สำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยราคาถูก ขณะนี้ กคช.เปิดให้จองบ้านล็อตแรกในโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 แล้ว ตั้งแต่วันนี้ – 6 ตุลาคม 2557 ณ สำนักงานเคหะชุมชน สำนักงานขายที่ตั้งโครงการทั่วประเทศ และสำนักงานใหญ่ กคช.
นายกฤษดา รักษากุล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ หรือ กคช. เปิดเผยว่า กคช.ได้เริ่มดำเนินงานโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 ปี 2557 จำนวน 38 โครงการ 16,146 ยูนิต ทั้งในเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑล และภูมิภาคแล้ว โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง จำนวน 25 โครงการ 14,773 ยูนิต ราคาอยู่ระหว่าง 530,000 – 740,000 บาท รูปแบบโครงการ ประกอบด้วย อาคารชุด 3 – 5 ชั้น ขนาดห้องประมาณ 33 ตารางเมตรในชลบุรี (นาเกลือ), บางขุนเทียน 3, เทพารักษ์ 3, นนทบุรี (วัดกู้) และประชาอุทิศ; บ้านเดี่ยว 2 ชั้นและบ้านแฝด 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 21 – 24 ตารางวาในจันทบุรี, อุดรธานี (หนองสำโรง), นครราชสีมา (ปากช่อง), รังสิต คลอง 10/2, พะเยา และพิษณุโลก (บึงพระ) และทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 16 ตารางวาที่รังสิต คลอง 10/1
นอกจากนี้ ยังมีโครงการพิเศษและบริการชุมชน จำนวน 13 โครงการ 1,373 ยูนิต ราคาอยู่ระหว่าง 980,000 – 4,450,000 บาท รูปแบบโครงการประกอบด้วยบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ขนาดพื้นที่ประมาณ 52 – 60 ตารางวา; บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 31 – 50 ตารางวา; อาคารพาณิชย์ 2.5 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 22 ตารางวา; ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 24 – 54 ตารางวาที่บางโฉลง ทาวน์โฮม; อาคารชุด 7 ชั้น ขนาดห้องประมาณ 40 – 50 ตารางเมตร และอาคารพาณิชย์ 3 – 3.5 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 18 – 42 ตารางวาที่นาจอมเทียน นิวมาร์ท, นครสวรรค์ นิวมาร์ท และบางพลี ทาวน์โฮม
ทั้งนี้ กคช. มีมาตรการขายก่อนก่อสร้าง โดยต้องมียอดขายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 จึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งการจัดทำโครงการยังได้พิจารณาแบ่งส่วนการดำเนินการก่อสร้างและขายแต่ละโครงการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอาคารคงเหลือ โดยกำหนดระยะเวลาการขายแบ่งออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
สำหรับการเปิดขายบ้านในโครงการดังกล่าวรอบต่อไป จะเปิดระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2557 จำนวน 17 โครงการ รวมทั้งสิ้น 6,339 ยูนิต ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง จำนวน 9 โครงการ 5,297 ยูนิต ได้แก่ หนองคาย (แยกเวียงจันทร์) และศรีสะเกษ (โพนข่า) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 2 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ชลบุรี (กุฎโง้ง), เชียงใหม่ (หนองหาร) ระยะที่ 1 และกระบี่ (กระบี่น้อย) เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ภูเก็ต (ถลาง) ระยะที่ 2 เป็นอาคารชุด 3 ชั้น เชียงใหม่ (ไนท์ซาฟารี) ระยะที่ 1 และเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ) เป็นอาคารชุด 4 ชั้น และลาดกระบัง 2 ระยะ 3/1 เป็นอาคารชุด 5 ชั้น (มีลิฟท์) ส่วนโครงการพิเศษและบริการชุมชน จำนวน 8 โครงการ 1,042 ยูนิต ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (โรจนะ) เป็นทาวน์โฮม 2.5 ชั้น บ้านศรีนวมินทร์ 2 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น และอาคารชุด 7 ชั้น ศรีสะเกษ (โพนข่า) ระยะที่ 1 ส่วนที่ 1 และเชียงใหม่ (ดอยสะเก็ด) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เพชรบูรณ์ ระยะ 1 และภูเก็ต 2 เป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ภูเก็ต (เทพกระษัตรี) และนครศรีธรรมราช (อ้อมค่าย) เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
