คาดเทศกาลกินเจเงินสะพัดสวนกระแสเศรษฐกิจซึม

นักวิเคราะห์คาดเทศกาลกินเจปี 58 เม็ดเงินค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจของคนกรุงจะสะพัดกว่าปีที่ผ่านมา สวนกระแสเศรษฐกิจซึม เมนูข้าวราดแกง นมถั่วเหลืองและผลไม้จะได้รับความนิยมแซงหน้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารเจแช่แข็ง

จากบทวิเคราะห์โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยเกี่ยวกับเทศกาลกินเจปี 2558 พบว่าในปีนี้ คนกรุงเทพฯ สนใจหันมากินเจมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานรุ่นใหม่เนื่องจากเทรนด์รักษาสุขภาพกำลังมาแรง รวมไปถึงการกินเจตามกระแสเทศกาลที่ได้รับแรงหนุนจากคนใกล้ตัว แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังสามารถปรับตัวได้ เพราะการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลนี้ ส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายที่เน้นด้านอาหารและเครื่องดื่มเจเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเป็นประจำอยู่แล้วในช่วงวันปกติ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนจากอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ใช่เจมาเป็นเจ

สำหรับช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม ถึง 21 ตุลาคม 2558นั้น คาดว่าจะมีเม็ดเงินใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจในกรุงเทพฯ สะพัดกว่า 4,200 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 13.5 หรือมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 270 บาท/ คน/ วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยวันละ 240 บาท/ คน/ วัน

เมนูอาหารเจยอดฮิตของคนกรุงเทพฯ ได้แก่ เมนูข้าวราดแกง/ กับข้าวตักขาย ตามมาด้วยเมนูอาหารเส้นและต้ม อย่างไรก็ดี เนื่องจากกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง ส่งผลให้เมนูเพื่อสุขภาพหรือเมนูอาหารคลีนได้รับความนิยมแซงหน้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและอาหารเจแช่แข็ง ในขณะที่เมนูอาหารว่างที่ได้รับความนิยมยังคงเป็นนมถั่วเหลืองและผลไม้ เนื่องจากสามารถซื้อหามารับประทานได้ง่ายและดีต่อสุขภาพ

“การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มเจในช่วงเทศกาลกินเจของคนกรุงเทพฯ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ทั้งจำนวนคน จำนวนมื้อที่บริโภค ทำให้เม็ดเงินเพื่อการใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราวร้อยละ 10-15 ต่อปี” บทวิเคราะห์กล่าว

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่