เปิดลายแทงชมดอกซากุระบานที่ญี่ปุ่น

ช่วงสงกรานต์แบบนี้ วันหยุดเพียบจนวางแผนไม่ทันว่าจะไปไหนดี จะอยู่กับบ้านก็ร้อน จัดกระเป๋าหลบไอแดดจากเมืองไทยไปญี่ปุ่นกันดีกว่า อากาศกำลังสบาย แถมยังอินเทรนด์ไม่แพ้ใครเพราะช่วงนี้กำลังถึงฤดูกาลที่ดอกซากุระทยอยออกดอก หรือใครที่วางแผนจะไปญี่ปุ่นอยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดกับแหล่งชมดอกซากุระที่เราสืบเสาะค้นหามาฝากในครั้งนี้

Kanazawa (8-16 เมษายน 2558)

ภาพ via twoyeartrip.com

จากสถานีรถไฟโตเกียว เราขึ้นรถไฟเจอาร์ โฮขุริขุ ชินคันเซน ไปยังสถานีคานาซาว่า ซึ่งห่างออกไปราวสองชั่วโมงครึ่งเท่านั้นก็นำเรามาสู่เมืองที่เก่าแก่แห่งนี้ ซึ่งมีความเจริญจะเป็นรองก็เพียงเมืองโตเกียวเท่านั้น จากสถานีเราขึ้นรถประจำทางต่อไปอีกประมาณ 20 นาทีเพื่อไปยังสวนเคนโระคึน (Kenrokuen Garden) ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่คนเดินทางมาที่คานาซ่าว่าจะต้องมา เพราะสวนแห่งนี้จะได้รับการจัดอันดับว่ามีความสวยงามของแลนด์สเคปเป็นอันดับสามของญี่ปุ่น จากการผสานองค์ประกอบอย่างหิน น้ำ ต้นไม้ และสะพานเอาไว้อย่างลงตัว และมีการจัดดอกไม้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่แลดูแปลกตาอยู่เสมอ โดยเฉพาะดอกซากุระที่จะผลิบานช่วงกลางเดือนเมษายนในบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของสวนซึ่งงดงามสุดๆ สำหรับปีนี้มีการพยากรณ์ว่าจะมีดอกซากุระบานในช่วงวันที่ 8-16 เมษายน ซึ่งคล่อมช่วงหยุดสงกรานต์พอดีพอดีเลยล่ะ

Fukushima (13-21 เมษายน 2558)

ภาพโดย Natt Muangsiri via flickr 

แหล่งชมซากุระแห่งถัดไปอยู่ที่ฟูกูชิม่า จังหวัดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอนชู หลายคนคงคุ้นกับชื่อของฟูกุชิม่า จากข่าวการรั่วไหลของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และปิดกั้นเป็นพื้นที่อันตราย แต่พื้นที่ดังกล่าวมีขนาดเพียง 10% ของพื้นที่จังหวัดทั้งหมด จึงไม่ต้องกังวล เพราะที่ฟูกูชิมายังมีพื้นที่อื่นๆ ซึ่งปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวและสวยงามรอการค้นพบอยู่ จากสถานีฟูกุชิม่านั่งรถประจำทางไปเพียง 15 นาที เราก็จะเดินทางมาถึงสวนขนาดใหญ่ที่ชื่อว่าฮานามิยาม่า (Hanamiyama Park) ซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวนับพันที่โหวตให้ที่นี่เป็นสถานที่สุดยอดสำหรับการชมดอกซากุระ ซึ่งที่นี่จะบานช้ากว่าที่คานาซ่าว่า โดยจะเริ่มผลิดอกตั้งแต่กลางเดือนเมษายนต่อเนื่องไปถึงปลายเดือน ช่วง 13-21 เมษายน การถ่ายรูปที่นี่นอกจากจะได้ความสวยงามจากดอกซากุระจำนวนมากเป็นทิวแถวลดหลั่นกันตามพื้นที่เนินเขาแล้ว ยังมีฉากหลังคือภูเขาอัสซูม่าที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุมส่วนยอดอยู่อีกด้วย

Nagano (16-24 เมษายน 2558)

