คอลลิเออร์สฯ แนะจับตาซัพพลายคอนโดฯ ในตลาดพัทยา หลังมีจำนวนยูนิตที่รอโอนกรรมสิทธิ์ และยูนิตเหลือขายสูงถึง 19,300 ยูนิต ชี้ตลาดน่าจะยังไม่ฟื้นตัวในปี 2558 นี้
จากบทวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาฉบับล่าสุดโดยคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พบว่า ณ สิ้นปี 2557 ที่ผ่านมา อัตราการขายเฉลี่ยในตลาดคอนโดมิเนียมเมืองพัทยาอยู่ที่ประมาณ 72% ทำให้มีคอนโดมิเนียมเหลือขายประมาณ 19,300 ยูนิต และอาจจะมากกว่า 22,000 ยูนิตเมื่อรวมกับคอนโดมิเนียมของนักลงทุน และผู้ที่เก็งกำไร
พื้นที่จอมเทียนยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการในการพัฒนาคอนโดมิเนียมในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากยังมีที่ดินเหลืออยู่อีกมาก และมีราคาที่ดินต่ำกว่าในทำเลอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีทำเลใหม่เกิดขั้นหลังจากการเปิดถนนจอมเทียนสายสอง โดยพื้นที่จอมเทียนมีคอนโดมิเนียมเหลือขายประมาณ 7,360 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 38% ของยูนิตเหลือขายทั้งหมด มากที่สุดในตลาดคอนโดมิเนียมเมืองพัทยา เนื่องจากมีคอนโดมิเนียมจำนวนมากเปิดขายในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา และบางโครงการมีจำนวนมากกว่า 2,000 ยูนิต
ทั้งนี้ หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคอนโดมิเนียมพัทยาในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ที่ผ่านมาคือภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงไม่ฟื้นตัว ประกอบกับจำนวนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ลดลง โดยเฉพาะชาวรัสเซีย ซึ่งการที่ค่าเงินรัสเซียอ่อนค่าลงได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดคอนโดมิเนียม เพราะชาวรัสเซียเป็นกลุ่มลูกค้าหลักในตลาดเมืองพัทยา ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปรับแผนการจ่ายเงินของผู้ซื้อชาวรัสเซียใหม่ โดยคอนโดมิเนียมกว่า 11,000 ยูนิตที่เหลือขายอยู่ในตลาดมีราคาขายต่ำกว่า 60,000 บาทต่อตารางเมตร ดังนั้นผู้ประกอบการจึงชะลอการเปิดขายโครงการระดับกลางถึงล่าง และให้ความสำคัญกับตลาดระดับบนมากขึ้น
อย่างไรก็ดี พัทยาก็ยังมีกลุ่มผู้ซื้อใหม่เข้ามาในตลาด ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวจีน และชาวเอเซียบางกลุ่ม
สำหรับทำเลที่มีราคาขายเฉลี่ยสูงสุดในพัทยา ได้แก่ ย่านวงศ์อมาตย์ ซึ่งมีโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์หลายโครงการเปิดขายในพื้นที่นี้ ส่วนทำเลที่มีราคาขายเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ย่านจอมเทียนที่มีโครงการระดับกลางลงไปเปิดขายเป็นจำนวนมาก
ส่วนแนวโน้มการปรับราคาขายในตลาดพัทยาในปีนี้นั้น มีโอกาสค่อนข้างน้อย เนื่องจากมียูนิตเหลือขายจำนวนมาก และยังมีคอนโดมิเนียมมือสองที่พร้อมขายจำนวนหนึ่งอีก ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายชะลอการปรับเพิ่มราคาขายในปีนี้ โดยเฉพาะในโครงการระดับกลางลงไป ในขณะที่โครงการระดับกลางขึ้นไปคาดว่าจะปรับราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากปี 2557 แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาดในปี 2558 ด้วย
“ปัญหาเรื่องของค่าเงินรัสเซียมีผลโดยตรงต่อตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองพัทยา และอาจจะต่อเนื่องไปในปี 2558 สวนน้ำบางแห่งที่กำลังก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงระหว่างปี 2557 – 2559 ซึ่งหากทุกแห่งเปิดให้บริการคาดว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติจำนวนมากให้มาเมืองพัทยา และทำให้ความนิยมมากขึ้นไปอีก” รายงานระบุ
ในฝั่งผู้ประกอบการเอง บางรายเริ่มหันไปให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น เช่น ชาวจีน และสแกนดิเนเวียน เพื่อทดแทนชาวรัสเซียที่ขาดหายไป ส่วนผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ก็ตัดสินใจชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ในพัทยา และหันไปให้ความสำคัญกับพื้นที่รอบๆ นิคมอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อรองรับกำลังซื้อของคนที่ทำงานในพื้นที่ดังกล่าวแทน
อย่างไรก็ดี นอกจากผู้ประกอบการในพื้นที่แล้ว ยังมีผู้ประกอบการชาวจีนบางรายมีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่ในเมืองพัทยาในปีนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่จอมเทียน และนาจอมเทียน รวมทั้งผู้ประกอบการชาวไทยจากกรุงเทพฯ ที่ประกาศจะเปิดขายโครงการใหม่ในปี 2558 เช่นกัน แต่ในภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองพัทยายังคงไม่ฟื้นตัว และได้รับผลกระทบจากปัญหาเรื่องของซัพพลายล้นตลาด
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
