ไฮไลท์
– โฉมโปรเจกต์โครงการ Mixed-use ปี 2561 มาในรูปบบแฟรกชิฟ
– โปรเจกต์โครงการ Mixed-use อัศวินช่วยแก้ปัญหาราคาทิ่ดินแพง ลดต้นทุนสูง กำไรมากขึ้นจากการปล่อยให้เช่าพื้นที่ในโซนสำนักงานและร้านค้า
– เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อาศัยกลุ่มใหม่ อย่างคนวัยเกษียณ ที่เริ่มเบนเข็มหันมาเลือกคอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยในยามบั้นปลายมากขึ้น จึงทำให้รูปแบบของโปรเจกต์โครงการ Mixed-use อยู่บนพื้นฐานของพื้นที่สีเขียว
[สกู๊ปพิเศษ] เทรนด์อสังหาฯ ในปี 61 ใช่ว่าจะโดดเด่นแต่เรื่อง PropTech ที่กำลังส่งสัญญาณมาแรงตั้งแต่ปี 60 เท่านั้น เมื่อผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงต้องหาลูกเล่นใหม่ๆ มากระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้น ท่ามกลางแนวโน้มของเศรษฐกิจในปีหน้า ที่หลายฝ่ายต่างมองว่าจะปรับตัวดีต่อเนื่อง จากนโยบายกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ แม้ผู้ประกอบการจะต้องเผชิญกับราคาที่ดินแพงในโซน CBD และแนวเส้นรถไฟฟ้าทำเลทองที่มีระดับดีมานด์สูงก็ตาม แต่ถึงกระนั้นทั้งผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก-รายใหญ่ ขอเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะโฉมใหม่โครงการ Mixed-use ในรูปแบบแฟรกชิฟ มาช่วยลดต้นทุนและสร้างกำไรยอดขายให้มากขึ้นในปีหน้า
กลุ่มภาคธุรกิจอสังหาฯ ใจชื้น เศรษฐกิจปี 61 ส่อแววดีขึ้น
แม้ช่วงไตรมาสที่3 และ 4 ของครึ่งปีหลังปี 2560 เศรษฐกิจไทยจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับภาวะยอดที่อยู่อาศัยคงค้าง อันเป็นผลจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ยอดปฏิเสธสินเชื่อของธนาคาร ที่เข้มงวดในการปล่อยกู้ที่อยู่อาศัยมากขึ้น รวมไปถึงปัญหาของหนี้ครัวเรือน อันยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2559 และแม้ปัจจุบันจะลดต่ำลง ส่งสัญญาณดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ประกอบการอสังหาฯ ต่างจำเป็นต้องระมัดระวังการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2561 มากขึ้น
แม้ปีหน้าผู้ประกอบการยังไม่ไว้ใจกับสภาพตลาดอสังหาฯ ที่ส่อแววยังไม่มีความเถียรมั่นคงนั้น แต่เชื่อว่าจากนโยบายของรัฐบาลที่กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้กระเตื้องขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การขยายเส้นทางให้บริการรถไฟฟ้าจากชานเมืองสู่เมือง รวมไปถึงโครงการช่วยผู้มีรายได้น้อยต่างๆ จะนำพาให้สถานการณ์ของเศรษฐกิจปี 2561 นั้นมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงทำให้แม้ผู้ประกอบการยังอยู่บนเส้นด้ายของความกลัว แต่ถึงกระนั้นก็รุดหน้าที่จะขยายโครงการใหม่ๆ บนความท้าทายของเศรษฐกิจในปีหน้า
เจาะทำเล CBD ด้วยโครงการ Mixed-use
แน่นอนว่าในปี 2561 โครงการที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังนิยมเปิดตัวมากที่สุดคงหนีไม่พ้นประเภทที่อยู่อาศัย คอนโดมิเนียม ทั้งนี้ยังคงหวังอานิสงส์ของการขยายตัวของเส้นรถไฟฟ้าที่สำคัญ โดยเฉพาะสายสีเขียว สีน้ำเงิน และสีแดง ท่ามกลางการเผชิญหน้าของผู้ประกอบการอสังหาฯ กับราคาที่ดินที่ส่อแววปรับตัวสูงขึ้นกว่าปี 2560 ถึง 20% โดยเฉพาะในย่านธุรกิจ อย่าง CBD ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น ยังคงเป็นเรื่องของสภาพความเจริญของย่านนั้น รวมไปถึงการหาที่ดินในโซนดังกล่าวมาพัฒนาต่อได้ยาก ในขณะที่ระดับดีมานด์ยังสูงอยู่ เหตุนี้ผู้ประกอบการอสังหาฯ จึงได้เจาะทำเลไข่แดงดังกล่าว เพื่อทำให้คุ้มทุนการก่อสร้าง และรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในรูปแบบ Mixed-use อันประกอบไปด้วย ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และร้านค้า
