ในยุคที่ใครๆ ต่างให้ความสนใจกับการ “ให้เงินทำงานแทน” ที่การลงทุนกลายเป็นเรื่องสำคัญที่สามารถพยากรณ์สถานะทางการเงินในอนาคตของเราได้ แต่การลงทุนในหลายๆ ประเภทต้องใช้เวลาในการบ่มเพาะให้งอกเงย กว่าจะได้ผลตอบแทนให้ชื่นใจทำเอาหลายคนแทบขาดใจเพราะอดทนรอไม่ไหว เพราะเงินติดอยู่ในการลงทุนนั้นบางครั้งก็ทำให้เราพลาดที่จะซื้ออะไรที่อยากได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจและเติมเต็มด้านความรู้สึกทั้งนั้น ครั้งนี้เรามีไอเดียการลงทุนทางเลือกที่น่าสนใจที่นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจแล้ว ยังสามารถสนองความต้องการของเราไปในตัวอีกด้วย
กระเป๋าแบรนด์เนม
ภาพ via www.purseblog.com
“ลงทุนกระเป๋า” ไม่ใช่ข้ออ้างที่ฟังดูดีในการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบอีกต่อไป เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นหากมีความเข้าใจในการซื้อและตาถึงก็สามารถเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างงามอีกวิธีหนึ่งเลยล่ะ เริ่มจากการเลือกแบรนด์ของกระเป๋าที่เราจะลงทุนให้เป็น โดยกระเป๋าแบรนด์เนมที่สามารถลงทุนได้จะต้องไม่ใช่แบรนด์ที่มีการลดราคากระหน่ำอยู่ตลอด หรือมีการนำสินค้าออกมา On Sale แม้แต่ครั้งเดียว เพราะนั่นหมายถึงราคาที่ตกลงไปของกระเป๋า แบรนด์ที่ควรให้ความสนใจก็คือกระเป๋าที่ไม่เคยจัดโปรโมชั่นด้วยการลดราคาเลย เช่น Hermes, Chanel เป็นต้น สองแบรนด์นี้นอกจากจะไม่เคยลดราคาสินค้าแล้ว ยังมีนโยบายเชิงราคาที่ค่อนข้างแน่นอนที่จะปรับเพิ่มราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าสินค้าจะมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เมื่อระยะเวลาผ่านไปเราสามารถขายกระเป๋าออกไปในราคาแพงขึ้นแต่ยังคงมีคนยินดีจะซื้ออยู่เพราะก็ยังถูกกว่าราคาขายของกระเป๋าใหม่อยู่ดี
และเพื่อให้มั่นใจว่าราคาจะเด้งขึ้นได้ตามใจนึกก็ต้องลงทุนกับกระเป๋าที่เป็นรุ่นคลาสสิคเพราะความคลาสสิคของมันนี่แหละที่จะทำให้เป็นที่ต้องการของผู้คน ต่างจากรุ่นที่ออกมาเกาะกระแสตามเทรนด์ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้าหากอยากขายทีได้กำไรอู้ฟู่ก็ต้องเจาะจงเฉพาะรุ่นที่เป็น Limited Edition ไปเลย โดยเฉพาะบางรุ่นนั้นสามารถซื้อได้ในวงจำกัดเฉพาะลูกค้ากลุ่มวีไอพีเท่านั้น เงื่อนไขพวกนี้แหละที่จะเพิ่มความต้องการให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึงความพอใจที่จะจ่ายเงินก็สูงตามไปด้วย
ยกตัวอย่าง Hermes Birkin รุ่น Himalayan ซึ่งเป็นรุ่นที่หายาก ย้อมสีด้วยเทคนิคพิเศษ ทำออกมาจำกัดและขายให้กับลูกค้าที่ขาประจำเท่านั้น โดยรุ่น Birkin นี้จะมีแบบเดียวตลอดจึงไม่ตกยุค ทำให้ทุกวันนี้ราคากระเป๋ารุ่นนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวไปแล้ว ส่วนผู้ที่ลงทุนในกระเป๋านี้ส่วนใหญ่คือ นักแสดง และไฮโซที่ชื่นชอบแฟชั่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงอยู่แล้ว การลงทุนด้วยวิธีนี้จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบการแต่งตัวเป็นทุนเดิม โดยคุณสามารถศึกษาข้อมูลสินค้าแบรนด์เนมได้ที่ siambrandname.com
