Space...กับนิยามของความไฮเอนด์ในแบบฉบับของไรมอนแลนด์

Kanchana Paha13 พ.ย. 2558

RL_kipsan beck

ท่ามกลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ดีกรีการแข่งขันเข้มข้นขึ้นทุกๆ วัน ผู้เล่นที่มีความได้เปรียบก็คือผู้ที่สามารถงัดจุดขาย ไม้เด็ด เพื่อครองใจผู้บริโภคเพราะนั่นหมายถึงการได้ส่วนแบ่งทางการตลาดที่ไม่ว่าจะเป็นส่วนแบ่งก้อนเล็กหรือก้อนใหญ่ก็ถือว่ามีมูลค่าที่สูงอยู่ แม้จะเป็นผู้เล่นรายกลางที่ปีหนึ่งไม่ได้เปิดตัวโครงการด้วยจำนวนที่หวือหวา แต่ผู้ประกอบการระดับมหาชนอย่าง “ไรมอนแลนด์” ก็ทดแทนตรงส่วนนี้ด้วยการสร้างความ “ว้าว” ให้กับทุกโครงการที่พัฒนา

“จำนวนอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราโฟกัส แต่ทุกโครงการที่เราประกาศว่าจะพัฒนา เราสามารถที่จะทำตามคำพูดนั้นด้วยการสร้างและส่งมอบทุกๆ โครงการได้ตามสัญญาที่ให้ไว้ใน “คุณภาพ” ที่เราเชื่อว่าผู้ที่ให้ความไว้วางใจซื้อโครงการของเราพึงพอใจ” คิพศาล เบ็ค ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสร้างแบรนด์ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

Mews Yenakat

ภาพจำลองโครงการมิวส์ เย็นอากาศ

แม้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2558 เพียง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบ้านหรูพร้อมที่ดินทำเลเมืองแห่งแรกในกลุ่มผลิตภัณฑ์ “ลิมิเต็ด เอดิชั่น” ในชื่อ “มิวส์ เย็นอากาศ บาย ไรมอน แลนด์” (Mews Yen Akat by Raimon Land) ราคาเริ่มต้น 75 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี

Mews Yenakat

มิวส์ เย็นอากาศ

และล่าสุด โครงการ “เดอะ ลอฟท์ อโศก” (The Lofts Asoke) คอนโดมิเนียมสไตล์อินดัสเตรียล ลอฟท์ใจกลางอโศก ที่เพิ่งเปิดพรีเซลครั้งแรกไปเมื่อ 6-8 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับที่ดีจากการเปิดขายรอบ VVIP ให้กับกลุ่มลูกค้าเก่าของบริษัท

The-Lofts-Asoke

เดอะลอฟท์ อโศก

แม้ทั้งสองโครงการจะเป็นสินค้าที่มีความแตกต่างกันในเชิงของรายละเอียด แต่ยังคงเป็นสินค้าที่พัฒนาออกมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงในทำเลเมือง ซึ่งถือเป็นตลาดที่ไรมอนแลนด์โฟกัสมาโดยตลอด นั่นทำให้ในช่วงที่ผ่านมา แม้สภาพเศรษฐกิจของประเทศจะอยู่ในช่วงชะลอตัว รวมถึงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่บริษัทแทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรจากปัจจัยลบในครั้งนี้

“ผมเชื่อว่ายังมีดีมานด์อยู่ในตลาด โดยเฉพาะในเซ็กเมนต์ที่เป็นตลาดระดับกลาง-บน เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนไทย หรือต่างชาติ แม้จะมีผู้ซื้อชาวต่างชาติบางกลุ่มหายไป แต่ก็มีกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาทดแทน สถานการณ์จะแตกต่างกับเซ็กเมนต์ระดับล่างหรือตลาดแมส โดยผู้ประกอบการในตลาดหลังนี้มักจะพบปัญหา นอกจากยอดขายที่ลดลงเพราะคนไม่ซื้อแล้ว กลุ่มที่จองไปแล้วแต่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง”

