แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์สเตชั่น บาย ไซมิส แอสเสท (Landmark At Grand Station By Siamese Asset) เป็นโครงการมิกซ์ยูส บนทำเลศักยภาพ ตรงข้ามแฟชั่นไอส์แลนด์ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงแหวนรามอินทรา เพียง 400 เมตร ภายในห้องออกแบบเป็น 2 ชั้น เพดานสูง 4.15 เมตร เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมออกแบบห้องตามพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ คนที่มีสัตว์เลี้ยงหรือห้องพักในรูปแบบ Co-living และห้องพักแบบมาตรฐาน ภายในโครงการครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งพื้นที่พักอาศัย โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงาน ราคาเริ่มต้นเพียง 2.90 ล้านบาท
หากพูดถึงดีเวลลอปเปอร์ที่ครองตลาดแถบสมุทรปราการ ยาวมาถึงสุขุมวิตอนปลาย คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่เน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับตลาดกลาง ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนในพื้นที่ วัยทำงาน และกำลังสร้างครอบครัว รวมถึงชาวต่างชาติ อาทิ ชาวญี่ปุ่น ที่เริ่มมาพำนักในโซนนี้มากขึ้น โดยโครงการที่เราจะมารีวิวกันในครั้งนี้ เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่ “ไนท์บริดจ์ แบริ่ง” ซึ่งตอนเปิดตัวเมื่อสองปีก่อนได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากเป็นโครงการไฮไรส์ที่มีจุดขายคือวิวเมือง ปัจจุบัน โครงการเหลือห้องชุด 10% สุดท้าย ซึ่งเป็นห้องยูนิตใหญ่อย่าง Type 2B 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และดูเพล็กซ์ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ Fully Furnished เปิดขายให้กับผู้ที่กำลังมองหาการใช้ชีวิตในแนวสูง บนทำเลใกล้เมือง
รายละเอียดโครงการ
เจาะลึกข้อมูลโครงการ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 กันยายน 2558)
• ชื่อโครงการ: ไนท์บริดจ์ แบริ่ง (Knightsbridge ฺBearing)
• ผู้พัฒนาโครงการ: บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
• ทำเลที่ตั้ง: ซอยแบริ่ง 6 สุขุมวิท 107 ถนน สุขุมวิท แขวง บางนา เขต บางนา กทม.
รายละเอียดโครงการ
พื้นที่โครงการ: 1 ไร่ 1 งาน 56 ตารางวา
รูปแบบ: คอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น 276 ยูนิต
เจาะกลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนในพื้นที่ และชาวญี่ปุ่น
สถานะก่อสร้าง: สร้างเสร็จพร้อมอยู่ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2556 แล้วเสร็จช่วงต้นปี 2558
ระบบความปลอดภัย: Smart Lock, Key Card Access Control เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิด Eagle Eye Security ตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนที่พักอาศัย: เริ่มที่ชั้น 6 – 23
ส่วนกลาง: Lobby, Meeting Room, Fitness, Garden, Steam และ Swimming Pool
ลิฟท์: ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว
ที่จอดรถ: ชั้น 1 – 5 และบริเวณโดยรอบอาคาร คิดเป็น 45 % (ไม่รวมซ้อนคัน)
สถานะการขาย: ขายไปประมาณ 90 %
เงินกองทุนสะสม (Sinking fund): 350 บาท / ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง: 45 บาท/ ตร.ม./ เดือน
ราคาเริ่มต้น (ยูนิต 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ): 3.94 ล้านบาท / ยูนิต (ในขนาด 40.71 ตร.ม.)
ราคาเฉลี่ย (ยูนิต 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ): 112,000 บาท / ตร.ม.
โปรโมชั่นพิเศษ : คอนโดแต่งครบ พร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส แบริ่ง เฉพาะในงานมหกรรมบ้าน 8 – 11 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์สิริกิต์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://knbcondo.origin.co.th
รูปแบบห้องทั้งหมด:
Type S 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 25 ตร.ม.
Type B 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 28 – 33 ตร.ม.
Type B – Plus 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (+) 34 ตร.ม.
Type Balcony Suite 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 43 – 46 ตร.ม.
(Extra Balcony and Garden Area)
Type 2B 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 40 – 59 ตร.ม.
ดูเพล็กซ์ (S) 46.5 ตร.ม.