นาฬิกาแบรนด์เนม
ภาพ via red-luxury.com
เชื่อว่าการลงทุนด้วยนาฬิกาน่าจะเป็นทางเลือกที่ถูกใจคุณผู้ชาย เพราะเป็นเครื่องประดับเพียงไม่กี่ชิ้นที่อยู่คู่กายกับผู้ชายในแต่ละวัน และสะท้อนความเป็นตัวตน ไลฟ์สไตล์และรสนิยม สำหรับยี่ห้อนาฬิกาที่เหมาะแก่การลงทุนนั้นมีอยู่ด้วยกันสี่ยี่ห้อ ได้แก่ Patek Philippe, Rolex, Audemars Piguet และ Panerai แต่ก็ไม่ใช่นาฬิกาทุกรุ่นจะสามารถลงทุนได้หรอกนะ เพราะรุ่นที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาก็จะต้องมีคุณสมบัติคือ ผลิตออกมาน้อยหรือผลิตในโอกาสพิเศษ มีจำนวนจำกัดเท่านั้น เช่น Rolex Daytona, Rolex Submariner เป็นต้น เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วความต้องการเป็นเจ้าของก็จะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักสะสมที่ยินดีจ่ายเพื่อให้ได้นาฬิกาเข้าไปเก็บในคอลเลคชั่น สำหรับช่วงราคาที่เหมาะแก่การลงทุนในระยะสั้นคือช่วงไม่เกิน 500,000 บาท จะมีสภาพคล่องที่สูงกว่าระดับราคาที่สูงกว่านี้ โดยพบว่าราคาของนาฬิกาแบรนด์เนมเหล่านี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง 5-10% ต่อปี
นอกจากนี้ ควรลงทุนนาฬิกาในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะตกต่ำ และควรระมัดระวังเรื่องส่วนต่างจากอัตราแลกเปลี่ยน รุ่นของนาฬิกาที่ควรสนใจนั้นควรเป็นรุ่นที่มีหน้าตาโดดเด่น หรือผลิตด้วยวัสดุสูงค่า เช่น ทองคำขาว เป็นต้น ที่สำคัญคือต้องจับทิศทางความต้องการให้ได้โดยสังเกตจากนาฬิกาที่บุคคลสำคัญสวมใส่ รวมไปถึงนักแสดง ศิลปิน จะเป็นตัวชี้นำความต้องการได้ดี
รถยนต์คลาสสิค
ภาพ via galleryhip.com
ถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการลงทุนซึ่งเป็นที่นิยมมานานในหมู่ไฮโซที่ต้องการลงทุนในของที่มีมูลค่าทางจิตใจ และหากต้องขายก็ยังไม่ขาดทุน แม้ว่ากำไรนั้นอาจจะไม่มากเท่ากับการลงทุนประเภทอื่นๆ ก็ตาม ถ้าไม่นับกำไรที่ไม่ใช่ตัวเงินจากการได้ใช้ ได้ชมและได้สะสม มูลค่าของรถคลาสสิคนั้นเพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกับกระเป๋าหรือนาฬิกา คือเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นของเก่าที่เลิกผลิตแล้ว ทำให้ปริมาณในตลาดมีจำกัด แต่การเริ่มลงทุนรถคลาสสิคนั้นจะยุ่งยากกว่าตั้งแต่ขั้นตอนการหาซื้อ เมื่อซื้อมาแล้วรถส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีก็จะต้องมีการซ่อมแซม ซึ่งใช้เวลาและเงินทุนจำนวนมาก การหาอะไหล่มาเปลี่ยนสักชิ้นมีความลำบากมาก จนกระทั่งรถกลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์ใกล้เคียงกับสภาพเดิมที่สุด แล้วจึงขายออกไปให้นักสะสม
