คิงดอม พร็อพเพอร์ตี้เดินหน้ารุกโครงการสองในพัทยา ผุดมิกซ์ยูสโปรเจคยักษ์ใช้เวลาพัฒนา 5 ปี ประเดิมเฟสแรก ชิมลางธุรกิจรีเทล ชูเป็น “เทอร์มินัล 21 แห่งเมืองพัทยา” เตรียมเปิดให้บริการช่วงปลายปีหน้า
นายไนเจล คอร์นิค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คิงดอม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดตัว“เซาท์พอยท์ พัทยา” คอนโดมิเนียมโครงการแรกมูลค่า 2,500 ล้านบาทไปเมื่อสองปีก่อน โดยโครงการดังกล่าวเพิ่งจัดพิธีสิ้นสุดงานโครงสร้าง (Topping-off Ceremony) ไปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา
และปัจจุบันมียอดขายกว่า 70% และจะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2558 เป็นต้นไป ล่าสุด บริษัทได้ประกาศความพร้อมในการเดินหน้าพัฒนาโครงการแห่งใหม่ในพัทยา ซึ่งจะพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูสบนพื้นที่โครงการรวมทั้งหมด 23 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส ใช้ระยะเวลาในการพัฒนารวม 5 ปี มูลค่าโครงการรวม 5,000 ล้านบาท
สำหรับเฟสแรกของโครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นโครงการรีเทลขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมของร้านค้าปลีกแบรนด์ดังและพลาซ่าบนเนื้อที่กว่า 3 ไร่บริเวณถนนเลียบชายหาดของพัทยากลาง ภายใต้ชื่อ “เดอะเบย์” โดยโครงการดังกล่าวมีพื้นที่ทั้งหมด 6,800 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่เช่าสำหรับร้านค้าปลีกที่สร้างเป็นอาคารสูง 3 ชั้นยาวไปตามแนวถนนเลียบชายหาดประมาณ 100 เมตร บริเวณด้านหน้าพัฒนาเป็นพลาซ่าขนาดกว้าง 1,800 ตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่จัดกิจกรรม รวมถึงงานเทศกาลและคอนเสิร์ตต่างๆ มีพื้นที่จอดรถประมาณ 102 คัน โดยจะเริ่มการก่อสร้างในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2557 ก่อนที่จะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4 ปี 2558
“เราเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของพัทยาที่จะถูกพัฒนาเป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญและเป็นจุดหมายปลายทางการพักผ่อนสำหรับครอบครัว ซึ่งเดอะเบย์เป็นโครงการที่เหมาะกับเทรนด์การพัฒนาเป็นอย่างยิ่งและจะมีความโดดเด่นในฐานะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารและความบันเทิงระดับพรีเมี่ยมเมื่อเปิดตัวในปีหน้า” นายไนเจล กล่าว
สำหรับโครงการดังกล่าวซึ่งนายไนเจลยกให้เป็น “เทอร์มินัล 21 แห่งเมืองพัทยา” นั้น เนื่องจากได้ RDG Planning & Design ซึ่งเป็นผู้ออกแบบศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21 ในกรุงเทพฯ เป็นผู้ออกแบบโครงการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไม่เคยเห็นมาก่อนในพัทยา” โดยได้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้สนับสนุนทางด้านการเงิน
ในส่วนของการปล่อยพื้นที่เช่าภายในโครงการนั้น บริษัทได้มอบหมายให้คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเป็นผู้ดูแล โดยขนาดของพื้นที่ร้านค้าที่จะเปิดเช่านั้นเริ่มต้นตั้งแต่ 80 – 1,200 ตารางเมตร อัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ประมาณ 2,500 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน ในขณะที่จำนวนผู้เข้าใช้บริการนั้น ในช่วงไฮซีซั่นคาดว่าจะมีตั้งแต่ 50,000 คนขึ้นไปต่อวัน
สำหรับโครงการในเฟส 2 นั้นจะพัฒนาเป็นโรงแรมและคอนโดมิเนียมพักอาศัยกรรมสิทธิ์แบบลีสโฮลด์ โดยในส่วนของโรงแรมนั้นจะเป็นการปรับปรุงโฉมโรงแรม Hotel Collection เดิมให้หรูหราขึ้น
ส่วนความคืบหน้าของโครงการคอนโดมิเนียม “มิวส์ทีค” (Mustique) ริมชายหาดวงศ์อมาตย์นั้น ปัจจุบันโครงการดังกล่าวล่าช้ากว่ากำหนดราว 3-4 เดือนเนื่องจากอยู่ระหว่างรออนุมัติผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) อยู่ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงต้นปีหน้า
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่