ห้องน้ำมาพร้อมอุปกรณ์ที่ครบครัน เช่นเดียวกับห้องขนาด 31 ตารางเมตร

สิ่งที่แตกต่างจากห้องขนาด 31 ตารางเมตร คือ ห้องนี้จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งในห้องน้ำให้ด้วย

พื้นที่นั่งเล่นค่อนข้างกว้าง จะเชื่อมต่อกับห้องนอน โดยกั้นด้วยประตูกระจกแบบบานเลื่อน 3 ตอน สามารถเลื่อนเปิดปิดได้ทั้ง 2 ทาง  ห้องดูโปร่ง โล่ง และหากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดผ้าม่านกั้นเพิ่มได้

มุมมองจากระเบียงมองเข้ามาภายในห้อง จะเห็นได้ชัดเจนว่าห้องกว้างและน่าอยู่มากๆ

ระเบียงจะอยู่ติดกับส่วนของพื้นที่นั่งเล่น มีขนาดประมาณ 1×2.30 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องขนาด 30×60 เซนติเมตร พร้อมติดตั้งก๊อกน้ำสำหรับซักล้าง

ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น จัดเป็นมุมโซฟาขนาดใหญ่

สำหรับห้องนอนมีพื้นที่กว้างมาก  สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุตได้สบาย ๆ  ด้านซ้ายห่างจากผนังกระจกประมาณ 1.30 เมตร มีหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง 1 บาน ขนาดประมาณ 63×150 เมตร สามารถเปิดรับแสงและลมธรรมชาติได้  

ข้างเตียงด้านขวาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้า โดยห่างจากเตียงประมาณ 1.30 เมตร และเตียงห่างจากผนังประมาณ 1.90 เมตร

ปลายเตียงเป็นจุดเชื่อมต่อกับส่วนพื้นที่นั่งเล่น สามารถเปิดประตูกระจกแลดูโทรทัศน์ได้เลย