เซ็นจูรี่21ชี้ตลาดอสังหาฯโตได้ท่ามกลางปัจจัยลบ

Kanchana Paha12 ก.พ. 2558

direction

เซ็นจูรี่ 21 ชี้ตลาดอสังหาฯยังไม่น่าห่วงแม้ภาคเศรษฐกิจยังแกว่งทำกำลังซื้อชะลอ เชื่อปัจจัยบวกต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหนุนธุรกิจอสังหาฯ โตต่อได้ เพียงแต่ต้องปรับตัวและระมัดระวังการลงทุนเพิ่มขึ้น

นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่าภาพรวมของตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2558 ยังคงไม่อยู่ในภาวะที่น่าห่วง โดยคาดว่าปีนี้จะมีการเติบโตขึ้นประมาณ 5-10% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ ในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลน่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่กว่า 2.5-3 แสนล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้เชื่อว่าการลงทุนในปีนี้จะมีผู้เล่นรายใหม่ที่เป็นกลุ่มทุนจากอุตสาหกรรมอื่น, ผู้ประกอบการที่เคยมีชื่อเสียงในอดีตกลับคืนสู่สังเวียน รวมถึงบริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายขยายขอบข่ายธุรกิจสู่การพัฒนาโครงการจัดสรรขายทั้งบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม

“แม้ภาคธุรกิจจะเผชิญกับปัจจัยลบ แต่ที่อยู่อาศัยก็ยังเป็นปัจจัยสี่ที่จำเป็น ในแต่ละปีจะมีกำลังซื้อเกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ ทั้งที่เกิดจากการซื้อเป็นบ้านหลังแรก หรือการซื้อเพื่อลงทุน ทำให้มีการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ยังคงมีเพียงแต่ว่าต้องเดินหน้าลงทุนด้วยความระมัดระวัง แต่อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามมาจากการที่ประเทศไทยนับถอยหลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในวันที่ 1 มกราคม 2559 คาดว่าจะช่วยเป็นแรงสนับสนุนให้มีดีมานด์ใหม่เข้ามาเพิ่มและผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง” นายกิติศักดิ์ กล่าว

ซีอีโอของเซ็นจูรี่ 21 มองว่า สิ่งที่น่ากังวลคือภาวะเงินฝืด ในขณะที่ราคาที่ดินมีการปรับขึ้นตลอดอาจส่งผลให้กำลังซื้อตามไม่ทันราคาที่ดินหรือราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้น ซึ่งอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ตลาดรวมในปีนี้เติบโตในระดับที่ไม่หวือหวานัก ขณะที่ตลาดในต่างจังหวัดอาจชะลอตัวทั้งด้านการขายรวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ ต่างจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน ขณะเดียวกันธนาคารจะมีความเข้มงวดใช้นโยบายการให้เครดิตการปล่อยกู้โครงการที่รัดกุมเพื่อตอบโจทย์ด้านการบริหารสินทรัพย์ให้มีคุณภาพมากขึ้นและเข้มงวดขึ้นกับกลุ่มที่ขอสินเชื่อบ้านหลังที่2 เพื่อรักษาคุณภาพของสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้อยู่ในเกณฑ์ดี

“หากโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐได้รับอนุมัติและเร่งดำเนินการ มีการเบิกจ่ายงบประมาณจะส่งผลบวกต่อธุรกิจอสังหาฯ เพราะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้าและรถไฟทางคู่จะเปิดพื้นที่การลงทุนใหม่ๆ ขึ้น และการเชื่อมต่อของเส้นทางจะช่วยให้การเดินทางของประชาชนจากปริมณฑลด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นทำให้เกิดการขยายการลงทุนแนวราบ-แนวสูงไปทั่ว และยังเกิดศูนย์กลางเศรษฐกิจหลากหลาย รวมทั้งยังสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนอีกจำนวนมาก” นายกิติศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

พลัสฯเผยแนวโน้มตลาดรีเซลคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าปี58สดใส

พลัสฯ เผยสยาม-ราชเทวี-พญาไทยังคงเป็นย่านที่คอนโดฯ ขายดีสุด ในขณะที่กรุ

อ่านต่อ9 ก.พ. 2558

เปิดทำเลอสังหาฯยอดนิยมในหมู่อภิมหาเศรษฐีทั่วโลก

สิงคโปร์ติด 1 ใน 10 ทำเลยอดนิยมที่อภิมหาเศรษฐีทั่วโลกนิยมมาซื้ออสังหาฯ ห

อ่านต่อ11 ก.พ. 2558