ผู้บริหารหนุ่มอธิบายว่า ดีเวลลอปเปอร์บางเจ้าเลือกที่จะดึงดูดให้คนซื้อโครงการของตนด้วยการเรียกเก็บเงินดาวน์ในอัตราที่น้อยเพียง 5-10% และเมื่อถึงช่วงที่จะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่หรือถึงกำหนดโอนฯ ก็ไม่สามารถทำได้เพราะไม่มีเงินก้อนใหญ่ จะกู้จากสถาบันการเงินก็ไม่ผ่าน ทำให้ต้องปล่อยให้หลุดดาวน์ไป ในขณะที่ไรมอนแลนด์เก็บเงินดาวน์ในอัตราที่ค่อนข้างสูงคือ 25% สำหรับโครงการระดับไฮเอนด์ และ 35-40% สำหรับโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี ซึ่งเท่ากับเป็นการสกรีนความสามารถของผู้ซื้อในระดับหนึ่ง และเท่าที่ผ่านมา บริษัทไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยอัตราที่ลูกค้าทิ้งดาวน์มีต่ำกว่า 1%

เมื่อคนส่วนใหญ่มองว่า นาทีนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีของตลาดระดับไฮเอนด์ ซึ่งเมื่อพิจารณาลงไปในเซ็กเมนต์ดังกล่าว จะพบว่ามีการแข่งขันอยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

“นอกจากผู้ประกอบการที่โฟกัสตลาดไฮเอนด์มาโดยตลอดอย่างไรมอนแลนด์แล้ว ยังมีผู้ประกอบการตลาดระดับกลางที่ขยายเซ็กเมนต์ขึ้นมาลองตลาดระดับบนอีกเช่นกันเพราะมองว่าเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั่น ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการเหล่านั้นเข้าใจถึงคำว่า “ไฮเอนด์” มากน้อยแค่ไหน เพราะความไฮเอนด์ไม่ได้วัดจากแค่ราคาขายต่อยูนิต หรือต่อตารางเมตรที่สูงลิ่ว แต่หมายรวมถึงทำเลที่ต้องดีจริง คุณภาพของสินค้า ดีไซน์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่มีคุณภาพของผู้ที่ซื้อห้องชุดหรือบ้านจากโครงการนั้นๆ เป็นองค์ประกอบร่วมด้วย”

คิพศาลยกตัวอย่างถึงแบรนด์ “เดอะลอฟท์” ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สร้างชื่อให้กับไรมอนแลนด์ และเป็นแบรนด์ที่มีความชัดเจน

“ก่อนหน้า เดอะลอฟท์ อโศก เราได้พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์เดอะลอฟท์มาก่อน เริ่มจากเดอะลอฟท์ สาทร ต่อด้วยลอฟท์ เย็นอากาศ (พัฒนาภายใต้ทีมบริหารเก่า) และภายใต้การดำเนินงานของทีมบริหารชุดใหม่ก็มี โครงการเดอะลอฟท์ เอกมัย ซึ่งมาถึงจุดนี้ แบรนด์เดอะ ลอฟท์เริ่มมีความชัดเจนในสายตาผู้บริโภคมากขึ้นว่าเป็นแบรนด์ที่สะท้อนถึงดีไซน์แบบ Industrial style ที่มีความดิบ (Raw) เล็กๆ ดูเรียบแต่แฝงไปด้วยความชิค ความเก๋ เหมือนคอนโดฯ ที่พบได้ในนิวยอร์ก โซโห หรือไทรเบกาในอเมริกา”

