“มิกซ์ยูส” เทรนด์อสังหาฯ มาแรงทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

Araya 23 ก.พ. 2561

มิกซ์ยูส (Mixed-use) เป็นโปรเจกต์อสังหาฯ รูปแบบใหม่ที่รวมโครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า โรงแรม หรือแม้แต่ความบันเทิงเข้าด้วยกัน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมตั้งแต่ปี 60 จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยของราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมือง อันเป็นทำเลที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางเศรษฐกิจ จึงทำให้ได้รับความนิยมในการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ รวมถึงมิกซ์ยูสด้วย เหตุนี้เมื่อมูลค่าราคาที่ดินสูงขึ้น จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ เน้นใช้ประโยชน์ที่ดินในการก่อสร้างอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ยังเป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความสะดวกสบายเป็นหลัก ชนิดเปิดประตูห้องมาเจอศูนย์การค้า ร้านอาหาร หรือสถานที่ทำงานอยู่ด้านล่าง และไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมเปิดตัวโปรเจกต์ดังกล่าวแต่ยังหมายรวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ความนิยมโปรเจกต์มิกซ์ยูสไปถึง CLMV
กระแสของโปรเจกต์มิกซ์ยูสไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายวงกว้างไปในกลุ่ม CLMV ซึ่งประกอบไปด้วย ประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ล้วนแล้วเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งนั้น แต่ความน่าสนใจต้องขอยกให้การพัฒนาภาคอสังหาฯ ของประเทศกัมพูชา ที่ย้อนกลับไปเมื่อปี 60 ด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ อย่าง Borey Peng Huoth Group ได้รับรางวัลประเภท Developer Awards จากงาน PropertyGuru Cambodia Property Awards 2017 ซึ่งผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้พัฒนาทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง รวมถึงโปรเจกต์ Mixed-use อย่าง The Star Polaris 23 Condominium in Cambodia ที่ประกอบไปด้วยส่วนที่อยู่อาศัยและรีเทลเข้าด้วยกัน ซึ่งแม้ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง แต่ถ้าหากแล้วเสร็จเชื่อว่าจะเป็นโครงการอสังหาฯ ที่แสดงศักยภาพทั้งตัวผู้ประกอบการและสะท้อนถึงการพัฒนาประเทศกัมพูชาได้ดี ประกอบกับยังทำให้เห็นไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยชาวกัมพูชาที่เปลี่ยนไป เน้นความสะดวกสบายรวมถึงความทันสมัยของโครงการอสังหาฯ อีกด้วย

โปรเจกต์มิกซ์ยูสในประเทศกัมพูชา ที่พัฒนาโดย Borey Peng Huoth Group

โปรเจกต์มิกซ์ยูสในประเทศกัมพูชา ที่พัฒนาโดย Borey Peng Huoth Group

ทั้งนี้สำหรับงานประกาศรางวัลเพื่อตอกย้ำศักยภาพผู้ประกอบการอสังหาฯ PropertyGuru Thailand Property Awards จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 31 สิงหาคม 2561 เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศ และผู้ประกอบการที่ตื่นตัวที่สุดในรอบปี โดยความพิเศษของงานครั้งนี้ยกให้ประเภทรางวัลที่โดดเด่นใหม่ล่าสุดอย่าง smart home co-working space และการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ ที่กำลังได้รับความสนใจในหมู่ผู้อยู่อาศัย ไม่แพ้โปรเจกต์มิกซ์ยูส โดยเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้เริ่มส่งรายชื่อโครงการต่างๆและส่งรายชื่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้แล้ว และจะปิดรับรายชื่อในวันที่ 8 มิถุนายน 2561 ทั้งนี้การส่งรายชื่อ online สามารถส่งได้ที่ AsiaPropertyAwards.com/nomination/thailand/

