จากการศึกษาในเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุนระหว่างกลุ่มที่มีการศึกษาค้นคว้าและเข้าใจในกลไกของตลาดและกลุ่มที่ไม่ได้มีพื้นความรู้ในเรื่องเหล่านี้มาก่อน ปรากฏว่าคนกลุ่มแรกได้รับผลตอบแทนการลงทุนมากกว่าอย่างมีนัยยะสำคัญ DDproperty มีทิปส์ในการเตรียมตัว เพื่อก้าวสู่การเป็นนักลงทุนที่รอบคอบ
- ระวังคำแนะนำจากพวกที่บอกว่าตนคือ “ผู้เชี่ยวชาญ”
บางทีคำแนะนำ, กราฟ, ตัวเลขและการนำเสนอที่ดูสวยงามอาจจะส่งผลให้คุณ “เจ๊ง” ได้ ที่อเมริกาได้มีการผลักดันให้มีการเข้าไปตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ที่กล่าวอ้างตัวเองว่าคือผู้เชี่ยวชาญเพื่อปกป้องนักลงทุนจากคำพยากรณ์ที่อาจส่งผลลัพธ์ทางลบ แต่ทั้งนี้หน้าที่ในการตรวจสอบที่ปรึกษาหรือโบรกเกอร์ของคุณควรจะเป็นสิ่งที่คุณจะต้องให้ความใส่ใจเป็นอันดับแรกๆ โดยคำถามเบื้องต้นที่คุณควรถามจากโบรกเกอร์ของคุณ เช่น
-แบคกราวด์ทางด้านอาชีพและใบรับรองวิทยาฐานะ
-ข้อจำกัดเกี่ยวกับข้อมูลว่าเรื่องใดบ้างที่สามารถให้ได้และไม่สามารถให้ได้ หากผู้ลงทุนและที่ปรึกษามีความเห็นไม่ตรงกันจะทำอย่างไร (ส่วนใหญ่โบรกเกอร์จะเชียร์หลักทรัพย์ตัวที่ทำให้ตนได้รับค่าคอมมิชชั่นที่สูงและผู้ลงทุนควรจะตรวจสอบด้วยว่าหากสินทรัพย์อ้างอิงหรือหลักทรัพย์ที่ทำการลงทุนไปมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากนับจากวันลงทุน หมายถึงค่าธรรมเนียมที่จะต้องเพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่?)
-หลังจากคุณตั้งเป้าพอร์ตการลงทุนของคุณไว้แล้วตามคำแนะนำของโบรกเกอร์ โบรกเกอร์จะมีการติดตามสถานะของผู้ลงทุนว่าอยู่ใกล้กับเป้าหมายนั้นมากน้อยพียงใด
- รู้จักประเมินระดับความเสี่ยงที่รับได้
ก่อนจะทำการลงทุนใดๆ ก็ตาม คุณควรจะทำแบบประเมินความเสี่ยงในการลงทุนที่คุณสามารถยอมรับได้ (risk tolerance) เพื่อจะได้ทราบว่าตัวคุณเองนั้นสามารถแบกรับความเสี่ยงได้ถึงระดับใด โดยแบบสอบถามสามารถขอได้จากบริษัทหลักทรัพย์ที่คุณเลือกเปิดพอร์ตการลงทุนของคุณ
- อย่ามั่นใจจนเกินไป
อย่าพยายามคิดว่าตนคืออัจฉริยะในตลาดและอย่าหลงกับกำไรที่ตนทำได้เพียงไม่กี่ครั้ง ตัวแปรในตลาดมีมากมายกว่าที่คุณคิด อย่าให้อีโก้ของคุณนำไปสู่ความเสี่ยงในระดับที่มากจนเกินไป คุณอาจจะเจ็บได้หากตลาดไม่เป็นไปตามความคิดของคุณ นักลงทุนที่ดีควรจะรู้จัก “ถ่อมตน” ในการลงทุน
- ปรับพอร์ตให้หลากหลาย
อย่ามั่นใจกับหุ้นเพียงบางตัวจนมากเกินไปเพียงเพราะคิดไปเองหรือโบรกเกอร์แนะนำว่าหุ้นตัวนี้จะทะยานสูงแน่นอน มีคำแนะนำสั้นๆจาก Nassim Nicholas Taleb ซึ่งเป็นผู้ที่คร่ำหวอดในเรื่องความเป็นไปได้และโมเดลการป้องกันข้อผิดพลาดในการลงทุนว่า “เราไม่สามารถคาดเดาวันพรุ่งนี้ได้” (We just can’t predict.) เตือนกันอีกครั้งเกี่ยวกับตัวแปรที่มีมากมายทำให้เราไม่สามารถสร้างคำพยากรณ์ที่แม่นยำได้ DDproperty ขอแนะนำให้คุณเลือกหุ้นที่หลากหลายเข้าไว้พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลพื้นฐานของหลักทรัพย์เหล่านั้นด้วย วิธีนี้สามารถช่วยพอร์ตของคุณในภาวะตลาดขาลงได้
การลงทุนที่ไปได้ดีกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นคืออสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นนอกจากหุ้นแล้วคุณควรแบ่งส่วนเงินลงทุนของคุณให้กับอสังหาริมทรัพย์ด้วย
- คิดวิธีรับมือไว้ก่อน
นักลงทุนส่วนใหญ่มักมองหุ้นที่ตนเลือกในด้านบวกเสมอ แต่ให้ลองคิดกลับกันดูบ้างหากการลงทุนที่คุณเลือกนั้นส่งผลลัพธ์ที่เป็นลบ ดังนั้นก่อนที่จะลงทุนอะไรลองท้าทายกับตัวเองกับคำถามที่ว่า “หากมันไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด เราจะรับมือกับมันอย่างไร?” ลองพยายามหาเหตุผลว่ามีอะไรบ้างที่อาจทำให้ข้อสันนิษฐานของคุณนั้นผิดพลาด รู้จักคาดเดากับผลลัพธ์ที่เป็นลบเพื่อที่ว่าเมื่อเกิดขึ้นจริงคุณจะไม่ตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนก (panic) จนเกินไป
- เลือกหุ้นสะท้อนเศรษฐกิจประเทศ
คุณควรจะทราบว่าตอนนี้เทรนด์กลุ่มธุรกิจอะไรกำลังเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อน GDP หรือเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไปข้างหน้า แล้วเลือกหุ้นที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเหล่านั้น (แน่นอนว่าต้องหลากหลายด้วย)
ความรอบคอบก่อนการลงทุนคือสิ่งสำคัญที่นักลงทุนที่จะต้องมี ท่องไว้ว่า “นี่มันเงินของเราและเราควรจะรอบคอบในการใช้มัน”
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chaiyasit@ddproperty.com