สำหรับรุ่นของรถยนต์คลาสสิคที่นิยมลงทุนจะต้องเป็นรุ่นที่คุ้นชินตาจากภาพยนตร์เรื่องต่างๆ หรือรถที่ศิลปินมีชื่อเสียงใช้อยู่ประจำ เช่น Mercedes Benz 190SL ปี1955 ซึ่งเป็นรุ่นที่เอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร็อคแอนด์โรล ใช้ในการเข้าฉากภาพยนตร์เรื่อง G.I.Blues จึงเป็นรุ่นที่ติดตาและชื่นชอบของนักสะสม ทั้งนี้ หากคิดจะลงทุนในรถคลาสสิคแล้วล่ะก็ คำแนะนำเบื้องต้นยังคงเป็นการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด
ทองคำ
ภาพ via malaysiaedition.net
การลงทุนในทองคำนับเป็นการลงทุนทางเลือกที่ค่อนข้างมีสภาพคล่องที่สูงกว่าการลงทุนในทางเลือกอื่นๆ ที่เรายกตัวอย่างมา นอกจากนี้ การลงทุนในทองคำยังมีทางเลือกที่หลากหลาย ถ้าหากมีความรู้ด้านทองคำค่อนข้างดี มีเงินทุนมากก็สามารถลงทุกเองได้ด้วยการซื้อทองคำเอาไว้ โดยมีตัวเลือกว่าจะซื้อเป็นทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณ
ทองคำแท่งนั้นเมื่อขายคืนจะไม่ต้องเสียค่ากำเหน็จ แต่ถ้าทองคำรูปพรรณเวลาซื้อ-ขายจะมีค่ากำเหน็จ แต่สามารถนำออกมาสวมใส่ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์เพิ่มเติมที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน
ในการซื้อทองคำนั้นยังต้องพิจารณาร้านทองที่มีความน่าเชื่อถือโดยสังเกตจากการมีฉลากที่ระบุถึงที่มาของทองคำ แหล่งผลิตและราคารับซื้อคืน อีกทั้งก่อนซื้อทองจากร้านใดควรตรวจสอบกับร้านทองทั่วไปว่ารับซื้อทองคืนจากร้านนี้หรือไม่ บางร้านจะรับซื้อทองคืนจากร้านของตัวเองเท่านั้น เป็นการบีบบังคับการขายและราคารับซื้อคืน ที่สำคัญคือระหว่างการซื้อต้องใส่ใจในขั้นตอนของการชั่งน้ำหนักซึ่งทางร้านจะแสดงให้เห็นอย่างเปิดเผย
อีกประเด็นคือการซื้อทองคำเก็บไว้เองจะมีค่าใช้จ่ายจากการหาที่ปลอดภัยเก็บทองคำด้วย เช่น การเช่าตู้นิรภัยของธนาคาร เป็นต้น ถ้าหากไม่ต้องการซื้อทองคำด้วยตัวเองก็สามารถลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวมซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนในทองคำจากสถาบันการเงินต่างๆ หรือการลงทุนด้วยการซื้อ-ขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futures) และรูปแบบสุดท้าย คือการลงทุนในหุ้นของบริษัทมหาชนที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับทองคำ ผู้ลงทุนต้องศึกษารายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัดในการลงทุนแบบต่างๆ อย่างละเอียด รวมไปถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ ค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งสวนทางกับราคาทองคำ และราคาน้ำมันที่มีทิศทางเดียวกันกับราคาทองคำ หมั่นติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ลงทุนด้วยกระแสเงินสดอิสระหรือเงินเย็น รู้จักกระจายความเสี่ยงไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องมีวินัยในการลงทุน มีจุดมุ่งหมายในการลงทุน และดำเนินตามแผนการที่วางเอาไว้อย่างเคร่งครัด
พระเครื่อง
ภาพ via allbuddhas.com
