ตลาดอสังหาฯ กรุงเทพฯ ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองถึงจุดพีคเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตามรายงานสถานการณ์ตลาดในกรุงเทพฯ ฉบับล่าสุดโดยบริษัทอสังหาฯ ดีทีแซด
รายงานฉบับดังกล่าว ระบุว่าในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ภาคอสังหาริมทรัพย์หลักๆ เริ่มฟื้นตัว หลังจากที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมาลากยาวมาจนถึงช่วงไตรมาส 2 ของปี 2557 นี้
โดยการแต่งตั้งรัฐบาลรักษาการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาถือเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ
ในขณะที่ภาคที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เองก็เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นนับตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นมา ดูได้จากจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่เพิ่มมากขึ้นในเมือง
โดยความนิยมของผู้ซื้อในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาพบว่าเริ่มกลับมามองทำเลใจกลางเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะในโซนสุขุมวิท
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา มีห้องชุดที่เปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ ทั้งหมด 1,830 ยูนิต ในจำนวนนี้ 43% เป็นห้องชุดที่เปิดขายในย่านสุขุมวิท ตามมาด้วยโซนใจกลางเมืองราว 37% และอีก 20% เป็นห้องชุดที่เปิดขายในทำเลริมแม่น้ำ
รายงานดังกล่าวยังได้ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราการซื้อห้องชุดที่เปิดขายใหม่ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่สูงอย่างน่าประหลาดใจ โดยบางโครงการสามารถปิดการขายได้ 100% ภายในวันแรกที่เปิดจอง ราคาขายเฉลี่ยในช่วงเปิดตัวพุ่งสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 12.2% มาอยู่ที่ตารางเมตรละ 175,000 บาท จากตารางเมตรละ 156,000 บาทในช่วงไตรมาสที่ 2
นอกจากคอนโดฯ ใหม่แล้ว ดีมานด์คอนโดฯ มือสองในทำเลซีบีดียังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอีกด้วย เนื่องจากคอนโดฯ มือใหม่มีราคาค่อนข้างสูง ในขณะที่คอนโดฯ รีเซลราคาถูกกว่า 5-10%
ทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าจับตามองคือบริเวณริมแม่น้ำซึ่งได้รับความนิยมจากผู้ซื้อในอัตราสูง ดูได้จากยอดขายของโครงการที่เปิดตัวใหม่ในช่วงที่ผ่านมาอย่างแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนเซส แอท ไอคอนสยาม ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาและสามารถกวาดยอดขายได้สูงหลังจากเปิดขายเพียงไม่กี่วัน แม้ว่าราคาเฉลี่ยของห้องชุดในโครงการจะสูงถึง 280,000 บาทต่อตารางเมตร
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ฟื้นตัว เป็นที่คาดการณ์ว่ากำลังซื้อคอนโดฯ โดยเฉพาะในทำเลใจกลางเมืองจะยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี สิ่งที่ผู้ซื้อต้องจับตามองก็คือการขาดแคลนสินค้าที่ราคาเหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในย่านใจกลางเมืองเริ่มขาดแคลนส่งผลให้ราคาอสังหาฯ แพงขึ้น
นอกจากนี้ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงจะส่งผลต่อความสามารถในการซื้อของผู้บริโภคและส่งผลให้สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่