ดูเพล็กซ์ 57 – 61.91 ตร.ม.
รูปแบบห้องที่เหลือ: Fully Furnished
Type 2B 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 40 – 59 ตร.ม. (คิดเป็น 8% ของยูนิตทั้งหมด)
ดูเพล็กซ์ 57 – 61.91 ตร.ม. (คิดเป็น 2% ของยูนิตทั้งหมด)
รีวิวภาพรวมโครงการ
ไนท์บริดจ์ ถือได้ว่าเป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise แห่งแรกในซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) ก่อนที่จะมีการปรับผังเมือง โดยปรับพื้นที่ดินเดิมจากบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมตัวตึกกว่า 25 ชั้น ในสไตล์ Modern Vintage ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากที่อยู่อาศัยย่าน Knightsbridge ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาตกแต่งห้องและพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมชูจุดขาย City View แม้ว่าจะตั้งอยู่ในโซนสุขุมวิทตอนปลาย
มุมมองบรรยากาศ City View ฝั่งทิศเหนือ ด้านนี้ยังถือว่าโปร่งโล่ง แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ จะเกิดคอนโดฯ แบบ Low Rise แต่ถือว่าไม่ใช่ปัญหาในการบล็อควิวสำหรับผู้เลือกอยู่อาศัยชั้น 6 – 8 เนื่องจากมีถนนขนาด 4 เลนกั้นอยู่
บรรยากาศโดยรอบโครงการ จะถูกออกแบบให้รองรับเรื่องการจอดรถ โดยสำหรับ visitor จะสามารถจอดได้บริเวณด้านหน้
ฝั่งด้านทิศตะวันออก สามารถมองเห็นคอนโดฯ ดิ แกลเลอรี่ ซึ่งอาจจะถูกบล็อกวิวได้นิดหน่อย แม้ว่าจะสูงถึง 27 ชั้น แต่มีถนนซอยแบริ่ง 6 ขนาดสองเลน กั้นอยู่
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
ต่อยอดแนวคิด Modern Vintage สู่การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ให้รองรับรับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกำลังสร้างครอบครัว โดยในแต่ละส่วนจะสอดแทรกกลิ่นอายเส่ห์ความเป็นลอนดอนลงไป ไม่ว่าจะเป็น Luxury Lobby Hall บริเวณโถงด้านหน้าทางเข้า รวมถึง Business Center และ Library Lounge ไว้เป็นสถานที่ทำงานแบบ The Third Place นอกจากนี้ทางโครงการยังพยายามสอดแทรกพื้นที่สีเขียว ด้วยการเพิ่มสวนทั้งบนชั้น 22 และดาดฟ้า เพื่อเชื่อมต่อธรรมชาติสู่ห้องพักอาศัย อีกทั้งยังดีไซน์ชั้น 23 ให้กลายเป็นสระว่ายน้ำยาวกว่า 25 เมตร พร้อมพื้นที่ออกกำลังกาย และมุม Kids Zone สำหรับเด็กๆ
สำหรับร้านอาหาร ในโซนล็อบบี้นั้น เป็นพื้นที่โครงการให้คนภายนอกมาเช่า ไว้รองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัย
สระว่ายน้ำของที่นี่ ค่อนข้างยาวถึง 25 เมตร เป็นระบบน้ำเกลือ โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00 – 22.00 น.