ยลโฉมมิกซ์ยูสเมืองไทย สุดอลังการแห่งปี
แม้กระแสโปรเจกต์มิกซ์ยูสในไทยจะเริ่มมีมาให้เห็นมาสักระยะแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้ประกอบการอสังหาฯ มาตั้งแต่ช่วงปี 60-61 อย่างมาก สังเกตได้จากการทยอยเปิดตัวโปรเจกต์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และความน่าสนใจของโครงการที่ถูกนำเสนอให้ผู้อยู่อาศัยคือ โฉมใหม่ของมิกซ์ยูสในรูปแบบแฟรกชิฟ อย่าง One Bangkok และ Singha Complex ในที่นี้รวมไปถึงโครงการ Mixed-use ของแสนสิริ ที่ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก คาดว่าจะเปิดตัวในปี 61 นี้ ยังไม่นับโครงการ The Forestias ของ MQDC ที่เนรมิตพื้นที่กว่า 300 ไร่ บนทำเลบางนา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำเลชานเมืองกรุงเทพ ที่กำลังเป็นที่จับตามองศักยภาพทำเลทั้งฝั่งผู้ประกอบการและผู้อยู่อาศัย โดยผู้พัฒนาโครงการได้เนรมิตให้กลายเป็นโลกที่ธรรมชาติและสังคมอยู่ด้วยกัน โดยเน้นพื้นที่สีเขียวเป็นหลัก เฉกเช่นเดียวกับฝั่งศุภาลัย ที่เตรียมเปิดตัวมิกซ์ยูสอลังการแห่งปีบนผืนที่ดินเดิมของสถานทูตออสเตรเลีย ยังไม่นับรวมผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่และเล็ก ที่ต่างร่วมพัฒนาโปรเจกต์มิกซ์ยูสด้วยเช่นเดียวกัน

รวมประกาศโครงการคอนโดฯ ย่านบางนา 

โครงการ The Forestias ของ MQDC รูปแบบใหม่ของ Mixed-use โดยเน้นเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียว บนศักยภาพของทำเลย่านบางนา

โครงการ The Forestias ของ MQDC รูปแบบใหม่ของ Mixed-use โดยเน้นเชื่อมต่อพื้นที่สีเขียว บนศักยภาพของทำเลย่านบางนา

ทำไมต้องเลือกอยู่มิกซ์ยูส?
ความพิเศษของโปรเจกต์มิกซ์ยูสนอกเหนือจากความเพียบพร้อมเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นหลักแล้ว ปัจจุบันในตลาดอสังหาฯ ใช่ว่าจะเน้นเรื่องนี้อย่างเดียวเท่านั้น เทรนด์เรื่อง Proptech หรือ Smart home ก็ถูกเสริมเข้าไปในโครงการเหล่านี้ด้วย เพื่อรองรับยุคสมัยของไทยแลนด์ 4.0 แบบเต็มตัว ทั้งนี้หากกล่าวโดยสรุปสาเหตุที่ต้องเลือกโครงการคอนโดฯ ที่อยู่ในอาณาจักรมิกซ์ยูส มีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้
1. ทำเลที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางธุรกิจ
2. เพิ่มมูลค่าโครงการมากกว่าคอนโดฯ ทั่วไป
3. เหมาะแก่การลงทุนให้เช่าหรือขายต่อ

อย่างไรก็ดีโปรเจกต์มิกซ์ยูสแม้จะเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อันตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยคนรุ่นใหม่ ประกอบกับยังเอื้อประโยชน์ต่อตลาดการลงทุน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากผู้อยู่อาศัยต้องการความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ อาจจะต้องพิจารณาเทรนด์อสังหาฯ มาแรงอย่างโปรเจกต์มิกซ์ยูสกันใหม่

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Senior Digital Content Producer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index  และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เทรนด์อสังหาฯ ปี 61 “Mixed-use” มาแรงแซงโค้ง

ไฮไลท์- โฉมโปรเจกต์โครงการ Mixed-use ปี 2561 มาในรูปบบแฟรกชิฟ- โปรเจกต์โครงการ Mixed-u

อ่านต่อ8 ธ.ค. 2560

รัฐเดินหน้าเก็บภาษีลาภลอย บ้านที่ดินใกล้รถไฟฟ้า-ทางด่วน

จากที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เดินหน้าจะจัดเก็บภาษีลาภลอย หร

อ่านต่อ22 ก.พ. 2561