เพซฯทุ่มกว่า4.55ล้านซื้อแบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้า

Kanchana Paha17 พ.ย. 2557

เพซฯ ทุ่มกว่า 4,550 ล้านบาทซื้อกิจการร้านอาหารดัง ‘ดีน แอนด์ เดลูก้า’ เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเข้าถือหุ้นเพิ่มในโครงการมหานคร 100%

การเข้าซื้อกิจการดีน แอนด์ เดลูก้าจากบริษัท ดีน แอนด์ เดลูก้า โฮลดิ้งส์ อิงค์ เป็นวงเงิน 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4,550 ล้านบาท) ของเพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการซื้อเครือข่ายซัพพลายเชน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 11 สาขา และร้านจำหน่ายอาหารอีก 2 แห่งในสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังรวมถึงสิทธิในสัญญาของร้าน ดีน แอนด์ เดลูก้าต่างๆ นอกสหรัฐอเมริกาอีก 31 สาขา ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นธุรกิจในประเทศไทย 4 สาขา นอกจากนี้ยังมีสาขาที่ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ คูเวต กาต้าร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าบริษัทตั้งเป้าที่จะหลอมรวมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูส ระดับไฮเอนด์เข้ากับแบรนด์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมี่ยม เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ตลาดโลก โดยเห็นว่าความสำเร็จในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ในอนาคตคือ การมอบไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า มิใช่แค่การนำเสนอเพียงที่พักอาศัยหรือสิ่งปลูกสร้าง เพราะเราเข้าใจดีว่าลูกค้าต้องการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยม นั่นคือเหตุผลที่เราต้องนำแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดในโลกมาสู่โครงการอสังหาริมทรัพย์ของเรา ซึ่งรูปแบบการหลอมรวมธุรกิจดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วถึงผลสำเร็จ จากบริษัทที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย และการค้าปลีกระดับโลกหลากหลายบริษัท

“แบรนด์ระดับไอคอนอย่างดีน แอนด์ เดลูก้า มีโอกาสสูงมากในการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดระดับโลก เราคาดว่าภายใต้นโยบายการขายลิขสิทธิ์เพิ่มให้กับผู้ประกอบการเดิมและผู้ประกอบการรายใหม่ในแต่ละประเทศ รวมถึงการลงทุนในร้านใหม่ๆ จากทางเพซเอง จะสามารถขยายดีน แอนด์ เดลูก้าได้อีกหลายร้อยสาขาภายใน 2 ปี จากปัจจุบันที่มีทั้งหมด 42 สาขาและจะขยายจาก 8 ประเทศไปสู่ 15 ประเทศภายใน 2 ปีด้วยเช่นกัน”

ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงใช้ทีมบริหารปัจจุบันของดีน แอนด์ เดลูก้าดำเนินการบริหารธุรกิจต่อไป

“การซื้อกิจการดีน แอนด์ เดลูก้า จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้แก่เพซฯ โดยจะนำมาซึ่งแหล่งรายได้ที่มีความผันผวนน้อยกว่าแก่ธุรกิจของบริษัท เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัทในการดึงดูดและรักษาบุคลากรที่เปี่ยมความสามารถ ทั้งยังเพิ่มโอกาสในการเติบโตในสายงานของพนักงานในบริษัทเพซเองด้วย” นายสรพจน์ กล่าว

โดยแหล่งเงินทุนสำหรับการซื้อกิจการในครั้งนี้เป็นเงินที่มาจากเงินทุนหมุนเวียนภายในของบริษัทเอง รวมถึงเงินกู้ที่ได้จากธนาคารไทยพาณิชย์

นายสรพจน์กล่าวต่อว่าบริษัทเตรียมจะเข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% ในโครงการมหานคร รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ด้วยการแลกเปลี่ยนหุ้นกับบริษัท อินดัสเทรียล บิลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น (IBC) โดย IBC จะเปลี่ยนมาถือหุ้นในเพซ 20.9 % เพื่อแลกกับการถือหุ้นในโครงการมหานครและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ศุภาลัยปักหมุดโครงการแนวราบในอุดรธานี

ศุภาลัย เดินหน้าผุดโครงการแนวราบในอุดรธานี ดันแบรนด์ “ศุภาลัย วิลล์” ป

อ่านต่อ17 พ.ย. 2557