สำหรับพื้นที่สีเขียว จะอยู่ที่ชั้น 25 หากเดินขึ้นบันไดหนีไฟมา จะพบว่าทางโครงการพยายามตกแต่งทางเดินให้สอดคล้องกับแนวคิด Modern Vintage
รีวิวภายในห้องชุด
พื้น: ลามิเนตหนา 8 มม. และกระเบื้องแกรนิตโต้ (เฉพาะบริเวณฝั่งห้องครัวและห้องน้ำ)
พื้นจรดเพดาน: 2.5 เมตร
ระเบียง: เริ่มต้นความยาวประมาณ 1.5 เมตร โดยขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง
ประตู: แบบก้านโยก ระบบล็อก 2 ชั้น
ระบบไฟ: Downlight
ชุดครัว: Built-in เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และซิ้งค์ล้างจาน จาก Teka
สุขภัณฑ์ห้องน้ำ: Cotto
เฟอร์นิเจอร์: Fully Furnished
เครื่องปรับอากาศ: Daikin
เคาน์เตอร์ทำอาหาร ถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานอย่างแท้จริง โดยได้ซ่อนส่วนของเขียง และลิ้นชักเก็บช้อน-ส้อม อุปกรณ์ต่างๆ ไว้ให้ด้วย
นอกจากโซนของห้องครัว จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ชั้นกั้นห้องแล้ว ยังมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ช่วยในการถ่ายเทอากาศด้วย
ส่วนของระเบียงห้อง จะเริ่มต้นความกว้างประมาณ 1 เมตร ไว้ให้สามารถวางคอมเพรสเซอร์แอร์ และเครื่องซักผ้าได้ โดยทางโครงการได้ติดตั้งระบบท่อน้ำ ก็อกน้ำ รวมถึงปลั๊กไฟไว้ให้
การแขวนคอมแพสเซอร์แอร์ อาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องถ่ายเทความร้อน เนื่องจากหันหน้าเข้ากัน แต่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยเปิดหน้าต่างบริเวณห้องครัว ช่วยระบายอากาศ
กลับเข้ามาภายในห้อง โซนของห้องนั่งเล่น สิ่งที่ได้ตามรูปเลย ทั้งโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง รวมถึงทีวีขนาด 25 นิ้วด้วย แต่ไม่รวมของตกแต่ง
ห้องนอนเล็ก จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ตรงข้ามกับห้องน้ำ สามารถวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุตได้ และทางโครงการได้ออกแบบให้ล้อมรอบด้วยกระจก หน้าต่าง (บานกระทุ้ง)
พื้นที่บริเวณปลายเตียง จะวางตู้เสื้อผ้าขนาด 2 บาน และมุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ด้านข้างเตียง มีพื้นที่เล็กๆ ให้สามารถ Built-in ตู้ ชั้นวางหนังสือติดผนังได้ โดยแอร์จะเป็นแบบติดผนังดังรูป
ส่วนของตู้เสื้อผ้า ทางโครงการออกแบบ ให้มีพื้นที่ Walk-in closet พร้อมกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ชั้น
บริเวณปลายเตียง โครงการได้ Built-in ชั้นวางทีวีไว้ให้ พร้อมติดตั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง ช่วยถ่ายเทอากาศ
ห้องนอนเล็ก จะอยู่ด้านใน เตียงที่ได้ จะเป็นเตียงเดี่ยวขนาด 3.5 ฟุต โดยมีหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน ช่วยถ่ายเทาอากาศ
ทําเล & การเดินทาง
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลแบริ่ง
พื้นที่โซนกรุงเทพฯ ตอนปลาย อย่างบางนา-แบริ่ง ไปจนถึงสมุทรปราการ ถือว่าเป็นย่านที่ได้รับการจับตามองจากทั้งบรรดานักลงทุน ผู้ประกอบการ และกลุ่มผู้กำลังมองหาแหล่งที่พักอาศัยที่เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก โดยหลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวอ่อนจากอ่อนนุชไปถึงแบริ่งเริ่มก่อสร้างจนเปิดให้บริการ บรรดาผู้ประกอบการต่างตบเท้ากันเข้ามาพัฒนาที่ดินเปล่าให้กลายเป็นโครงการตึกสูงทั้งแบบสูงมาก สูงน้อย กันเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งมาจากราคาที่ดินในบริเวณนี้ที่ยังไม่แพงเท่าในทำเลใจกลางเมือง ผนวกกับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับกลุ่มวัยทำงานในการหาที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้ และไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก อีกทั้งยังง่ายสะดวกต่อการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส และระบบขนส่งต่างๆ
