หลอดLEDดีจริงหรือ?

Kanchana Paha21 พ.ค. 2558

LED Lights

หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของหลอดแอลอีดี (LED) กันมาบ้างแล้ว ในฐานะที่เป็นหลอดไฟแบบใหม่ที่กำลังเข้ามาแทนที่หลอดประหยัดไฟหรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่เราคุ้ยเคยกันดี แต่หลอด LED นั้นมีข้อดีและให้ประโยชน์ต่อผู้ใช้งานอย่างเราๆ และโลกใบนี้อย่างไร ควรค่ากับการเปลี่ยนใจหันมาใช้หรือไม่ DDproperty มีข้อมูลที่จะช่วยไขข้อข้องใจให้กับคุณ

จากการคาดการณ์ของแมคคินสกี้ สถาบันเฉพาะทางที่ศึกษาด้านมาตรการการบรรเทาภาวะโลกร้อนทั่วโลก ระบุว่า ในปี 2558-2559 นี้ยอดการใช้งานหลอด LED จะเติบโตสูงสุดหลังจากที่เก็บข้อมูลด้านการตลาดมาตั้งแต่ปี 2552 โดยเป็นการเปรียบเทียบอัตราการเติบโตกับหลอดไฟอีก 5 ประเภทที่มีการใช้งานอยู่ ได้แก่ หลอดไส้ หลอดตะเกียบ หลอดฟลูออเรสเซนต์ หลอดความเข้มสูง HID และหลอด LED ซึ่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก คุณสมบัติที่ทำให้หลอด LED มีความน่าสนใจคือกินไฟน้อยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

LED Lights
ภาพ via thegreenage.co.uk

หลอด LED ประหยัดพลังงานแค่ไหน

ความสามารถในการประหยัดไฟฟ้านั้นเป็นจุดเด่นของหลอด LED ที่หลายๆ คนอาจเคยได้ยินมา ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) นั้นได้ศึกษาผลการประหยัดด้วยการเปลี่ยนโคมไฟถนนจากเดิมใช้หลอดไฟแบบ High Pressure มาเป็นหลอด LED โดยการทดลองนี้ดำเนินการในพื้นที่เขื่อน 4 แห่ง คือ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งทั้ง 4 เขื่อนมีจำนวนโคมไฟรวมกันทั้งหมด 1,607 โคม

LED street lights
ภาพ via optimuslights.com

ผลจากการทดลองพบว่าหลังจากเปลี่ยนมาใช้หลอด LED แล้วสามารถประหยัดไฟได้มากถึง 230 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่ากับ 72% เมื่อพิจารณาจากหน่วยพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ลดลงไป 1.01 ล้านหน่วย/ปีเลยทีเดียว หรือคิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 2.7 ล้านบาทต่อปี รวมไปถึงสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 554 ตันต่อปี

จะเห็นว่าหลอด LED นั้นสามารถประหยัดไฟฟ้าได้อย่างมากเมื่อเทียบกับหลอดไฟประเภทอื่น ส่วนสาเหตุที่ทำให้หลอด LED ประหยัดไฟมากกว่าหลอดประเภทอื่น ที่เห็นได้ชัดก็คือลักษณะของการให้แสดงสว่างของหลอด LED นั้นจะใช้เพียงวงจรเล็กๆ ให้ไฟฟ้าวิ่งไปที่ตัวหลอด ไม่ต้องผ่านการแปลงไฟฟ้า หรือเผาไส้หลอดให้ร้อนจนมีแสงออกมาซึ่งทำให้สูญเสียพลังงานไปแบบหลอดไฟแบบอื่นๆ

อายุการใช้งานของหลอด LED

หลอดชนิดนนี้มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดถึง 50,000 ชั่วโมง ในขณะที่หลอดไฟประเภทอื่นๆ อย่างหลอดไส้นั้นมีอายุการใช้งานที่ประมาณ 1,000-2,000 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือเป็นหลอดไฟที่มีอายุการใช้งานสั้นที่สุด ส่วนหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั้งหลอดผอมและหลอดตะเกียบนั้น อายุใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 และ 8,000 ชั่วโมง ตามลำดับ