ส่วนช่วงที่ 3 ระหว่างวันที่ 21 – 30 พฤศจิกายน 2557 จำนวน 5 โครงการ รวมทั้งสิ้น 3,704 ยูนิต ประกอบด้วย โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง จำนวน 4 โครงการ 3,435 ยูนิต ได้แก่ ลำปาง (ต้นธงชัย) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สงขลา (หาดใหญ่-ลพบุรีราเมศวร์) เป็นอาคารชุด 4 ชั้น ลาดกระบัง 2 ระยะ 3/2 และตลาดไท (เทพกุญชร 34) ระยะที่ 2 ส่วนที่ 1 เป็นอาคารชุด 5 ชั้น (มีลิฟท์) ส่วนโครงการพิเศษและบริการชุมชน จำนวน 1 โครงการ 269 ยูนิต ได้แก่ พาร์ควิลล์ ร่มเกล้า เป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น และอาคารพาณิชย์ 3.5 ชั้น
สำหรับเงื่อนไขการจอง ราคาขาย อัตราการผ่อนชำระ และขนาดพื้นที่แปลงมาตรฐาน เป็นไปตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนดไว้ซึ่งปรากฏอยู่ในใบราคาขาย คุณสมบัติผู้จอง ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย มีรายได้ครอบครัวไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน และไม่จำกัดรายได้สำหรับบ้านในโครงการพิเศษและบริการชุมชน
โดยผู้สนใจต้องเตรียมหลักฐานประกอบการจอง ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / บัตรประจำตัวข้าราชการ / บัตรประจำตัวพนักงานรัฐวิสาหกิจ จำนวน 1 ชุด สำเนาทะเบียนบ้านปัจจุบัน จำนวน 1 ชุด หนังสือรับรองรายได้ (กรณีโครงการพิเศษและบริการชุมชนไม่ต้องใช้ประกอบการจอง)
ในกรณีจองอาคารชุดต้องวางเงินชำระการจองตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด ถ้าจองบ้านพร้อมที่ดินต้องวางเงินมัดจำชำระในวันทำสัญญาตามที่การเคหะแห่งชาติกำหนด โดยผู้ประสงค์ขอจองสามารถยื่นแบบจองได้คนละ 1 ยูนิต (กรณีโครงการพิเศษและบริการชุมชนสามารถยื่นแบบจองได้มากกว่า 1 ยูนิต)
ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีความประสงค์จะจองสามารถทำสัญญาตามวัน เวลา และสถานที่ที่การเคหะแห่งชาติกำหนด ได้แก่ สำนักงานเคหะชุมชน สำนักงานขายที่ตั้งโครงการ และสำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ (รับจองเฉพาะโครงการที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล) หากพ้นกำหนดเปิดจองและยังมีอาคารว่างเหลืออยู่การเคหะแห่งชาติจะเปิดจองต่อเนื่องจนกว่าจะครบจำนวนอาคารที่ ว่างอยู่ และผู้จองจะต้องไม่มีหนี้ค้างค่าเช่าและค่าเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ
ส่วนการผ่อนชำระกับธนาคารอาคารสงเคราะห์คิดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวพิเศษ คิดร้อยละ 4.975 ต่อปี (MRR-2) อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4-20 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวพิเศษ คิดร้อยละ 6.475 ต่อปี (MRR-0.5) ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลง ได้ตามที่ธนาคารกำหนด สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์ MRR ณ สิงหาคม 2557 อยู่ที่ 6.975% โดยอัตราผ่อนชำระกับธนาคารต่อเดือนขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้กู้ เช่น อายุ รายได้ และอื่นๆ ซึ่งธนาคารจะเป็นผู้พิจารณา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1615
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่