มุมมองใหม่ของโครงการ Mixed-use ปี 61
โครงการ Mixed-use ปี 61 ปรากฏตัวในรูปแบบโปรเจกต์แฟรกชิฟ ที่เริ่มเห็นการทยอยการเปิดตัวกันแล้วในช่วงปลายปี เหมือนดั่งเช่นโครงการ The Forestias ของ MQDC ที่เนรมิตพื้นที่กว่า 300 ไร่ บนทำเลบางนา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้กลายเป็นโลกที่ธรรมชาติและสังคมอยู่ด้วยกัน โดยเน้นพื้นที่สีเขียวเป็นหลัก หรือแม้กระทั่งฝั่งศุภาลัย ก็ไม่น้อยหน้า เดินทัพโปรเจกต์ Mixed-use ในลักษณะแฟรกชิฟเช่นกัน โดยทุ่มทุนซื้อที่ของสถานฑูตออสเตรเลียบริเวณถนนสาทร เพื่อเนรมิตให้กลายเป็นสังคมน่าอยู่บนพื้นที่สีเขียวเดิมที่อนุรักษ์ไว้ยังไม่นับรวมผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง ออริจิ้น ที่ขอเจาะพื้นที่ไข่แดงสุขุมวิท ย่านทองหล่อ ผุดโครงการ Origin 24 อัดแน่นด้วยโรงแรม ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน และที่ขาดไม่ได้บิ๊กโปรเจกต์โครงการ Mixed-use อย่าง One Bangkok และ Singha Complex ที่แม้เปิดตัวไปแล้วในปี 60 แต่ต้องจับตามองความคืบหน้าอลังการของโครงการต่อไปในปี 61 ในที่นี้รวมไปถึงโครงการ Mixed-use ของแสนสิริ ที่ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก
ผลพลอยได้ของผู้อยู่อาศัย กับโครงการ Mixed-use
สำหรับโปรเจกต์โครงการ Mixed-use ถูกสรรสร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยรุ่นใหม่ วัยทำงาน รวมไปถึงกลุ่มผู้กำลังเข้าสู่วัยเกษียณ ที่มองหาที่อยู่อาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียมในชีวิตบั้นปลายมากขึ้น และการที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ให้ความสนใจกับโปรเจกต์ดังกล่าว นอกจากเป็นการรองรับเรื่องต้นทุนของราคาที่ดินสูงขึ้น และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการแล้ว ยังรองรับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่อยากอยู่ใกล้ที่ทำงาน รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ชนิดไม่ต้องนั่งรถต่อ เดินไม่กี่ก้าวถึง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานของการที่อยู่อาศัยอันเหมาะแก่การพักผ่อน จึงทำให้โครงการ Mixed-use ที่จะได้เห็นปีหน้า ได้ผุดขึ้นพร้อมแนวคิดพื้นที่สีเขียวเป็นสำคัญ
แม้ปี 2561 ที่กำลังจะนับเคาน์ดาวน์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะมาถึง โปรเจกต์โครงการ Mixed-use อาจกำลังเป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ เลือกเป็นทางออกของการรับมือราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น และรองรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่อยากอยู่ใกล้แหล่งงานและสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อม แต่ถึงกระนั้นในมุมมองของผู้อยู่อาศัยยังคงต้องเน้นเรื่องความคุ้มค่าของราคาที่ซื้ออสังหาฯ ประเภทดังกล่าว พร้อมทั้งยังจำเป็นต้องจับตาการปรับตัวของราคาคอนโดมิเนียมในรูปแบบ Mixed-use ต่อไป
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน