เทคนิคง่ายๆในการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ

5 เม.ย. 2556

 
อากาศร้อนๆ แบบนี้ สิ่งที่เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดของมนุษย์ในยุคนี้คงหนีไม่พ้น “เครื่องปรับอากาศ” หรือเรียกกันง่ายๆ แบบติดปากว่า “แอร์” นั่นเอง ปัจจุบันมีแอร์หลากรุ่น หลายฟังก์ชั่นออกมาในตลาดให้เราได้เลือกมากมาย แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องโมเดิร์นขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่บรรดาผู้ใช้ต้องให้ความใส่ใจคือการดูแลรักษาเจ้าเครื่องผลิตความเย็นนี้ให้คงการใช้งานได้ทนทานนานวัน หากคุณซื้อมาเพื่อใช้อย่างเดียว เกิดวันดีคืนดีแอร์เครื่องโปรดเกิดตีรวนไม่ทำงานขึ้นมา ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะกลายเป็นฝันร้ายขนาดไหน โดยเฉพาะในช่วงที่อุณหภูมิเหยียบ 40 องศาอย่างในเวลานี้ วันนี้ DDproperty.com มีเคล็ดที่ไม่ลับในการดูแลรักษาแอร์มาฝากกัน  
 
แอร์ทุกแบบมีส่วนประกอบของเครื่องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนที่อยู่ภายในอาคาร (Indoor) เรียกว่า ชุดคอยล์เย็น และส่วนที่อยู่ภายนอกอาคาร (Outdoor ) เรียกว่า ชุดคอยล์ร้อน หรือคอนเดนซิ่งยูนิต ซึ่งการทำงานของแต่ละส่วนก็จะมีลักษณะการทำงานที่คล้ายชื่อ คือ ชุดคอยล์เย็นก็จะมีหน้าที่สร้างความเย็น ส่วนชุดคอยล์ร้อนก็มีหน้าที่สร้างความร้อนออกมา และแอร์แต่ละชุดยังมีส่วนประกอบย่อยต่าง ๆ ซึ่งแต่ละส่วนประกอบของเครื่องต้องได้รับการดูแลบำรุงรักษาให้ถูกต้อง เหมาะสมกับสภาพการใช้งานของเครื่อง อย่างสม่ำเสมออีกด้วย
คอยล์เย็น เป็นตัวที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องหรือภายในอาคาร มีส่วนประกอบย่อยที่จำเป็นต้องดูแลบำรุงรักษาและทำความสะอาดคือ
 
  • แผงกรองฝุ่น หรือฟิลเตอร์ 
ในเครื่องปรับอากาศทุกเครื่องจำเป็นต้องมีฟิลเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านแรกที่จะกรองอากาศโดยจะดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศไม่ให้ผ่านเข้าไปยังตัวแผงขดท่อคอยล์เย็น และเป่าเข้าสู่บรรยากาศภายในห้องได้อีก ฟิลเตอร์โดยทั่วไปมีใช้กันอยู่หลายชนิด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับขนาด และรูปแบบของเครื่อง เช่น เป็นแบบใยสังเคราะห์สีขาวหรือดำลักษณะคล้ายเส้นด้ายไนล่อนมีขอบเป็นโครงพลาสติก หรือเป็นแบบใยสังเคราะห์สีดำโครงขอบเป็นเหล็กเส้นลวด หรือเป็นแบบเส้นใยอลูมิเนียมถัก (ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศบางรุ่น มีฟิลเตอร์กรองกลิ่นและควันอยู่ด้วย) เราต้องดูแลทำความสะอาดฟิลเตอร์อยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ฟิลเตอร์อุดตันไปด้วยฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ เพราะถ้าฟิลเตอร์อุดตันจะทำให้ลมไม่สามารถหมุนเวียนผ่านคอยล์เย็นได้ ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศไม่เย็น มีน้ำแข็งเกาะที่ตัวคอยล์เย็น และอาจมีน้ำหยดจากตัวเครื่องได้ เมื่อน้ำแข็งที่เกาะอยู่ละลาย
 
ความถี่ในการล้างทำความสะอาดฟิลเตอร์นั้นขึ้นอยู่กับการใช้งาน เช่น ถ้าติดตั้งแอร์ในห้อง หรือในอาคารที่มีลักษณะการทำงานที่มีฝุ่นละอองมาก เช่น ห้องเตรียมผ้าสำหรับใช้ในการผ่าตัด ซึ่งห้องนี้จะมีฝุ่นใยผ้าเกิดขึ้นจำนวนมาก การล้างฟิลเตอร์ควรต้องจะล้างทุกวัน หรืออย่างน้อยทุกสัปดาห์ ส่วนการติดตั้งแอร์ในสถานที่ไม่ค่อยมีฝุ่นละอองมากนัก เช่น ห้องนอน ห้องพักผ่อน หรือห้องทำงานทั่วไป ควรทำความสะอาดฟิลเตอร์ทุกๆ 1 เดือน หรือ 3 เดือน 
 