นอกจากนี้ ในอนาคตอันใกล้ เมื่อโปรเจคสำคัญๆ อย่างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าจากแบริ่งไปถึงสมุทรปราการแล้วเสร็จ รวมถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มีแนวเส้นทางด้านฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และสิ้นสุดที่เขตสำโรง สมุทรปราการ รวมระยะทางกว่า 30 กิโลเมตรเป็นรูปเป็นร่าง จะทำให้การเดินทางของผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการเกิดขึ้นของโครงการรีเทลทั้งศูนย์รวมของแต่งบ้าน ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ในย่านนี้จะทำให้การใช้ชีวิตในย่านนี้ครบครัน โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเข้าไปยังกรุงเทพฯ ชั้นใน
วิเคราะห์ศักยภาพทำเลโครงการ
โครงการไนท์บริดจ์ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 107 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แบริ่ง” ถือว่าเป็นทำเลที่ในอดีตดูเหมือนค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมือง เนื่องจากคมนาคมขนส่งยังไม่สะดวกสบายเหมือนในปัจจุบัน อีกทั้งสองข้างทางต่างเต็มไปด้วยทุ่งหญ้า ที่ดินเปล่ารกร้างจำนวนมาก และมีสภาพความเป็นอยู่ในลักษณะชุมชน แต่แล้วเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การพัฒนาผังเมืองจากกรุงเทพฯ ชั้นใน ได้แผ่ขยายมาถึงชานเมือง ค่อนไปทางจังหวัดสมุทรปราการ จึงทำให้สภาพซอยแบริ่งเริ่มมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับการเกิดเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวอ่อนวิ่งผ่านบริเวณปากซอย ในขณะที่กรมทางหลวงได้ดำเนินการขยายเส้นทางในซอยแบริ่ง ให้สามารถทะลุได้ทั้งทางฝั่งลาซาล (สุขุมวิท 105) และถนนศรีนครินทร์ ทำให้ซอยนี้กลายเป็นทำเลทองของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ รวมถึงโครงการไนท์บริดจ์ ที่ได้พลิกโฉมที่ดินในย่านนี้ให้กลายเป็นคอนโดมิเนียมแบบ High Rise เจ้าแรกของย่านนี้ เนื่องจากผังเมืองในช่วงที่โครงการสร้างยังไม่ได้เปลี่ยนเป็น พ.3 คือ สามารถสร้างอาคารขนาดใหญ่ได้ แต่มีเงื่อนไขคือต้องอยู่ริมถนนกว้างเกิน 30 เมตร ซึ่งกำลังบังคับใช้ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงทำให้สถาปัตยกรรมตึกไนท์บริดจ์ตั้งเด่นอยู่บริเวณปากซอยแบริ่ง 6 ซึ่งสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดออกสุขุมวิท 110 (สำโรง) ได้ แม้ว่าโครงการจะตั้งอยู่ชานเมือง แต่ถือว่าอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง และยังอยู่ในแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ราคาที่ดินที่แปลงไพรม์ที่สุดในย่านนี้ตารางวาละเฉียดล้านบาทเลยทีเดียว (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคมโดยบริษัทเอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ AREA )
การเดินทางเข้าโครงการ
แบริ่งเป็นทำเลที่ถือว่าอยู่ในเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส (สายสีเขียวอ่อน) ซึ่งถือเป็นช่องทางการเดินทางที่สะดวกสบายสุด เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้สถานีบีทีเอสแบริ่ง 300 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นระยะที่สามารถเดินได้ การเดินทางโดยบีทีเอสยังเป็นทางออกเพื่อจะเลี่ยงการจราจรหนาแน่น ในช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งในช่วงเช้าและเย็น อันเป็นผลจากการที่ย่านนี้มีโครงการที่อยู่อาศัยหลายแห่ง บวกกับเป็นทำเลที่ตั้งของโรงเรียนกว่า 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนด์ดูว์ (บริเวณปากซอยสุขุมวิท 107) โรงเรียนทรงวิทยา (แบริ่ง 50) โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา (แบริ่ง 60) และโรงเรียนอนุบาลเจริญพงษ์ (ปากซอยแบริ่ง 33/1)
