สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ ปีแพะมีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2557 หลังการเมืองนิ่งและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ฝั่งผู้ประกอบการจ่อเดินหน้าลงทุนคึกคัก คาดจะได้เห็นคอนโดฯ กลางเมืองเปิดขายตารางเมตรละ 300,000 บาท
เมื่อปีใหม่เริ่มต้นขึ้น สิ่งที่ทุกคนคาดหวังก็คือการเริ่มต้นที่ดี เช่นเดียวกับแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งในปี 2558 นั้นหลายฝ่ายต่างพากันคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก โดยในตลาดคอนโดมิเนียมนั้น ผู้ประกอบการหลายรายแสดงความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ด้วยการเตรียมประกาศแผนการลงทุนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้จำนวนมากกว่าปี 2557 ที่ผ่านมา
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) คาดว่าในปี 2558 นี้จะมีคอนโดฯ เปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ ราว 50,000 – 55,000 ยูนิต และเมื่อรวมกับพื้นที่ปริมณฑลแล้วอาจจะมีจำนวนมากกว่า 70,000 ยูนิต ซึ่งจำนวนดังกล่าวถือว่าสูงกว่าปีที่ผ่านมาราว 20% ในขณะที่ตลาดบ้านจัดสรรซึ่งเป็นตลาดของกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) นั้นในปีนี้คาดว่าจะมีความคึกคักไม่แพ้กัน โดยจำนวนบ้านจัดสรรเปิดใหม่ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ราว 30,000 ยูนิตในเขตกรุงเทพฯ และเมื่อรวมกับเขตปริมณฑลด้วยคาดว่าตัวเลขจะพุ่งไปอยู่ที่กว่า 60,000 ยูนิต
“คอนโดฯ ยังคงเป็นอสังหาฯ ดาวเด่นที่ได้รับความสนใจอยู่ในปี 2558 แต่คาดว่าจะมีจำนวนโครงการน้อยกว่าแนวราบ เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเน้นไปยังกลุ่มที่มีความต้องการซื้อจริงๆ เพื่อลดปัญหาเรื่องการเก็งกำไรและทิ้งดาวน์” นายสุรเชษฐกล่าว
ในส่วนของกำลังซื้อในปีนี้นั้น เชื่อว่าจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาแม้จะไม่ถึงกับคึกคักเสียทีเดียวเนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สร้างความกังวลอยู่ อาทิ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อกำลังซื้อ โดยเฉพาะโครงการระดับกลาง – ล่าง รวมทั้งการท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติซึ่งจะมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เป็นต้น
สำหรับราคาของอสังหาฯ ในปีนี้ คาดว่าจะมีการปรับตัวขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 5 -10% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก แม้ว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันจะปรับลดลงมาแล้ว แต่ต้องเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายๆ เดือนจึงจะมีผลต่อต้นทุนในการก่อสร้าง หรือค่าขนส่ง
เนื่องจากในปัจจุบันที่ดินในทำเลไพร์มของเมืองเริ่มหายากและมีราคาแพง ซึ่งหากผู้ประกอบการสามารถหาพื้นที่มาพัฒนาโครงการได้ เชื่อว่าราคาที่จะเคาะออกมาขายต้องไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร หรืออาจจะขึ้นไปมากกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตรได้
อย่างไรก็ดี การที่ภาครัฐมีแผนที่จะขยายเส้นทางรถไฟฟ้า โดยในปีนี้มีแผนที่จะเปิดการประมูลเส้นทางใหม่ๆ อีกหลายสาย เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยให้มีการขยายตัวออกไปตามแนวเส้นทางเหล่านั้นมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการเองก็ต้องการควบคุมให้ราคาขายไม่สูงเกินไป ทำให้โครงการที่มีราคาไม่แพงจำต้องอยู่ไกลออกไปจากพื้นที่
ด้านนางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่าทางเลือกของกลุ่มผู้ซื้อที่มองหาคอนโดฯ ในทำเลไพร์มของกรุงเทพฯ แต่ต้องการจ่ายในราคาที่ต่ำกว่าที่โครงการใหม่ๆ เปิดขายนั้น ควรเลือกยูนิตที่เหลืออยู่ในโครงการที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ อาคารในรูปแบบโลว์ไรส์ อาคารเก่า หรืออาคารที่อยู่ในทำเลที่ด้อยลงไป ส่วนคนที่เป็นเจ้าของคอนโดฯ เก่าในทำเลดีๆ นั้น เชื่อว่าราคารีเซลของโครงการที่มีการดูแลรักษาดี มีแนวโน้มสูงขึ้นมากเช่นกันในปี 2558 นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่