วิธีการล้างฟิลเตอร์โดยใช้น้ำแรงๆ ฉีดที่ด้านหลังของฟิลเตอร์ (ด้านที่ไม่ได้รับฝุ่น) ให้ฝุ่นและสิ่งสกปรกหลุดออก หรือถ้าฟิลเตอร์เป็นแบบเส้นใยอลูมิเนียมถัก แบบเส้นใยไนล่อน ก็อาจใช้แปรงที่มีขนนิ่ม เช่น แปรงสีฟัน หรือแปรงทาสีช่วยปัดฝุ่นด้วยก็ได้
  • คอยล์ร้อน หรือคอนเด็นซิ่งยูนิต 
เป็นตัวที่ติดตั้งอยู่ภายนอกห้อง หรือภายนอกอาคาร ภายในชุดคอยล์ร้อนจะมีส่วนประกอบหลักอยู่สามส่วน คือ คอมเพรสเซอร์ มอเตอร์พัดลมพร้อมใบพัดลม และแผงขดท่อกับครีบอลูมิเนียม ชุดคอยล์ร้อนจะมีหน้าที่นำเอาความร้อนจากภายในห้องมาระบายออกทิ้งไป ดังนั้นลมที่เป่าออกมาจากคอยล์ร้อนจึงเป็นลมร้อน 
การดูแลบำรุงรักษาคอยล์ร้อน จึงต้องทำให้เกิดการระบายความร้อนได้ดี โดยไม่มีวัตถุสิ่งของใดๆ มาปิดบังทิศทางของการระบายของลม และดูแลไม่ให้มีฝุ่นหรือสิ่งอื่นๆ มาปิดบังโดยเฉพาะที่แผงขดท่อและแผ่นอลูมิเนียมของคอยล์ร้อน เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวขวางกั้นไม่ให้ลมเข้าไปรับความร้อนจากชุดคอยล์ร้อนได้ ระยะห่างระหว่างชุดคอยล์ร้อนกับสิ่งกีดขวางที่ยอมรับได้ จะถูกกำหนดโดยข้อกำหนดเฉพาะในการติดตั้งของเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่น ซึ่งรวมถึงการเผื่อพื้นที่ว่างเพื่อการดูแลซ่อมบำรุงด้วย 
 
ถ้าคอยล์ร้อนสกปรก หรือมีสิ่งของมาปิดบังช่องทางการระบายลมทำให้ความร้อนไม่สามารถระบายออกมาได้แล้ว จะทำให้แอร์ไม่มีความเย็น หรือเย็นน้อย กินกระแสไฟฟ้ามากกว่าปกติ และอาจทำให้คอมเพรสเซอร์เสียหายได้ 
 
การทำความสะอาดฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามชุดคอยล์ร้อน สามารถใช้น้ำฉีดล้างได้แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำกระเด็นเข้าไปเปียกอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ ระยะเวลาในการล้างทำความสะอาดชุดคอยล์ร้อนควรล้างทุก 6 เดือน หรือทุก 12 เดือน
ดูแลดีๆ มีประโยชน์
การดูแลรักษาแอร์ให้ดีนั้น นอกจากจะช่วยให้อายุการใช้งานของแอร์เครื่องนั้นยาวนานขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงาน ประหยัดค่ากระแสไฟฟ้า ประหยัดค่าซ่อมบำรุง อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของผู้ใช้และผู้อยู่อาศัย 
 
การล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอจะช่วยขจัดเอาฝุ่นละออง เชื้อโรค เชื้อรา ที่เกาะติดอยู่กับส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง และที่ล่องลอยอยู่ในอากาศภายในห้องออกทิ้งไปด้วย (ฝุ่นละอองที่ล่องลอยอยู่ในอากาศจะถูกดักจับโดยแผงกรองฝุ่น ที่เรียกว่า ฟิลเตอร์) ซึ่งฝุ่นละออง เชื้อโรค เชื้อรา เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของการทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคภูมิแพ้  วัณโรค หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ
หากคิดว่าขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นมันดูยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าที่จะทำด้วยตัวเอง ก็คงต้องยอมควักกระเป๋าให้ช่างแอร์ผู้ชำนาญเข้ามาดูแลและทำความสะอาดทุก 3 – 6 เดือน เพียงเท่านี้ คุณก็จะรักษาความ “คูล” โดยไม่ต้องเหงื่อตกไปตลอดหน้าร้อนได้อย่างสบายใจ
 
อ่านวิธีดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศฉบับเต็มได้ที่นี่  
 
 
ข้อมูลอ้างอิง: กองวิศวกรรมการแพทย์ 
ภาพ: Pinterest
 
 
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ 
 
เรื่องอื่นที่น่าสนใจ 
เขียนความเห็น