– รถไฟฟ้า BTS
ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีเขียวอ่อน ส่วนต่อขยายจากอ่อนนุช มาลงสถานีแบริ่ง ใช้ทางออกที่ 3 แล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 107 มาประมาณ 300 เมตร โครงการไนท์บริดจ์ อยู่ฝั่งขวามือ ตั้งอยู่บริเวณปากซอยแบริ่ง 6
– รถยนต์ส่วนตัว
ทางเลือกที่ 1 หากมาจากเส้นสุขุมวิท ให้มุ่งหน้าขับตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสี่แยกบางนา ลาซาล จากนั้นสังเกตสถานีบีทีเอสแบริ่ง ให้เตรียมชิดซ้าย เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 107 ตรงเข้ามาประมาณ 300 เมตร โครงการไนท์บริดจ์ อยู่ฝั่งขวามือ ตั้งอยู่บริเวณปากซอยแบริ่ง 6
ทางเลือกที่ 2 เลือกใช้เส้นทางเริ่มต้นจากถนนศรีนครินทร์ ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ สังเกตตึกธนาคารกรุงไทยสาขาศรีนครินทร์ อยู่ฝั่งซ้ายมือ หรือทางที่มุ่งหน้าไปบางนา-ตราด จากนั้นให้เลี้ยวเข้าถนนตัดใหม่ แบริ่ง 107 ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 3 กม. สังเกตคอนโด ดิ แกลเลอรี่ อยู่ซ้ายมือ ให้เตรียมชิดซ้ายเข้าโครงการไนท์บริดจ์ โดยตั้งอยู่หน้าปากซอยแบริ่ง 6
ทางเลือกที่ 3 ใช้ทางลัดจากสุขุมวิท 105 (ลาซาล) เลี้ยวขวาหน้าโรงเรียนนานาชาติบางกอก พัฒนา บริเวณสี่แยกตัดใหม่เข้าถนนแบริ่ง 107 จากนั้นให้เลี้ยวขวาอีกครั้ง เมื่อมุ่งหน้าไปทางปากซอยแบริ่ง ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ 1.8 กม. สังเกตคอนโด ดิ แกลเลอรี่ อยู่ซ้ายมือ ให้เตรียมชิดซ้ายเข้าโครงการไนท์บริดจ์ โดยตั้งอยู่หน้าปากซอยแบริ่ง 6
สถานที่แนว Lifestyle
ซอยสุขุมวิท 107 นั้นมีลักษณะเป็นชุมชนใหญ่ เนื่องจากตั้งแต่ต้นถึงท้ายซอย ต่างอัดแน่นไปด้วยหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม และโรงเรียนมากกว่า 4 แห่ง ด้วยเหตุนี้สถานที่ไลฟ์สไตล์ที่มารองรับความต้องการของคนย่านนี้จึงไม่ได้เป็นลักษณะห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เหมือนแถบเส้นบางนา-ตราด แต่กับเป็นลักษณะคอมมูนิตี้มอลล์ และร้านอาหารชื่อดัง สไตล์เก๋ๆ คล้ายๆ แถบสุขุมวิทชั้นใน เรียงรายอยู่สองข้างทาง
เริ่มต้นจากร้านแรก ร้านสไตล์คาเฟ่ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเกาหลี อย่าง Day Off Day Café ตั้งอยู่ซอยแบริ่ง 2 ใกล้กับโครงการไนท์บริดจ์ ในระยะไม่ถึง 100 เมตร โดยสามารถเดินเข้าชิมรสชาติกาแฟหอมๆ พร้อมเบเกอรี่อร่อยๆ จากฝีมือผู้รังสรรค์ชาวเกาหลี ในบรรยากาศการตกแต่งร้านเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน แต่ถ้าอยากเปลี่ยนแนวเป็นแบบฝรั่ง แนะนำให้นั่งรถสองแถว หรือพี่วิน เข้ามาซอยแบริ่ง 31 จะพบกับอาณาจักรร้าน The Art of Food ซึ่งมีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสปาเก็ตตี้ สูตรพิเศษประจำร้าน หรือหากวันไหนเกิดอยากกินอะไรง่ายๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ แนะนำให้ไปลองได้ที่ร้าน ลิ้ม เล่า ซา จูเนียร์ ตั้งอยู่ซอยแบริ่ง 36 ซึ่งขึ้นชื่อมากกับเมนูเย็นตาโฟ นอกจากนี้ยังมีสุดยอดไฮไลท์ของแบริ่ง และกำลังอยู่ในกระแสความนิยมของผู้ที่ชื่นชอบซีฟู้ด กับร้านครัววารุณี ซอยแบริ่ง 39 ขึ้นชื่อในเรื่องความสด อร่อย แซ่บกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด
หากใครที่กำลังมองหาร้านดัง อร่อย ในซอยแบริ่ง และไม่ไกลจากตัวโครงการไนท์บริดจ์ แนะนำให้ไปลองกันได้ ตลอดวัน รับรองว่าเจริญอาหารแน่นอน
บทวิเคราะห์
