มีเวลาว่าง แต่นึกไม่ออกว่าจะทำอะไร ออกไปทานข้าวนอกบ้านกันดีกว่า วันนี้ DDproperty มี 5 ร้านเด่นบรรยากาศดีในกรุงเทพฯ มาแนะนำกัน และแน่นอนว่าอาหารก็หน้าตาดี รสชาติเยี่ยมไม่แพ้การตกแต่งร้านที่สวยงามเลยล่ะ นอกจากจะได้ทานของอร่อยแล้ว งานนี้เตรียมเคลียร์เมมฯ กล้องเพื่อเก็บรูปสวยๆ ไว้อวดเพื่อนด้วยนะ รับรองเส้นอิจฉามีกระตุก
The Never Ending Summer
ชวนไปกินข้าวในโกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ที่จะหยุดเวลาความสุขของคุณเอาไว้ชั่วขณะ ตัวร้านออกแบบเก๋ด้วยการดัดแปลงโกดังเก่าโถงลอฟท์ในสไตล์มินิมัลลิสต์ ขัดกับเมนูอาหารที่เน้นอาหารไทยแท้รสชาติดั้งเดิมกว่า 30 เมนู ที่พลาดไม่ได้ เช่น มัสมั่นเนื้อน่องลาย ยำถั่วพลู หมูโสร่ง แกงกะทิสด-ปลาเค็ม และเสือร้องไห้
ภาพ via facebook.com/TheNeverEndingSummer
ภาพ via facebook.com/TheNeverEndingSummer
การเดินทางมาที่ร้านนี้ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิดคืออยู่ใกล้ๆ กับท่าเรือคลองสาน ภายในโครงการ The Jam Factory เข้าออกทางถนนเจริญนคร ร้านเปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์เปิดช่วงเวลาเดียวคือ 5 โมงเย็นถึง 5 ทุ่ม ส่วนวันอังคาร-อาทิตย์แบ่งเวลาเปิดเป็นสองช่วงคือ 11.00-15.00 น. และ 17.00-23.00 น. ราคาอาหารต่อหัวเริ่มต้นที่ 200-300 บาท
Garden Of Dream
เพียงขึ้นบันไดไปสี่ชั้นก็จะพบกับร้านอาหารบรรยากาศสวนชิลๆ รอต้อนรับคุณอยู่ ที่ร้าน Garden of Dream ยกสวนขึ้นมาไว้บนดาดฟ้ากันเลยทีเดียว นอกจากไม้ประดับสวยๆ ก็ยังมีงานอาร์ตงามๆ ตกแต่งอยู่ทั่วร้าน เมนูที่นี่เน้นอาหารฝรั่งหลากสไตล์น่าลองทั้งนั้น เมนูสำหรับชาวมัง(สวิรัติ) ก็มีนะ เมนูแนะนำเมื่อมาเยือนที่นี่ก็คือ Calamari ที่ทำจากปลาหมึกสดพอดีคำ Grilled Lamb tenderloin เนื้อแกะย่างสุก และสำหรับคนชอบชีส ต้องไม่พลาดกับ Macaroni 3 Cheese ที่จัดชีสมาถึงสามแบบ
ภาพ via facebook.com/Gardenofdream
ร้านตั้งอยู่ที่ทองหล่อซอย 5 เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 17.00-22.00 น. ยกเว้นวันอาทิตย์ที่เปิดตั้งแต่ 11.00-20.00 น. ราคาอาหารต่อหัวอยู่ที่ 200-500 บาท
The Garret Secret Bistro Bar