The-Lofts-Asoke

“เมื่อความเป็น “เดอะลอฟท์” ได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อ เราจึงตัดสินใจเดินหน้าต่อยอดการพัฒนาแบรนด์ดังกล่าวต่อ โดยเน้นจุดขายในเรื่องของ “Space” ที่มีความกว้าง โปร่ง โล่ง ความสูงจากพื้นถึงเพดาน อย่างที่เดอะลอฟท์ อโศก บริเวณโซนลอฟท์จะอยู่ที่ 3.2 เมตรซึ่งเราเชื่อว่าเกินกว่าความสูงมาตรฐานของตลาด ชั้น 31 ขึ้นไปเป็นยูนิตแบบดูเพล็กซ์ทั้งหมด ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 5.7 เมตร ห้องรับแขก ห้องครัว และห้องทานข้าว เลย์เอาท์จะเปิดโล่ง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในลอฟท์จริงๆ ในส่วนของสิ่งอำนวยควาสะดวกภายในโครงการก็มีการพัฒนาในรูปแบบที่เป็นลอฟท์จริงๆ เน้นความสูงแบบ Double Height และ Triple Height อย่างบริเวณล็อบบี้เพดานสูง 18 เมตร มีส่วนที่เป็น Intelligent Working Space ที่เป็น Co-working Space ความสูงแบบ Double Height สรุปคือเราพยายามพัฒนาความเป็น “ลอฟท์” เข้าไปในองค์ประกอบต่างๆ ของโครงการ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การสร้างแบรนด์หรือคอนเซ็ปต์ขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อสามารถสัมผัสได้จริงๆ”

The-Lofts-Asoke

สำหรับโครงการเดอะ ลอฟท์ อโศก มูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท จะพัฒนาเป็นอาคารชุดพักอาศัยความสูง 45 ชั้น จำนวน 211 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการขนาด 1.5 ไร่ (ประมาณ 2,663 ตารางเมตร) ติดกับถนนอโศก ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีเพชรบุรีและแอร์พอร์ต ลิงค์สถานีมักกะสัน 150 เมตร โดยยังคงคอนเซ็ปต์และความหรูหราตามแบบฉบับของแบรนด์ในสไตล์ Industrial Lofts ห้องชุดประกอบด้วย ห้องสไตล์ลอฟท์แบบชั้นเดียวจำนวน 184 ยูนิต ขนาด 35-87 ตารางเมตร แบบ 1 และ 2 ห้องนอน อยู่บริเวณชั้น 3-30 ขณะที่ห้องชุดแบบสกาย ลอฟท์ โซน บนชั้น 31-44 เป็นแบบดูเพล็กซ์ รวม 27 ยูนิต แบบ 1-2-3 ห้องนอน มีขนาด 76-145 ตารางเมตร ห้องชุดทั้งหมดมาพร้อมกับที่จอดรถเพียงพอสำหรับ 211 ยูนิต ด้วยระบบจอดรถแบบอัตโนมัติ โดยเคาะราคาในช่วงพรีเซลเริ่มต้นที่ 6.1 ล้านบาท หรือเริ่มต้นที่ราว 208,000 บาทต่อตารางเมตร

The-Lofts-Asoke

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิด Sales Gallery พร้อมโชว์ห้องตัวอย่างของโครงการเดอะลอฟท์ อโศกในช่วงเดือนเมษายน 2559 ส่วนกำหนดเริ่มสร้างจะเป็นช่วงประมาณกลางปี 2559 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561

อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนที่จะนำโครงการดังกล่าวไปโร้ดโชว์ในต่างประเทศช่วงต้นปี 2559 โดยยังคงพิจารณาทำเล ซึ่งอาจจะเป็นที่ฮ่องกงหรือสิงคโปร์ที่บริษัทมีฐานลูกค้าอยู่ เพื่อผลักดันยอดขายให้ได้ราว 50% ก่อนที่จะเปิดสำนักงานขายในช่วงเดือนเมษายนต่อไป

RL_Kipsan Beck

 


เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com 

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ไรมอนแลนด์คว้ามือดีจากเพซฯดูแลด้านการตลาด

ไรมอน แลนด์ดึงมือดีจากเพซฯ นั่งแท่นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสร้าง

อ่านต่อ18 มี.ค. 2558

ไรมอนแลนด์เตรียมเปิดจองคอนโดฯย่านอโศก6-8พ.ย.นี้

ไรมอน แลนด์ เปิดตัวคอนโดฯ โครงการแรกของปี 58 คว้าที่ดินย่านอโศก ผุดแบรนด

อ่านต่อ4 พ.ย. 2558