วิเคราะห์อัตราผลตอบแทน
จากอานิสงส์การพัฒนาพื้นที่ย่านแบริ่ง ให้มีระดับความเจริญไม่แพ้ย่านใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นระบบคมนาคมขนส่งที่สะดวกสบายขึ้น จากการขยายเส้นทางบีทีเอสสายสีเขียวอ่อนแบริ่ง – สมุทรปราการ – บางปู จนทำให้พื้นที่โดยรอบขยายตัว เกิดโครงการที่อยู่อาศัยขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากนักลงทุนต้องการประลองฝีมือในสนามอสังหาฯ ย่านนี้เพื่อหวังเก็งกำไร อาจจะพบคู่แข่งจำนวนมาก แต่สำหรับโครงการไนท์บริดจ์ ถือว่ามีข้อได้เปรียบ เนื่องจากเป็นคอนโดฯ ตึกสูง ที่มีคู่แข่งเพียงรายเดียว ในซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) ด้วยเหตุนี้จึงได้รับความสนใจจากผู้มองหาแหล่งที่อยู่อาศัย แม้ว่าจะอยู่แถบกรุงเทพฯ รอบนอก แต่ยังได้บรรยากาศวิวเมืองจากระเบียงหน้าห้อง โดยอัตราค่าเช่าในปัจจุบันสำหรับยูนิต 2 ห้องนอน อยู่ที่ 20,000 บาท/ เดือน
เปรียบเทียบกับโครงการอื่น
The Gallery
คอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ของบริษัท ดิ เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด บนที่ดิน 1 ไร่ 1 งาน 48 ตารางวา อาคารสูง 27 ชั้น 269 ยูนิต รูปแบบห้อง 1 – 2 ห้องนอน ดูเพล็กซ์ และเพ้นท์เฮาส์ พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 26.5 – 104.7 ตร.ม. ที่จอดรถ 38 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 90,000 บาท / ตร.ม. สำหรับยูนิต 2 ห้องนอนขึ้นไป
ภาพ via thegallerycondo.com
Ideo Sukhumvit 115
โครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บนที่ดิน 4 ไร่ 1 งาน 48.1 ตารางวา อาคารสูง 35 ชั้น จำนวน 988 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1-2 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 27.50 – 62 ตร.ม. ที่จอดรถ 30 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 72,000 บาท / ตร.ม.
ภาพ via ananda.co.th
Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate
อีกหนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด บนที่ดิน 4 ไร่ 18 ตารางวา อาคารสูง 30 ชั้น แบ่งออกเป็น ส่วนที่พักอาศัย 844 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต รูปแบบห้องสตูดิโอ และ 1 ห้องนอน พื้นที่ห้องชุดในโครงการ 21.5 – 30 ตร.ม. ที่จอดรถ 40 % ราคาขายปัจจุบันเริ่มต้นประมาณ 160,000 บาท / ตร.ม.
ภาพ via .ananda.co.th
สรุป
ไนท์บริดจ์ แบริ่ง ถือว่าเป็นโครงการที่แม้ว่าจะอยู่ในโซนสุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งหลายคนอาจมองว่ายังไม่เจริญเท่าที่ควร แต่ในทางตรงข้ามพื้นที่นี้กลับได้รับการพัฒนาจนมีความคึกคักขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการขยายเส้นทางถนนให้สามารถทะลุซอยลาซาล ศรีนครินทร์ รวมถึงแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างไปจนถึงสมุทรปราการ และคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2560 นี้ อีกทั้ง ยังรายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ ในลักษณะชุมชนใหม่ เติมเต็มด้วยร้านอาหารสไตล์เก๋ๆ น่านั่ง คล้ายกับโซนสุขุมวิทชั้นใน ยิ่งไปกว่านั้น การที่โครงการได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างก่อนที่จะมีการปรับผังเมืองใหม่ทำให้โครงการนี้กลายเป็นคอนโดฯ High Rise เพียงไม่กี่ตึกในซอยสุขุมวิท 107 ที่มีจุดขายเรื่องวิว ส่วนคู่แข่งในการปล่อยเช่านั้น หากเทียบกับโครงการตึกสูงในทำเลเดียวกัน ก็มีคู่แข่งเพียงรายเดียวเท่านั้น จึงนับเป็นซัพพลายคอนโดฯ ตึกสูงที่มีจำกัด และน่าสนใจทีเดียว
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่