ภาพ via seduniatravel.com

เรายังคงปักหลักอยู่ที่เกาะฮอนชู แต่มุ่งตรงเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นหุบเขาและที่ราบสูงตอนกลางของเกาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของจังหวัดนากาโน่ ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลเลยจึงค่อนข้างเงียบสงบ และที่วางตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามนั้นก็คือปราสาทโบราณที่มีความสวยงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ชื่อว่า ปราสาทมัทสึโมโต้ (Mutsumoto Castle) ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี 1592-1614 แต่เผชิญกับช่วงสงครามและสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1635 ที่ปราสาทแห่งนี้เป็นอีกจุดที่ได้รับความนิยมในการมาชมดอกซากุระซึ่งขึ้นอยู่รายรอบปราสาท การถ่ายภาพที่นี่จึงได้ทั้งความสวยงามของดอกซากกุระและปราสาทมัทสึโมโต้ไปพร้อมๆ กัน อีกทั้งยังมีซากุระในสวนที่อยู่ด้านล่าง รวมไปถึงสองฝั่งของทางเดินร่มรื่นที่ทอดตัวขนาดไปกับฝั่งคลอง การเดินทางมาที่ปราสาทมัทสึโมโต้นั้นสามารถเดินมาจากสถานี เจ อาร์ มัทสึโมโต้ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือถ้านั่งรถประจำทางก็ใช้เวลาเพียง 5 นาที

Sendai (17-25 เมษายน 2558)

ภาพ via footage.framepool.com

เมืองถัดไปเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ปรากฎชื่อเมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นเมื่อ 4 ปีก่อนในฐานะเมืองที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิ แต่ความเสียหายนั้นไม่ได้กระทบต่อพื้นที่ใจกลางเมืองเลย ทำให้เมืองที่ทันสมัยแห่งนี้ยังคงดำรงอยู่ต่อไป การเดินทางมาที่เซ็นไดนั้นสามารถเดินทางด้วย รถไฟ จี เจ อาร์ จากสถานีโตเกียวมาที่สถานีเซ็นได จากนั้นต่อรถไฟไปยังสถานีนากามาชิ มินามิ แล้วเดินต่ออีก 30 นาที ก็จะพบกับลานกว้างๆ ของสวนมิกะมิเนะ (Mikamine Park) ซึ่งชมพูเพริศพริ้งไปด้วยสีชมพูของต้นซากุระเป็นร้อยๆ ต้น ที่โอบล้อมสนามหญ้ากว้างเอาไว้ ไม่ว่าหันไปมองทางไหนก็จะเห็นแต่ต้นซากุระเหมือนอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน โดยในปีนี้คาดว่าดอกซากุระจะบานที่เซ็นไดในช่วงวันที่ 17-25 เมษายน นอกจากสวนมิกะมิเนะแล้วใจกลางเมืองเซ็นไดยังมีสวนอีกสองแห่งซึ่งสามารถไปชมความสวยงามของดอกซากุระได้ ได้แก่ สวนทสึทสุจิกะโอคะ (Tsutsujigaoka Park) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีทสึสุจิกะโอคะ และสวนนิชิ (Nishi Park) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฮิโรเสะโดริ

Aomori (29 เมษายน – 7 พฤษภาคม)

ภาพ via himeishida.wordpress.com

ปิดท้ายที่จังหวัดอะโอโมริ ที่มาพร้อมกับจุดชมดอกซะกุระที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เป็นที่ตั้งของปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ปราสาทสามชั้นที่ตั้งตระหง่านเป็นสง่าแวดล้อมไปด้วยดอกซากุระ ปราสาทแห่งนี้เดิมทีเคยสูงถึงห้าชั้นแต่หลังจากเกิดเหตุเพลิงใหม้ก็มีการสร้างขึ้นใหม่เหลือเพียงสามชั้นเท่านั้น นอกจากจะมีหลายมุมให้ได้เก็บภาพประทับใจแล้วที่นี่ยังมีเรื่องราวสำหรับคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ให้ได้ศึกษากันด้วยนะ แต่ส่วนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นนั้นจะอยู่ที่สวนฮิโระซากิ (Hirosaki Park) เพราะที่นี่มีต้นซากุระมากกว่า 2,500 ต้น ขึ้นเรียงกันเป็นแนวและโน้มเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นซากุระที่สวยงาม ที่นี่ยังมีบริเวณสำหรับปิกนิคและมีเรือพายให้เช่าอีกด้วย สำหรับใครที่พลาดช่วงสงกรานต์ไปที่นี่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะดอกซากุระจะบานในช่วง 29 เมษายนถึง 7 พฤษภาคม สำหรับการเดินทางนั้นสามารถใช้บริการรถไฟ จี เจ อาร์ สายตะวันตก มาลงที่สถานี ฮิโระซากิ แล้วนั่งรถประจำทางมาอีกประมาณ 15 นาทีเท่านั้นเอง

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่