ผู้ซื้อแดนลอดช่องส่วนใหญ่มองราคาอสังหาฯ ในประเทศของตนแพงเกินไป แต่ก็ยังคงมีความสนใจที่จะซื้อคอนโดฯ อย่างต่อเนื่องในปีนี้ จากการสำรวจล่าสุดโดยเว็บไซต์ศูนย์กลางข้อมูลอสังหาฯ ชั้นนำของเอเชีย พร็อพเพอร์ตี้กูรู
ผลการสำรวจดังกล่าวได้มาจากความเห็นของผู้ซื้อชาวสิงคโปร์จำนวน 940 คนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 ที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่าชาวสิงคโปร์ 3 ใน 5 มองว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศของตนแพงเกินไป อย่างไรก็ดี ผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 70% ยังคงต้องการซื้อคอนโดมิเนียม ในจำนวนนี้ 43% มีแผนที่จะซื้อในช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ โดยเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อมาจากราคาและสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการนั้นๆ
นอกจากนี้ พร็อพเพอร์ตี้กูรูยังได้ออกบทวิเคราะห์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ ประจำปี 2558 อีกด้วย โดยมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยในแดนลอดช่องปีนี้จะยังคงลดความร้อนแรงลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ แม้จะมีโอกาสที่จะร้อนแรงขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก็ตาม
ภายใต้มาตรการควบคุมความร้อนแรงของตลาด โดยเฉพาะการจำกัดสัดส่วนอัตราหนี้ที่ต้องจ่ายทั้งหมด (Total Debt Servicing Ratio – TDSR) ทำให้ตลาดอสังหาฯ ของสิงคโปร์ไม่คึกคักเท่าที่ควร ผู้ซื้อมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อบ้านที่มีขนาดเล็กลง ในราคาที่จับต้องได้และเป็นเจ้าของได้ในทันที
บทวิเคราะห์ดังกล่าวยังแนะนำว่าผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับราคาขายเพื่อให้โครงการของตนอยู่ในระดับราคาที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่สามารถจับต้องได้ เช่น คอนโดฯ ขนาดกลางที่เจาะกลุ่มผู้ซื้อในตลาดแมส ขนาด 800-1,100 ตารางฟุต (75-103 ตารางเมตร) ควรมีราคาขายอยู่ที่ระหว่าง 900,000 -1,00,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (23.5-26 ล้านบาท)
ทั้งนี้ โครงการคอนโดฯ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า MRT มักจะมีมูลค่าสูงขึ้น โดยราคาจะปรับขึ้นเฉลี่ย 10-15%
นอกจากนี้ บทวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าราคาอสังหาฯ ของสิงคโปร์จะยังคงพุ่งสูงต่อไปในปีนี้ แต่ปริมาณการซื้อ-ขายน่าจะลดลง โดยราคาอสังหาฯ ที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการเอกชนน่าจะเพิ่มขึ้นอีก 5-8% ในปีนี้ ส่วนราคารีเซลก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก 4-6%
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ www.PropertyGuru.com.sg
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่