LED lighting in commercial building
ภาพ via ledcents.com

จะสังเกตว่าไม่มีหลอดไฟชนิดใดที่มีอายุการใช้งานนานถึงครึ่งหนึ่งของหลอด LED เลย แต่อายุการใช้งานที่ยาวนานของหลอด LED ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า แต่หากคุณใช้งานแบบต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานก็คุ้มค่าอยู่ไม่น้อย

นอกจากจะประหยัดไฟและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานแล้ว คุณสมบัติเด่นอื่นๆ ของหลอด LED ได้แก่

ความปลอดภัย
การที่หลอดไฟใช้กำลังไฟต่ำเพื่อให้ได้แสงสว่างเท่าๆ กับหลอดชนิดอื่นทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่า แม้แต่การติดตั้งในบริเวณที่มีการสั่นสะเทือนหรือเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เช่น บนพาหนะต่างๆ ก็ไม่มีปัญหาไฟตกหรือไฟกระพริบ นอกจากนั้นตัวหลอดไฟไม่ได้บรรจุแก๊สแบบหลอดไฟประเภทอื่นๆ อย่างหลอดฟลูออเรสเซนต์ที่บรรจุไอปรอท และฉาบสารเรืองแสงซึ่งเป็นอันตรายหากเกิดการรั่วไหล และเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งตัวหลอดนั้นมีรังสียูวีและอินฟราเรดออกมาในระดับต่ำทำให้ปลอดภัยต่อวัตถุที่ไวต่อแสง

LED Lights
ภาพ via sziledlight.com

รูปแบบการใช้งาน
หลอดไฟประเภทอื่นจะต้องมีอุปกรณ์ในวงจรและใช้เวลาในการที่หลอดไฟจะติดสว่างในการเปิดแต่ละครั้ง แต่หลอด LED นั้นไฟจะสว่างทันทีที่เปิดใช้ จึงเหมาะสำหรับติดตั้งในจุดที่ต้องเปิดปิดไฟบ่อยๆ หรือใช้เป็นไฟฉุกเฉิน รวมไปถึงการที่หลอด LED นั้นแทบจะไม่มีความร้อนออกมาเลยทำให้สามารถติดตั้งไฟประเภทนี้ในตู้เย็น ตู้แช่ ได้ และการใช้หลอด LED ก็ประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศได้เพราะหลอดประเภทนี้ไม่ร้อน อีกทั้งตัวหลอดที่มีขนาดเล็กทำให้สามารถออกแบบให้กลมกลืนไปกับการใช้งานในสถานที่ต่างๆ ได้ดี และความสามารถในการหรี่ไฟ และปรับสีสันของไฟได้โดยไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์

colorful-led-lighting
ภาพ via homemydesign.com 

อย่างไรก็ดี เจ้าหลอด LED ก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ ระดับราคาที่ยังสูงกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆ ค่อนข้างมาก อย่างหลอดฟลูออเรสเซนต์นั้นราคาประมาณ 120 บาท แต่หลอด LED ที่นำมาใช้กับรางหลอดฟลูออเรสเซนต์นั้นราคาถึง 1,100 บาท แต่ในราคานี้ต้องไม่ลืมว่าหลอด LED จะพร้อมใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์อื่นใดในวงจร ทั้งบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์เลย

อีกหนึ่งข้อจำกัดก็คือ หลอด LED นั้นไม่สามารถให้แสงสีขาวที่แท้จริงได้ แต่ทางผู้ผลิตก็มีวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการเคลือบหลอดสีน้ำเงินด้วยสารเรืองแสงสีเหลืองแทน หรือการนำแสงสีแดง เขียว และน้ำเงินมาผสมกันเพื่อให้เกิดเป็นสีขาว

ด้วยคุณสมบัติที่น่าจับตา จึงไม่น่าแปลกใจว่าเพราะเหตุใดความนิยมในการใช้หลอด LED จึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะช่วยคุณประหยัดค่าไฟแล้วเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของเราอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง: การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

ภาพหลัก via  archiexpo.com

 

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย เชษฐพล มานิตย์ นักเขียนออนไลน์ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ chetapol@ddproperty.com

 

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

ศรัทธา ดำรงเกียรติ
Aug 08, 2015
ขออนุญาตแชร์บทความนี้ครับ
เขียนความเห็น