การเช่าพระเครื่องนั้นสามารถสร้างผลตอบแทนให้คุณได้เช่นกัน แถมยังได้สิ่งที่เป็นสิริมงคลมาอยู่กับตัวด้วย แต่การเลือกพระเครื่องนั้นถ้าหากไม่ใช่เซียนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ตั้งแต่การแยกให้ออกระหว่างของแท้และของปลอม ไปจนถึงการเลือกรุ่นที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ หรือรุ่นที่เซียนพระเครื่องเล่นกัน
ราคาของเพราะเครื่องนั้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากจำนวนการผลิตหรือปลุกเสกที่จำกัดในแต่ละรอบซึ่งมีน้อยกว่าความต้องการของผู้เลื่อมใสศรัทธาเสมอ ยิ่งเป็นพระเครื่องจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังยิ่งเป็นที่ต้องการมากในตลาด
วิธีการที่จะสามารถทราบความต้องการของพระเครื่องแต่ละรุ่นได้ต้องพิจารณาจากพระอาจารย์ว่ามีลูกศิษย์และผู้นับถือมากน้อยเพียงใด และมีการผลิตพระเครื่องออกมาบ่อยครั้ง จำนวนมากแค่ไหน ถ้าหากเป็นพระอาจารย์ชื่อดังที่ไม่เคยมีการปลุกเสกพระเครื่องออกมาเลยย่อมเป็นที่ต้องการมาก นอกจากนี้ความต้องการก็อาจจะเพิ่มขึ้นตามรุ่นก็ได้ เช่น รุ่นที่มีการออกแบบเป็นพิเศษ หรือมีเนื้อวัสดุที่พิเศษ เป็นต้น
สำหรับพระเครื่องที่ไม่เคยเสื่อมความนิยมไปจากตลาดเลย อาทิ หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ สมเด็จวัดปากน้ำ ซึ่งเป็นที่ต้องการมาก ราคาเพิ่มขึ้นทวีคูณโดยเฉพาะในรุ่น 1-3
ไวน์ชั้นเลิศ
ภาพ via www.ccwinsurance.com
ใครจะไปเชื่อว่าการซื้อเครื่องดื่มเก็บเอาไว้จะสามารถเป็นการลงทุนได้ โดยเฉพาะเครื่องดื่มประเภทไวน์ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติดีขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา ยิ่งเก่ายิ่งรสชาติดี ดังนั้นการเก็บไวน์เอาไว้จึงทำให้มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับความอร่อยของไวน์ที่เพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันเมื่อระยะเวลาผ่านไปไวน์ที่ผลิตพร้อมกันล็อตเดียวกันก็จะถูกบริโภคให้หมดไปเรื่อยๆ ทำให้เหลือไวน์ในล็อตนั้นอยู่จำกัด เมื่อมีปริมาณจำกัดก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคาของไวน์เพิ่มสูงขึ้น
สำหรับไวน์ที่เหมาะแก่การลงทุนก็ต้องเป็นไวน์ที่อยู่ในกระแสความนิยมอย่างยี่ห้อ Chateau Latour, Chateau Lafite-Rothschild, Chateau Margaux, Chateau Haut-Brion และ Chateau Mouton-Rothschild เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตาม การลงทุนในไวน์นั้นมีความเสี่ยงระดับหนึ่ง เพราะไวน์แต่ละประเภทจะมีรสชาติที่ดีเยี่ยมที่สุดในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น การเก็บไวน์เอาไว้นานๆ อาจทำให้รสชาติแย่ลงก็เป็นได้ อีกทั้งการเก็บไวน์เอาไว้ก็ต้องมีการรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสม และระมัดระวังเรื่องแสงที่มีผลต่อรสชาติและสีของไวน์ได้ ผู้ลงทุนจึงต้องมีความรู้เรื่องไวน์และต้องมีความเอาใจใส่อย่างมาก
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com
อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่