อาหารอเมริกันฟิวชั่นในบรรยากาศอบอุ่นของอารมณ์ห้องใต้หลังคาที่ประกอบไปด้วย 3 ห้อง 3 สไตล์และเทอร์เรซด้านนอกสำหรับวันอากาศดี ร้านตั้งอยู่บนชั้น 6 ของโชว์รูมมินิคูเปอร์ ระหว่างซอยเอกมัย 5 และ 7 ใครที่นำรถมาไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดเพราะมีไว้บริการอย่างเหลือเฟือ อาหารแนะนำของที่นี่ก็มี Potato Skins Nachos มันฝรั่งทอดทั้งเปลือกราดด้วยพริกหวานสามสี ข้าวโพด บีทรู้ท มะเขือเทศ และน้ำสลัด Pan-Roasted Salmon ปลาแซลมอนและผักต่าง ๆ ในแป้งบางกรอบที่ราดน้ำซอสมาแบบชุ่มฉ่ำ หรือจะเป็นจานอิตาเลียนก็รสชาติจัดจ้านไม่เบาอย่าง Angel Hair Confit สปาเก็ตตี้เส้นเล็กผัดกับน้ำมันมะกอกกระเทียม และพริกแห้ง โรงหน้าด้วยไข่กุ้ง รสชาติจัดจ้าน ทานอิ่มยังสามารถเพลิดเพลินงานศิลป์ในแกลอรี่ต่อได้ด้วยนะ
ร้านเปิดให้บริการทุกวันในสองช่วงเวลาคือ 11.00-14.30 น. และ 18.00-24.00 น. ราคาอาหารต่อหัวเริ่มต้นที่ 200 บาท
Whale’s Belly
อาหารฝรั่งเศส อิตาเลียนและซีฟู้ดในบรรยากาศท้องทะเลลึก ที่ตกแต่งภายในเสมือนนั่งทานอาหารอยู่ในท้องปลาวาฬตัวใหญ่ตามชื่อร้าน ที่นี่มีโซนให้นั่งถึง 3 โซนด้วยกัน นอกจากโต๊ะแล้วยังมีบาร์และห้องส่วนตัว สำหรับอาหารจานเด่นของที่นี่ เราขอแนะนำ Duo of Ravioli Mc’N Cheese หรือพาสต้าห่อใส่ไก่และชีสเป็นอาหารทานเล่นรองท้อง ตามด้วยจานหลักสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง Duck Leg “Confit” น่องเป็ดที่ตุ๋นด้วยความพิถีพิถัน
ภาพ via facebook.com/WhalesBelly
Whale’s Belly ตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคาร 39 บูเลอวาร์ด มีที่จอดรถด้านหน้าอาคาร เปิดทุกวันตั้งแต่ 17.30-23.00 น. ราคาอาหารต่อหัวเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาท
Dory Seafood Bistro
ปิดท้ายด้วยร้านเล็กๆ แต่เด็ดดวงในห้างอย่าง Dory Seafood Bistro ที่ตกแต่งด้วยสีขาว-ฟ้า จำลองมาจากบ้านเรือนชายทะเลบนเกาะมิโคนอสในประเทศกรีซ ถูกปากด้วยอาหารซีฟู้ดแบบไทยๆ ในเมนูที่คุ้นเคยอย่าง ปลากะพงทอดน้ำปลาที่กรอบนอกนุ่มใน ปลาหมึกผัดไข่เค็ม สปาเก็ตตี้ปลาหมึก ร้านมีทั้งโซนระเบียงหน้าร้านบรรยากาศเอ้าท์ดอร์และด้านในที่ดูอบอุ่นเพิ่มความเป็นส่วนตัว
ภาพ via wongnai.com
ร้านตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 เดินทางสะดวกทั้งบีทีเอสและเอ็มอาร์ที เปิดให้บริการ 11.00-22.00 น. ราคาอาหารต่อหัวเริ่มต้นที่ 100-250 บาท
ภาพหลัก: บรรยากาศร้าน Whale’s Belly via facebook.com/WhalesBelly
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้
ที่นี่เรื่องอื่นที่น่าสนใจ
เปิดแอร์อย่างไรให้จ่ายค่าไฟแบบเบาๆ
ไอเดียคลายร้อนในบ้านด้วยผ้าม่าน
ไอเดียเด็ด…ปรับบ้านให้เป็นธีมชายทะเล