กูรูธรรมะ โดยพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโตและพระวิทยากรทีมงานธรรมะเดลิเวอรี่ ให้คุณดำเนินชีวิตตั้งอยู่บนสติและความไม่ประมาท พบกันทุกสัปดาห์
ไม่นานมานี้อาตมานั่งรถไปบรรยายธรรมที่แห่งหนึ่ง และพบคุณโยมผู้หญิงท่านหนึ่งกระเตงลูกไปด้วยทำงานไปด้วย ยืนขายของอยู่ข้างทาง เห็นแล้วก็คิดไปว่า “Working Woman ตัวจริงเลยนะเนี่ย”
ผู้หญิงเป็นเพศที่อึดมากนะคุณโยม เห็นดูอ่อนแอ นุ่มนวล ไร้พิษสงแบบนั้นก็จริง แต่พอเอาเข้าจริง ทั้งอึด ทั้งทน ทั้งใจสู้ ยิ่งกว่าผู้ชายเสียอีก
ดูอย่างเวลาคลอดลูกเป็นตัวอย่าง เจ็บแทบขาดใจ แต่ก็เบ่งลูกออกมาได้ แล้วยังมีหน้ามาบอกหน้าตาเฉยว่า “เจ็บมากค่ะ แต่คิดว่าจะมีอีก”
แต่ก็เพราะความอ่อนแอ นุ่มนวลของผู้หญิงนี่แหละคุณโยม ที่ทำให้ถูกยัดเยียดงานประเภทงานบ้าน งานที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนและความเข้าใจอย่างการเลี้ยงลูก สรุปแล้วคือความเป็นคนนุ่มนวล และละเอียดของผู้หญิงเลยทำให้ต้องรับหน้าที่ดูแลกิจการงานบ้านไปโดยปริยาย
แต่พอมาตอนนี้เริ่มมีการปฏิวัติกันซะแล้วสิคุณโยม ผู้หญิงเริ่มไม่อยากทำงานบ้านขึ้นมาบ้างแล้ว เริ่มไม่อยากอยู่บ้านวิ่งเล่นกับลูกทั้งวันบ้างแล้ว แต่ครั้นจะไหว้วานสามีมาช่วยก็ดูจะยากเหลือเกิน เพราะพ่อคุณเขาก็ทรนงมาก เป็นผู้ชายต้องทำงานนอกบ้านสิ จะมาทำงานบ้าน ดูแลลูกได้อย่างไรกัน แบบนี้ปัญหาก็เกิดขึ้นว่า แล้วตกลงหน้าที่ในบ้านทั้งหมดจะต้องให้ผู้หญิงทำเพียงคนเดียวจริงๆ หรือ?
คิดง่ายๆ อย่างนี้คุณโยม “บ้านนี้มีใครอยู่บ้าง?” ก็คุณโยมสามีและภรรยา “ลูกคนนี้เป็นลูกใคร?” ก็ลูกคุณโยมสามีและภรรยา ฉะนั้นคำตอบง่ายมากคือ “ความรับผิดชอบร่วมกัน”
บ้านที่อยู่ร่วมกัน นั่นหมายความว่าคุณโยมสามีภรรยาต้องช่วยกันดูแล จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ใครคนใดคนหนึ่งทั้งหมดไม่ได้ เช่นว่า ถ้าหลังคารั่วสามีจะให้ภรรยาปีนขึ้นไปเปลี่ยนกระเบื้องเองหรือเปล่า หรือกางเกงเป้าขาด คุณโยมภรรยาจะให้สามีมานั่งพับเพียบเอี้ยมเฟี้ยมเย็บผ้าหรือเปล่า ฉะนั้น คุณโยมต้องรู้จักแบ่งหน้าที่กันไปตามความสามารถ ตามความถนัดเพื่อแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน จะโยนให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้
คุณโยมสามีก็ลองช่วยงานเล็กๆ น้อยเช่นว่า ภรรยากำลังทำกับข้าวก็ช่วยเอาขยะไปทิ้ง รดน้ำต้นไม้ ตัดหญ้า ล้างรถ คุณโยมภรรยาก็ลองช่วยทำงานง่ายๆ อย่างเปลี่ยนหลอดไฟไปก่อน ไขก๊อกให้น้ำแน่นหนาไปพลางๆ การช่วยเหลือกันเช่นนี้อย่าไปคิดว่า งานในบ้านเป็นงานผู้หญิง งานหนักๆ เป็นงานผู้ชาย จนแบ่งแยกกันอย่างชัดเจนและนำมาเปรียบเทียบกันเองว่าใครทำน้อยกว่าใคร เพราะสุดท้ายแล้วคุณโยมก็ต้องมาทะเลาะกันกับแค่เรื่องทำไมไม่ทิ้งขยะ ทำไมไม่ให้ข้าวหมา
การเลี้ยงลูกก็เช่นกัน แม้จะเป็นงานละเอียดอ่อน และต้องอาศัยความรับผิดชอบของคนเป็นแม่เป็นหลัก แต่คุณโยมผู้ชายก็สามารถช่วยได้เช่นกัน อย่างการเปลี่ยนผ้าอ้อม กล่อมนอน หรือลุกมาชงนมตอนดึกๆ เพราะหน้าที่นี้สำคัญมากคุณโยม
แม้ผู้หญิงจะอึดแค่ไหน แต่ความเหนื่อยล้ามันก็มี ฉะนั้นคุณโยมสามีต้องช่วยแบ่งเบางานนี้ไป ลูกก็ลูกเราเอง คุณโยมจะไม่ดูแลบ้างเลยก็ใช่ที่ เพราะถ้าขืนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของภรรยาเพียงคนเดียว ไม่แน่ลูกอาจจะลืมไปก็ได้ว่ามีพ่อกับเขาด้วย เพราะเห็นแต่หน้าแม่ทั้งวัน
การเลี้ยงลูกนี่ทิ้งกันไม่ได้เลยนะคุณโยมต้องร่วมด้วยช่วยกันทั้งบ้าน อาจร่วมเอาปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา มากันทั้งเหง้านั่น แหละมาช่วยกัน ต้องสนใจทุกกิจกรรมและความเคลื่อนไหวของลูกเลยคุณโยม อย่างในโฆษณาที่วันพ่อของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ทั้งโรงเรียนเขาพาพ่อไปหมด แต่เด็กคนนี้ต้องพาป้าข้างบ้านไปแทนเพราะพ่อไปทำงาน นั่นมันก็เกินไป ต้องหาเวลาให้ลูกบ้าง
ฉะนั้น งานทุกอย่างที่เป็นกิจกรรมในครอบครัว ไม่ใช่เรื่องที่เราจะโยนให้ใครคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบทั้งหมด ต้องช่วยเหลือกัน คุณโยมลองคิดดูซิว่า ถ้าคุณโยมผู้ชายมีหน้าที่หาเงินเข้าบ้าน ภรรยาก็ปล่อยให้หน้าที่นี้เป็นของสามีไปเลยคนเดียว มันก็เหนื่อยก็หนักและกลายเป็นภาระที่ทำให้เครียดมากขึ้นอีก เจริญพร
บทความนี้ได้รับอนุญาตในการเผยแพร่อย่างเป็นทางการจากทีมงาน พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต หากท่านต้องการนิมนต์พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต หรือพระวิทยากรทีมงานธรรมะเดลิเวอรี่ กรุณาติดต่อที่ dhammadelivery2556@gmail.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่