กรมทางหลวงร่วมกับ วสท. เดินหน้าโครงการนำร่องยกระดับความปลอดภัยของถนนเพชรเกษม ช่วงแยกวังมะนาว-หัวหิน-อุทยานราชภักดิ์) ช่วงปีใหม่ เพื่อใช้เป็นต้นแบบไปพัฒนาถนนทุกสายทั่วประเทศ เตรียมพร้อมสู่การเป็นฮับคมนาคมและโลจิสติกส์แห่งอาเซียน
นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่ากรมทางหลวง และ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้ร่วมมือกันจัดทำโครงการนำร่องยกระดับความปลอดภัยของถนนทางหลวงหมายเลข 4 หรือ เพชรเกษม (ช่วงทางแยกวังมะนาว-หัวหิน-อุทยานราชภักดิ์) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือตามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ด้านวิชาการวิศวกรรมงานทางระหว่างกรมทางหลวง กับ วสท. โดยการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือ ในระยะ 3 ปี (2559-2561) มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาส่งเสริม ศึกษาวิจัยด้านวิศวกรรมงานทาง ให้เจริญก้าวหน้า สอดคล้องกับนโยบายเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนของกระทรวงคมนาคม
สำหรับการเลือกดำเนินโครงการนำร่องยกระดับความปลอดภัยบนทางหลวงหมายเลข 4 หรือถนนเพชรเกษมนั้น เนื่องจากเป็นทางหลวงสายหลักที่ใช้ในการเดินทางสู่ภาคใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจรเป็นจำนวนมากทำให้มีปริมาณการจราจรหนาแน่นและเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ
ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก วสท. กล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก 2 ด้าน ที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการคมนาคมขนส่งคือ 1.) การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพแวดล้อม เช่น การขยายตัวและเปลี่ยนตำแหน่งของชุมชน เมือง ธุรกิจ อุตสาหกรรม, มีการใช้รถยนต์ จักรยานยนต์และจักรยานมากขึ้น, มีรถพ่วงยาววิ่งบนทางหลวงจำนวนมาก, มีป้ายโฆษณาตามไหล่ทางทำให้บดบังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ รวมถึงการมีฝุ่นละอองจำนวนมากทำให้ลดประสิทธิภาพของสัญญาณและป้ายนำทางได้ และ 2.) การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ได้แก่ ยานพาหนะมีขนาดใหญ่มีรถพ่วงที่ยาวขึ้น, มีการพัฒนายานพาหนะให้มีอัตราเร่งดีขึ้น ความเร็วมากขึ้น, รถขนาดเล็กมีมากขึ้นและสมรรถนะสูงขึ้น และอีกประการหนึ่งแสงสว่างของป้ายโฆษณา LED สว่างจ้าและเป็นลักษณะวีดีโอทำให้กระทบและลดประสิทธิภาพในการมองเห็นของผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
จากสถิติ ไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 26,000 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคมราว 160,000 ล้านบาท
สำหรับแผนในโครงการนำร่องยกระดับความปลอดภัยของถนนทางหลวงหมายเลข 4 (ช่วงทางแยกวังมะนาว-หัวหิน-อุทยานราชภักดิ์) รวมระยะทางประมาณ 111 กิโลเมตร ประกอบด้วย 3 ระยะ คือแผนระยะเร่งด่วนซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุงแล้วบางส่วนแล้ว และกำหนดแล้วเสร็จก่อนเทศกาลปีใหม่ เช่น การตัดแต่งต้นไม้เพื่อกำจัดสิ่งกีดขวางในการมองเห็น, การทำความสะอาดป้ายจราจร, การติดตั้งป้ายนำทางหรือขยายขนาดป้ายนำทาง, การติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและราวกันอันตรายในจัดวิกฤติ เป็นต้น ส่วนแผนระยะกลางและระยะยาวดำเนินการหลังเทศกาลปีใหม่ 2559 เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ดูดซับแรงปะทะจากการชน เพื่อยกระดับความปลอดภัยอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่