เปิดทำเลทองอสังหาฯ ที่จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ รอบล่าสุดของทางรัฐบาล พร้อมชี้ชัด ใครยิ้มได้จากมาตรการดังกล่าว
หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีมาตรการทางการเงินเป็นสินเชื่อวงเงินสูงผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ และมาตรการทางการคลังในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยทุกระดับราคา โดยมีระยะเวลาใช้มาตรการ 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2558 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2559 รวมทั้งสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ซื้อบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทในช่วงระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2558 ถึงสิ้นปี 2559 โดยสามารถนำเอา 20% ของมูลค่าที่อยู่อาศัยที่ซื้อไปลดหย่อนภาษีเป็นระยะเวลา 5 ปีภาษี คิดเป็น 4% ต่อปีหรือสูงสุด 120,000 บาทต่อปี
สำหรับทำเลโครงการที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จพร้อมขายระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในโซนรอบนอกของกรุงเทพฯ อาทิ บางนา กม.กม.10-33, รังสิตคลอง 1-7, บางใหญ่-ราชพฤกษ์, หทัยราษฎร์ และบางซื่อ โดยโครงการเหล่านี้ กลายเป็นสินค้าฮอตที่คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ซื้อที่ต้องการได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าที่อยู่อาศัยที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทนั้น มีสัดส่วนมากที่สุดประมาณร้อยละ 58.5 ของจำนวนที่อยู่อาศัยที่เปิดขาย โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์ที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูง
สำหรับผู้ที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการในครั้งนี้ แม้รัฐจะตั้งเป้าในการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย-ปานกลางเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดนั้น ได้แก่ กลุ่มผู้ที่มีความพร้อมทางการเงิน และกำลังตัดสินใจจะซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า ในขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีสินค้ารอการขายและที่ก่อสร้างใกล้เสร็จในช่วงเวลา 6 เดือนต่อจากนี้ ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากมาตรการในครั้งนี้
ในขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์หรือ EIC ระบุว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย 10 อันดับแรก มีสินค้ารอขาย (backlog) ในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 รวมกันมูลค่าประมาณ 88,200 ล้านบาท และอีก 70,700 ล้านบาทในปี 2559
อย่างไรก็ดี EIC ตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการดังกล่าวอาจจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้โครงการที่อยู่อาศัยเร่งสร้างให้เสร็จเร็วขึ้น ซึ่งแม้จะส่งผลดีต่อธุรกิจต่อเนื่องอื่นๆ เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ของใช้ตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ แต่การเร่งการก่อสร้างอาจส่งผลให้เกิดปัญหาในด้านคุณภาพของสินค้าได้
“สภาวะตลาดที่อยู่อาศัยจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากมาตรการ แต่จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการในระยะสั้น เนื่องจากปัจจัยสำคัญยังคงเป็นเรื่องกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของประชาชน รวมไปถึงระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังเป็นข้อจำกัดของธนาคารในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย” บทวิเคราะห์ของ EIC ระบุ
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
